ฉับพลันที่ สุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุถึงความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริงการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200
ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้คดีขาดอายุความ
แต่ยอมรับว่า การจะวินิจฉัยว่าถูก-ผิด ทำได้ยาก
ระบุบางครั้งไม่ได้อยู่ที่มูลค่าของเครื่อง แต่เป็นเหมือนความเชื่อ เหมือนพระเครื่อง เจ้าหน้าที่นำไปใช้แล้วรู้สึกว่าคุ้มค่า
นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เป็นการสอบ ทุจริตที่แปลกมาก
วัย 69 ปี
ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
จบเนติบัณฑิตไทย และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์
เริ่มไต่เต้ามาจากผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2535
2540 ขึ้นเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์
2551 นั่งเก้าอี้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้
ถัดมาปีเดียวขึ้นตำแหน่งประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5
2553 ขึ้นประธานศาลอุทธรณ์ภาค 3
2554 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
ต่อมาเป็นผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
ต.ค. 2558 ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจาก สนช. 173 เสียง ให้ทำหน้าที่กกต.
เมื่อพูดถึงการสอบทุจริตจัดซื้อ จีที 200 ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์