เพื่ออนาคตของลูกศิษย์จะได้มีวิชาความรู้ติดตัว ไม่ต้องหมดโอกาสทางการศึกษาเพราะขาดทุนทรัพย์ ครูวิภา บานเย็น เซ็นชื่อทันที ค้ำประกันกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้ลูกศิษย์จำนวนถึง 60 คน
10 ปีผ่านไป หมายศาลมาถึงครู พร้อมคดีความที่นำสู่การถูกคำสั่งยึดบ้านและที่ดินเพื่อขายทอดตลาดเป็นทรัพย์มา ใช้หนี้
หนี้ที่อดีตนักเรียนของครูมากกว่า 20 คน เพิกเฉย ไม่จ่ายคืนกยศ.
เมื่อลูกหนี้โดยตรงไม่ใช้ ผู้ค้ำประกันจึงต้องรับผิดชอบ ซึ่งไม่เพียงสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น ยังต้องเสี่ยงต่อการถูกสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย ต้องถูกออกจากราชการ สิ้นความเป็นครูทันที
เรื่องของครูเป็นข่าวใหญ่ ล่าสุด กยศ.ร่วมกรมบังคับคดี มีแนวทางดูแลช่วยเหลือแล้ว
ครูเปิดใจ ช่วงปี 2541-2542 ได้เซ็นชื่อค้ำประกันให้กับเด็กๆ ในการกู้ยืมเงิน กยศ. เพราะผู้ปกครองเด็กไม่สามารถมาเซ็นได้ เป็นนักเรียนในความดูแล เพราะเป็นครูประจำชั้นและเห็นว่านักเรียนจะได้มีเงินสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียน คิดเพียงให้เด็กนักเรียนจะได้มีอนาคตในด้านการศึกษา รวมจำนวนนักเรียน 60 คน คนละประมาณหมื่นกว่าบาท
กระทั่งเมื่อต้นปี 2551 ก็โดนหมายศาลขาดชำระการกู้ยืมเงินของนักเรียน ว่ามีการเรียกให้นักเรียนผู้กู้ดำเนินการชำระหนี้สินที่กู้มา ซึ่งช่วงนั้นตนก็ติดต่อ ประสานเด็กๆ และพ่อแม่รวมถึงญาติของเด็กๆ เพื่อให้ชำระหนี้ เพราะมีเอกสารให้นักเรียนไปดำเนินการผ่อนชำระและไกล่เกลี่ยประนอมหนี้
ครูวิภากล่าวว่า จากนั้นได้ย้ายจากโรงเรียนดังกล่าวไปสอนอีกโรงเรียน ขณะที่เหลือนักเรียนจำนวน 30 ราย ที่ยังไม่ดำเนินการชำระหนี้สิน
ที่สุด ถูกบังคับคดีให้ชำระหนี้แทน โดยมีหมายศาลมายึดบ้านและที่ดินแล้ว
วัย 47 ปี เส้นทางราชการครูเริ่มเมื่อปี 2538
เป็นคุณครูระดับชั้นมัธยมศึกษา ก่อน
ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร
วอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางแก้ไขปัญหา และวอนขอร้องนักเรียนที่กู้เงินไปให้เห็นใจครู ครูเซ็นค้ำประกันเพราะเห็นว่าจะทำให้นักเรียนมีอนาคตทางการศึกษาที่ดี แต่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้ครูเดือดร้อนมาก
ความช่วยเหลือมาจาก กยศ.แล้ว ชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการ กยศ. เผยว่า จากกรณีดังกล่าวที่ถึงขั้นบังคับคดีกับครูที่เป็นผู้ค้ำประกันนั้น เนื่องจาก กยศ.ไม่พบทรัพย์ของจำเลย แต่พบทรัพย์ของครู จึงดำเนินการยึดทรัพย์
ยืนยัน เพื่อช่วยเหลือครูวิภา กยศ.จึงประสานกับกรมบังคับคดี ชะลอการยึดทรัพย์เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
ระบุ ขณะนี้ กยศ.มีอำนาจดำเนินการตามพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้กู้ คาดว่าภายในอีก 2 ปี กยศ.จะดำเนินการหักเงินเดือนของผู้กู้ กยศ.ทั้งภาครัฐ และเอกชนได้หมด
ผู้จัดการ กยศ.
สำเร็จปริญญานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ปริญญาโทสาขาวิชาการจัดการภาครัฐและเอกชน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
เคยเป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
ย้ำ กองทุนมีความจำเป็นต้องสืบทรัพย์บังคับคดีตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากเงินกู้ยืมเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชน
ด้านอธิบดีกรมบังคับคดี รื่นวดี สุวรรณมงคล กล่าวว่า หลังรับทราบรายละเอียดได้ประสานไปยัง ผู้จัดการ กยศ. เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาเร่งด่วนให้กับครูที่มีความตั้งใจดี ยอมค้ำประกันหนี้กู้ยืมให้กับลูกศิษย์เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและมีอนาคตที่ดี แต่ต้องมารับสภาพหนี้ เพราะลูกศิษย์ขาดสำนึกรับผิดชอบ ไม่ชำระคืนเงินกู้ยืมจนเป็นผลให้ครูต้องแบกรับหนี้
กยศ.ตอบรับว่า จะยื่นหนังสือขอระงับการบังคับคดีและการขายทอดตลาดทรัพย์ของครูไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อให้คดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ในชั้นบังคับคดี นอกจากนี้ กยศ.จะเร่งสืบทรัพย์และติดตามตัวอดีตนักเรียนผู้กู้ยืมเงินเพื่ออายัดเงินเดือน หรือนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้คืนให้กับ กยศ.
อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวด้วยว่า สำหรับปัญหาการบังคับคดีหนี้ กยศ.โดยเฉพาะกับกลุ่มครูที่ยอมเป็นผู้ค้ำประกันหนี้นั้น กรมบังคับคดีจะเร่งหารือกับ กยศ. เพื่อวางแนวทางการแก้ปัญหาในภาพรวม ทั้งนี้ เพื่อแยกหนี้จากการค้ำประกันเงินกู้ยืมของ กยศ. จากหนี้ครัวเรือนและหนี้อื่นๆ ของข้าราชการครู
นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนติบัณฑิตไทย นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ลูกหม้อกระทรวงตาชั่ง ผ่านตำแหน่งสำคัญ อาทิ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และรอง ผอ.สํานักงานกิจการยุติธรรม
นั่งอธิบดีครั้งแรกที่กรมคุมประพฤติ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
16 ก.ค. 2557 คสช.มีคำสั่งตั้งเป็นอธิบดีกรมบังคับคดี
และ 17 ก.ค. 2561 ครม.ต่อเวลาให้เป็นอธิบดีกรมบังคับคดีอีก 1 ปี
แถลงจากกรมบังคับคดี กยศ.จะระงับการบังคับคดีและขายทอดตลาดในเดือน ส.ค.นี้ไว้ชั่วคราว เพื่อให้ฝ่ายกฎหมายเพิ่มความเข้มข้นในการติดตามตัวและทรัพย์ของลูกหนี้ รวมถึงผู้ค้ำประกันรายอื่นที่มีความสัมพันธ์เป็นญาติหรือผู้ปกครองของลูกหนี้
แต่หากท้ายที่สุด กยศ.ไม่สามารถตามทรัพย์จากลูกหนี้ได้จริงๆ จะแจ้งข้อมูลและบอกกล่าวล่วงหน้าให้ครูวิภาทราบก่อนจะบังคับคดีตามกฎหมาย
ครูวิภาจึงยังมีความกังวล แม้ กยศ.จะชะลอการบังคับคดี แต่ไม่ได้หมายความว่าคดีจะสิ้นสุด เพราะถ้าสืบทรัพย์ของเด็กไม่ได้ก็จะวนมาที่ตัวเองอยู่ดี ท้ายสุดคน ค้ำประกันรอเวลา ถ้าเด็กไม่จ่าย คน ค้ำประกันเตรียมตัวรับหมายศาลได้เลย
อยู่ที่สำนึกรับผิดชอบของลูกหนี้ที่เคยเป็นลูกศิษย์ครูแล้ว