คอลัมน์ ทะลุคนทะลวงข่าว

สวนเสียงคัดค้านจากสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย เสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ด้านการเมือง ระบุหลัง สปท.มีมติผ่านรายงานข้อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2557

สาระสำคัญ ลดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนันจากเดิมให้อยู่ในตำแหน่งจนถึงอายุ 60 ปี เหลือให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 5 ปี โดยให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนที่เลือกจากผู้ใหญ่บ้านในตำบลนั้นๆ ที่ลงสมัครรับเลือก ให้อยู่ในตำแหน่งได้คราวละ 5 ปี ไม่จำกัดวาระ

เพื่อให้กำนันที่ได้รับเลือกจากประชาชนได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ ไม่เกิดการผูกขาดอำนาจและสั่งสมอิทธิพลในพื้นที่ รวมทั้งการให้ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปี จากเดิม 5 ปี

ประธาน สปท. การเมือง ระบุว่า จะส่งรายงานดังกล่าวไปให้ ครม.ที่จะรับช่วงไปดำเนินการต่อ โดย ครม.อาจจะส่งให้กฤษฎีกาพิจารณาหรือดำเนินอย่างอื่น เป็นเรื่องของ ครม. ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ว่ากฎหมายนี้จะใช้เวลาเพียงใด เพราะจะต้องคำนึงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ที่จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนด้วย

ค้านแรงมาคือ ยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศ ไทย ชี้ว่า องค์กรกำนันผู้ใหญ่บ้านตั้งมา 127 ปี ไม่เคยมีรัฐบาลใดเสนอกฎหมายทำร้ายองค์กรเช่นนี้ ทำให้เกิดความแตกแยกอ่อนแอในการปฏิบัติหน้าที่

จึงขอคัดค้านรายงานดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน ซึ่งไม่รู้ว่ามีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ หากให้กำนันอยู่ในตำแหน่ง 5 ปี จะทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง เกิดความไม่เกรงกลัว และเกิดความแตกแยกเลือกข้างในหมู่ประชาชน

การอ้างว่าถ้ากำนันอยู่ในตำแหน่งจนถึงอายุ 60 ปี จะสร้างอิทธิพลเป็นฐานเสียงให้พรรคการเมืองนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าเป็นฐานเสียงจริง การเลือกตั้งในภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์คงไม่ได้ส.ส.มากขนาดนี้ อีกทั้งขณะนี้ประชาชนมีความรู้ คนที่เป็นผู้นำไม่สามารถไปครอบงำได้ ยิ่งมีสื่อโซเชี่ยลมีเดียคอยติดตามการทำงานของกำนันผู้ใหญ่บ้านตลอด จึงไม่สามารถสร้างอิทธิพลอะไร อย่าเอาบริบทของการเมืองระดับชาติมาโยงกับเรื่องกำนันผู้ใหญ่บ้าน

นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านฯ ว่าด้วย ส่วนประเด็นการประเมินผลงานผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปีนั้น ความจริงกรมการปกครองมีการประเมินผลงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 4 ปีอยู่แล้ว และยังมีมาตรา 14 (6) พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 คอยควบคุมการทำงานของผู้ใหญ่บ้าน สามารถเข้าชื่อลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ง่ายอยู่แล้ว ขอให้ไม่ต้องกังวล

ยืนยัน จะคัดค้านถึงที่สุด แต่คงไม่ถึงเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ เพราะผิดวินัย เนื่องจากกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่จะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร

กำนัน ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สืบเส้นทางจากบิดาที่เคยเป็นกำนันตำบลเดียวกัน

อดีตนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช

ครองเก้าอี้นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทยหลายสมัย

สรุปว่า เป็นการเขียนกฎหมายที่ทำร้ายองค์กรมาก เขียนกฎหมายตามอำเภอใจ

ชี้ว่าการออกแบบที่มาของกำนันและผู้ใหญ่บ้านต้องเลือกตั้งทุกๆ 5 ปี แน่นอนคนเป็นกำนันย่อมเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งที่โดยการตรากฎหมายปกติจะไม่มีผลย้อนหลัง และแม้ว่าการปฏิรูปกำนันและผู้ใหญ่บ้านจะเป็นหนึ่งในการปฏิรูปของรัฐบาล แต่การปฏิรูปจะต้องไม่ทำให้เกิดการกระทบกับองค์กรนั้นๆ

ระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อ สปท. ผ่านรายงานฉบับนี้ไปแล้วก็ต้องอยู่ที่รัฐบาล หากให้เลือกตั้งก็ต้องเลือกตั้ง สำหรับตนไม่หวั่นอยู่แล้ว และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็มีสมาชิกจำนวนมากเหมือนเช่นนักการเมืองในท้องถิ่น

ส่วนความเคลื่อนไหวของสมาคม ยืนยันจะไม่มีการเคลื่อนไหวหรือจัดการชุมนุมใดๆ ทั้งสิ้น และจะไม่สร้างความวุ่นวาย ความเดือดร้อน หรือทำอะไรที่จะกระทบความมั่นคง

สําทับด้วยเสียงจากสมาชิกสปท. สายอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึง ปรีชา บุตรศรี

บรรดาอดีตพ่อเมืองอภิปรายกันว่าจะสร้างความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่ายประชาชนในพื้นที่เป็นกลุ่มๆ

จึงไม่อยากให้นำเรื่องการเมืองระดับชาติมาเชื่อมโยงกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน

และว่า วาระการทำงาน 5 ปี เป็นการทำงานที่สั้นเกินไป ทำให้ไม่มีความต่อเนื่องในการทำงาน ควรให้อยู่ในตำแหน่งถึงอายุ 60 ปีตามเดิม

และยิ่งให้เลือกตั้งบ่อยๆ จะยิ่งสิ้นเปลืองงบประมาณ

อดีตผู้ว่าฯ สิงห์ดำ รัฐศาสตรบัณฑิต (การปกครอง) และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร นักปกครองระดับสูง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และการบริหารจัดการในภาครัฐและภาคประชาชน มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย

เคยเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

อดีตผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ อุทัยธานี นครปฐม และปทุมธานี ก่อนเกษียณในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ปี 2554

ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ

ชี้แจงจากประธาน สปท.การเมือง ยืนยันว่าข้อเสนอสปท.การเมืองกลั่นกรองอย่างรอบคอบ ขอให้สมาชิกถอดหัวโขนเดิมออก เพราะหากไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ยึดติดแนวคิดเดิม การปฏิรูปจะเกิดไม่ได้

ตั้งคำถาม หากปล่อยให้กำนันอยู่ในอำนาจแบบผูกขาดถึงอายุ 60 ปี ถ้าได้คนไม่ดีจะทำอย่างไร แต่ถ้าให้อยู่ในวาระ 5 ปี จะทำให้กำนันมีความกระตือรือร้นในการทำงาน ถ้าเลือกแล้วยอมรับกติกา การเลือกตั้งก็จะไม่ทำให้เกิดแตกแยก

ที่สุด ที่ประชุมลงมติเห็นชอบรายงานฉบับดังกล่าวด้วยคะแนน 91 ต่อ 27

ประธาน สปท. การเมือง เสรี สุวรรณภานนท์ ปริญญาตรีและปริญญาโทนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเนติบัณฑิตไทย

อดีตทนายความ และเลขาธิการสภาทนายความ

อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งเคยเป็น ส.ว.กรุงเทพมหานคร

ยืนยัน รายงานว่าด้วยการลดวาระ เป็นประโยชน์กับประชาชนที่จะเลือกกำนันและผู้ใหญ่บ้านมาเป็นผู้นำชุมชนของตัวเองได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน