ทะลุคนทะลวงข่าว : จาก200เหลือ50สู่ส.ว. ‘ธนา-ศุภชัย-เลิศรัตน์’ คว้าตั๋วไปให้คสช.คัด

ทะลุคนทะลวงข่าว : จาก200เหลือ50สู่ส.ว. ‘ธนา-ศุภชัย-เลิศรัตน์’ คว้าตั๋วไปให้คสช.คัด – ปรากฏชื่อ ศุภชัย สมเจริญ อดีตประธานกกต. ธนา เบญจาทิกุล อดีตทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร และพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) รวมอยู่ใน 200 ผู้ผ่านเข้ารอบการเลือกตั้งส.ว.ระดับประเทศ ซึ่งกกต.จัดขึ้นเมื่อ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เป็น 200 รายชื่อจาก 10 กลุ่ม ที่กกต. จะส่งให้คสช. คัดเลือกเหลือผู้ทำหน้าที่เป็น ส.ว. 50 รายชื่อ และขึ้นบัญชีสำรอง 50 รายชื่อ

ระบุจากประธานกกต. กระบวนการจับสลากในวันนี้ คิดว่าถูกต้องและโปร่งใสมากที่สุด ผู้สมัครก็เป็นสักขีพยานในการจับสลาก แต่ถ้ามีมูลการทุจริตก็ต้องเสนอให้กกต.พิจารณาประกาศต่อสาธารณชนหรือไม่ เพราะกฎหมายระบุเพียงให้กกต.เสนอรายชื่อต่อคสช.เท่านั้น

ทั้งนี้ กติกาการได้มาซึ่ง ส.ว. 250 คนในยุคคสช.คือ ให้ประชาชนสมัคร หรือกลุ่มวิชาชีพ 10 กลุ่มส่งสมัคร แล้วคัดเลือกกันเองในแต่ละกลุ่มจากอำเภอไปสู่จังหวัด จนไปถึงระดับประเทศให้เหลือ 200 คน แล้ว คสช.คัดเอา 50 คน ไปรวมกับอีก 200 ส.ว.ที่มาจากคณะกรรมการสรรหา ส่งชื่อให้ คสช.เลือก 194 คน และอีก 6 คน เป็นโดยตำแหน่ง

เผยจาก ศุภชัย สมเจริญ อดีตประธานกกต. ซึ่งได้รับเลือกเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ว่า การลงสมัครไม่ได้คาดหวังอะไร เพียงต้องการมาทดสอบระบบการบังคับใช้กฎหมาย และเห็นว่าการให้ลงคะแนนเลือกกันเอง 2 คน ถ้าไม่ใช่เป็นบทเฉพาะกาลคงต้องแก้ไข แต่ในอนาคตที่กฎหมายกำหนดให้เป็นการเลือกไขว้ระหว่างกลุ่มวิชาชีพน่าจะดีกว่า

กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับโทรศัพท์ขอคะแนน มีแต่โทร.มาแนะนำตัว หลังจากนี้ยังต้องไปลุ้นกันอีกว่า คสช.จะเลือกตนหรือไม่

โดยเห็นว่า คสช.ไม่จำเป็นต้องเลือกคนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มแต่ละสายไปอยู่ในบัญชี 50 คน ทั้งหมดเป็นดุลพินิจที่ไม่ขอก้าวก่าย เพราะเป็นอำนาจของ คสช.โดยตรง

อดีตประธานกกต.ว่า หากได้รับเลือก ก็จะใช้ประสบการณ์ในฐานะอดีตประธานกกต. ในการทำงาน

วัย 69 เกิด 8 ก.พ. 2492 สำเร็จนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) ธรรมศาสตร์

มีตำแหน่งเป็นผู้พิพากษาอาวุโสใน ศาลฎีกา ก่อนนั่งเก้าอี้ กกต.

ได้รับการโหวตให้ดำรงตำแหน่งประธาน 13 ธ.ค. 2556

พ้นตำแหน่งมารับการเลือกเป็นส.ว.

ถามถึงการเลือกนายกรัฐมนตรี ในหน้าที่ของส.ว. ตอบว่า ยังไม่ได้มองไปขนาดนั้น เพราะยังไม่รู้ว่าคสช.จะเลือกตนเข้าไปเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่

อีกหนึ่งคือ ธนา เบญจาทิกุล อดีตทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับเลือกให้เป็น ส.ว.สายสมัครด้วยตนเอง กลุ่มที่ 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

ผ่านเข้ามาด้วยวิธีการจับสลากเลือกกันเอง เนื่องจากเป็นผู้ได้รับคะแนนลำดับท้ายที่มีผู้สมัครอื่นได้คะแนนเท่ากัน

ว่าการที่กฎหมายให้ผู้สมัครส.ว. ลงคะแนนเลือกกันเอง ก็ถือว่าเป็นประชาธิปไตยทางหนึ่งอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับเลือกแล้วก็ยังต้องไปลุ้นว่าจะได้รับเลือกจาก คสช. หรือไม่

ซึ่งตนมองว่า คสช.ไม่จำเป็นต้องเลือกผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มของแต่ละสายไปอยู่ในบัญชี 50 คน แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคสช. เพราะคะแนนที่ผู้สมัครแต่ละรายได้มากหรือน้อย เป็นเพียงกระบวนการคัดเลือกให้ได้มาเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าใครเหนือกว่าใคร

และเมื่อได้รับเลือกแล้ว ถือว่าทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน และมีคุณสมบัติพร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อบ้านเมือง

นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เคยเป็นกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กรรมการอำนวยการสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความ และกรรมการอำนวยการสถาบันวิชาชีพนักกฎหมายชั้นสูง สภาทนายความ

รองประธานฝ่ายวิชาการ สภาทนาย ความ และประธานโครงการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายสำหรับประชาชน สภาทนายความ

และเป็นเลขาธิการสภาทนายความ

มั่นใจ มีคุณสมบัติพอที่จะทำงานเพื่อบ้านเมืองได้

ทั้งย้ำ ไม่ได้เป็นคนของใคร แม้ในอดีตจะเป็นทนายความให้กับนักการเมือง ก็เป็นการประกอบอาชีพ แต่ปัจจุบันก็พยายามไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเขาจะเห็นว่าเรามีความสามารถหรือไม่

ด้าน “เสธ.อู้” พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช อดีต สปท. ได้รับเลือกในกลุ่มประเภทองค์กรแนะนำชื่อในกลุ่มอื่นๆ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยทำหน้าที่เป็นทั้งส.ว. และเป็นสปท. เมื่อเห็นว่ากฎหมายเปิดโอกาสให้มีการเลือกส.ว. จึงมาสมัคร เผื่อมีโอกาสได้ทำงานที่ได้เคยทำมาก่อนแล้ว โดยมีองค์กรสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อ

เผย ไม่ได้คาดหวังเรื่องที่คสช. จะเลือกให้เป็น 1 ใน 50 คนหรือไม่ การเลือกของคสช.คงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาว่าใครทำหน้าที่ได้อย่างไรบ้าง เราคงไปตอบไม่ได้ว่าใครดีกว่าใคร

รวมทั้งไม่มองว่า การเลือก 50 คนของคสช. จะเลือกเฉพาะคนที่จะเลือกท่านเป็นนายกฯ เพราะการเลือกนายกฯ ต้องอาศัยเสียงทั้งส.ว. และส.ส. ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วเสียงเกินครึ่งของสภาอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่พอดิบพอดี

ฉะนั้นการเลือก 50 คนของคสช. คงไม่ได้พิจารณาเฉพาะปัจจัยดังกล่าวเพียงปัจจัยเดียว แต่น่าจะดูเรื่องของคนที่จะเข้าไปทำงานด้วยมากกว่า

วัย 71 ตท.7 จปร.18 สำเร็จปริญญาตรีวิศวกรรมโยธา จากเดอะ ซิตาเดล ปริญญาโทวิศวกรรมโยธา สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ และปริญญาโทการบริหารระบบ มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

อดีตเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

เกษียณอายุราชการในตำแหน่งจเรทหารทั่วไป

เป็นอีกนายทหารที่มีชื่อเสียงและบทบาททางการเมือง หลังรัฐประหาร 2557 ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน สปท.

ระบุ การเลือกส.ว.ในครั้งนี้ การเลือกกันเองทำให้มีการพึ่งพากันได้ แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเป็นการเลือกไขว้กลุ่ม การพึ่งพากันจะทำได้ลำบาก อีกทั้งจะไม่มีองค์กรเสนอชื่อ และคิดว่าการเลือกในอนาคตจะมีคนสมัครเป็นหมื่นๆ คน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ทั้ง 3 คนต้องเข้าตาคสช.เสียก่อน

อ่านข่าวทะลุคนเรื่องอื่นๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน