คอลัมน์ ทะลุคนทะลวงข่าว
สะเทือนวงการข้าราชการต่อกรณีแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายใน จ.แม่ฮ่องสอน ร้องเรียนว่าลูกสาวถูกตำรวจยศ ด.ต.ของสภ.น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน บังคับขายบริการทางเพศ โดยใช้ยาเสพติดล่อลวง และถ่ายภาพเป็นหลักฐาน เพื่อข่มขู่ให้ขายบริการทางเพศ
หากไม่ยอมจะถูกเอาภาพมาประจานและทำร้ายร่างกาย
ที่สำคัญ ยังมีข้าราชการระดับสูง ครู และนายตำรวจในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ซื้อบริการกามเด็กด้วย
นำมาซึ่งการจับกุม น.ส.ปิยะวรรณ หรือเจ๊เมย์ สุขมา อายุ 26 ปี, น.ส.ปิยทัสน์ หรือเจ๊ฟ้า ภาพเทียนสุวรรณ อายุ 30 ปี และด.ต.ยุทธชัย ทองชาติ หรือดาบยุทธ อายุ 42 ปี สังกัด สภ. น้ำเพียงดิน
ข้อหาเป็นธุระจัดหาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ค้าประเวณีให้กับข้าราชการ และร่วมกันค้ามนุษย์ เหตุเกิดที่หอพักภูริช, ปางล้อวิลล่า และสถานที่อื่นเกี่ยวพันกันใน จ.แม่ฮ่องสอน ระหว่างเดือน มี.ค.2556-พ.ย.2559
นำตัวส่งกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ดำเนินคดี
ขณะที่พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภาค 5 ก็มีคำสั่งตั้ง คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตำรวจ 3 นายที่ถูกกล่าวหาซัดทอดจากทาง ผู้เสียหาย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการ กระทำความผิดคดีค้ากามด.ญ.ด้วย
หากพบว่ากระทำผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายและลงโทษทางวินัยต่อไป
เช่นเดียวกับกระทรวงมหาดไทย กฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง มี ประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดมหาดไทย เป็นประธานสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการพาดพิงถึง สืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ซื้อบริการทางเพศเด็กสาวที่ถูกตำรวจข่มขู่
ขีดเส้นให้เสร็จภายใน 30 วัน
ส่วนในพื้นที่ก็มีการเรียกร้องให้เร่งสอบสวนเช่นกัน
บุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ยื่นหนังสื่อร้องเรียนต่อ พ.ต.ท.สะอาด สุนทร ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเหนือ เรียกร้องให้ทางดีเอสไอรับคดีตำรวจบังคับเด็กค้ากามให้แก่บรรดาข้าราชการระดับสูงในพื้นที่แม่ฮ่องสอนเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก
ล่าสุด ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ สอบผวจ. หลังพบว่ารายชื่อข้าราชการที่ระบุอยู่ในสำนวนการสอบปากคำเด็กที่ถูกบังคับค้าประเวณี ในงานเลี้ยงรับรองผวจ.เข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2559 หายไปจากสำนวน
พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ นรต.35 รุ่นเดียวกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.
ปริญญาโท สาขาการบริหารจัดการสาธารณะ (EPA15) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อดีตรอง ผบช.ภ.7 (ปส.) และอดีตรองผบช.น.
ต.ค.2559 ได้แรงหนุนผงาดเป็น ผบช.ภ.5 คุมภาคเหนือตอนบน
นอกจากสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง 3 นายตำรวจแล้ว ยังมอบให้ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการแทนรองผบช.ภาค 5 เป็นหัวหน้าชุด ลงพื้นที่สอบสวนในคดีนี้ด้วย เพื่อสืบสวนว่ามีผู้เสียหายหรือ ผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ รวมถึงในส่วนของผู้ใช้บริการด้วย
เพราะกระทบภาพลักษณ์ของตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์
บุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ เกิด 28 มี.ค. 2512
เคยศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยนนทบุรี และโรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา
ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราม คำแหง
ปี 2539 รับราชการตำแหน่งปลัดอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ และในจ.นครนายก จ.พะเยา สำนักกิจการความมั่นคงภายใน กองตรวจราชการ
ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง เขต 15, 16
ถูกย้ายมาเป็น ปลัดอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จากกรณียื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เกี่ยวกับคำสั่ง คสช.ที่ 6-7/2559 และถูกกล่าวโทษทางวินัย
ขณะที่ ประยูร รัตนเสนีย์ วัย 55 ปี
สิงห์ดำ ปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต (การเมืองการปกครอง) จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสน ศาสตร์) จุฬาฯ
อยู่แม่ฮ่องสอนมาก่อน โดยเป็นนายอำเภอปางมะผ้า ปี 2545
ผ่านตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง ขึ้นรองผวจ.ยะลา ในปี 2555 จากนั้นเป็นรองผวจ.สตูล, รองผวจ.พังงา
ขยับเป็นพ่อเมืองครั้งแรกที่ จ.พังงา ในปี 2557 ปีถัดมาโยกเป็น ผวจ.พระนครศรีอยุธยา
ส.ค.2559 ขึ้นเป็นรองปลัดมหาดไทย
รับผิดชอบงานใหญ่ สอบผู้ว่าราชการกรณีถูกพาดพิงซื้อบริการกามเด็กสาว
ลงพื้นที่ตั้งแต่ได้รับมอบหมาย สอบผวจ.แม่ฮ่องสอน พยานแวดล้อม แม่ของเหยื่อที่กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐและผวจ.
เพื่อสรุปผลเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณา
