คอลัมน์ ทะลุคนทะลวงข่าว
พลันที่ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คนที่ 1 ออกมาระบุโรดแม็ป การเลือกตั้งอาจต้องเลื่อนออกไปจากปลายปี 2560 ไปเป็นช่วงกลางปี 2561
อ้างสนช.ต้องพิจารณากฎหมายที่คั่งค้างจำนวนมาก รวมถึงกฎหมายลูกอีก 10 ฉบับ ซึ่งอาจต้องตั้งคณะกรรมาธิการร่วมระหว่าง สนช.กับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายลูก หากความเห็นไม่ตรงกัน
กลายเป็นปมร้อนที่พรรคการเมืองพุ่งเป้าโจมตีว่าเป็นเกมการเมืองที่สนช.รับลูกดำเนินการ เพื่อยื้อเวลาต่อท่ออำนาจให้รัฐบาลออกไป
ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ดาหน้ากันออกมาขย่ม
เรียกร้องให้รัฐบาลคสช.แจงเหตุผลให้ชัดเจนหากจำเป็นต้องเลื่อนออกไป
พร้อมเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ต้องตอบสังคมให้ได้จะอยู่เพื่อเปลี่ยนผ่านหรือสืบทอดเสพติดอำนาจ
ถ้าหากไม่ทำตามสัญญา ประกาศให้ชัดเจนเรื่องเลือกตั้ง อาจจะมีคนลุกขึ้นมาทวงสัญญาได้
พรรคเพื่อไทย นำโดย ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานกฎหมาย
ปริญญาตรี นิติศาสตร์ (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย
ปริญญาโท สาขากฎหมายเปรียบเทียบ จาก Southern Methodist University, Dallas รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 สมัยติดต่อกัน
อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และอดีตเลขาธิการนายกฯ (สมชาย วงศ์สวัสดิ์)
ระบุหากดูตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีการกำหนดระยะเวลาไว้ชัดเจนแล้วว่าต้องทำอะไรบ้างตามระยะเวลาเท่าใด โรดแม็ปจึงค่อนข้างจะชัดเจน
ดังนั้น อย่าทำให้คนรู้สึกว่าเป็นการเลื่อนไปโดยไม่มีเหตุผล เพราะขณะนี้เศรษฐกิจมันไปไม่ได้ การบริหารงานหยุดชะงัก ขณะที่การปฏิรูปก็ไม่เห็นมีอะไรก้าวหน้าเลย
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ วิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมาย ส่งเสียงเตือนเช่นกัน
ปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
อดีตสมาชิกสภาจังหวัดสงขลา, อดีตส.ส.สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์
ทำงานเป็นหัวหน้าทีมกฎหมายของพรรค
ชี้ชัดในเมื่อนายกฯ ไปให้สัญญาประชาคมต่อหน้าเวทีสหประชาชาติและผู้นำต่างชาติหลายประเทศ
การทำตามโรดแม็ปที่ประกาศไว้จึงถือเป็นภาระหน้าที่ของผู้มีอำนาจ
ดังนั้น ผู้มีอำนาจจะต้องทำตามโรดแม็ป อย่ายื้อเวลา
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลคสช. หรือแม้แต่สนช.เอง ก็ประสานเสียงยึดโรดแม็ปเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
พล.อ.นพดล อินทปัญญา กรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) ออกมาการันตีเสียงเข้มว่าโรดแม็ปเลือกตั้งยังคงเดิม
บิ๊กกี่ ตท.รุ่น 6 และจปร.รุ่น 17
เพื่อนรักของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม และมีเพื่อนร่วมรุ่นระดับบิ๊ก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พล.อ.วินัย ภัททิยกุล พล.อ.ไพโรจน์ พานิชสมัย พล.อ.อู้ด เบื้องบน
เติบโตสายวงศ์เทวัญ ในกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ผ่านการเป็นเสธ.พล.1 รอ. ผบ.พล.1 รอ. ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หัวหน้านายทหารฝ่ายเสธ.ประจำรองปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ติดยศพลเอกก่อนเกษียณ
อดีตเลขานุการรมว.กลาโหม (พล.อ.ประวิตร) สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
ปัจจุบันนั่งควบเก้าอี้สนช. ที่ปรึกษาและเลขานุการของคสช.
ย้ำชัดเลือกตั้งยังเป็นไปตามเดิมคือภายในปี 2560 ตามที่นายกฯระบุ
เผยด้วยว่า ผู้ใหญ่สั่งการมาแล้วว่า เมื่อกรธ.ส่งร่างกฎหมายลูกมาให้แล้ว สนช.จะต้องพิจารณากฎหมายลูกให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ดีที่สุด และสมบูรณ์ที่สุด
แม้สนช.ต้องทำงานหนักขึ้น ก็ต้องยอมเหนื่อย
เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแม็ปเดิม
เช่นเดียวกับ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย
ออกมาส่งสัญญาณให้ สนช.หยุดพูดเรื่องเลื่อนเลือกตั้ง เพราะพูดแล้วทำให้เกิดความเข้าใจผิด
ยอมรับช่วงหลายเดือนก่อนรัฐบาลบอกว่า การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นได้ในปี 2560 ด้วยสมมติฐานที่ว่าได้ทูลเกล้าฯ ร่างรัฐธรรมนูญไปเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2559 คิดว่าน่าจะได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ลงมาในเดือนพ.ย.2559 แล้วประกาศใช้ต่อไป
ถ้าเป็นอย่างนั้นการเลือกตั้งก็เกิดขึ้นได้ในปี 2560
แต่เมื่อเกิดกรณีสวรรคตทุกอย่างก็เลื่อนไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังยืนตามกรอบเวลาเดิม
นั่นหมายถึงจะเริ่มจากเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงเข้าสู่ขั้นตอนการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ
โดยทั้ง 10 ฉบับจะต้องแล้วเสร็จภายใน 240 วัน ก่อนเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ซึ่งจะต้องเสร็จภายใน 2 เดือน
หากสภาจะแก้ไขเพิ่มเติมจะต้องตั้งกรรมาธิการร่วมกับกรธ. และอาจจะขยายเวลาไปได้อีก 1 เดือน
ย้ำด้วยว่า เมื่อเสร็จแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอนการทูลเกล้าฯและพระราชวินิจฉัยในเวลา 90 วัน เมื่อประกาศใช้ก็เข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง ซึ่งมีเวลา 5 เดือน แล้วแต่จะเลือกตั้งในเดือนใดก็ได้
ฉะนั้น หากรัฐธรรมนูญยังไม่ประกาศใช้ จะเริ่มนับวันเลือกตั้งไม่ได้
