ทะลุคน ทะลวงข่าว

ยํ้ายืนยันจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ว่า กรณีร้องเรียนการซื้อขายตำแหน่งในบช.ภาค 8 ได้สั่งย้ายผบช.เพื่อเปิดทางให้สอบสวนให้ชัดเจน ส่วนกรณีนครบาล ยืนยันว่าไม่มีการซื้อขายเก้าอี้ตำรวจในการโยกย้ายแต่งตั้งนายตำรวจล็อตล่าสุด

หลังวิทยา แก้วภราดัย พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ กปปส. ระบุ มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตั้งแต่ระดับสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2559 โดยเฉพาะพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8

ทั้งยังระบุด้วยว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็ซื้อขายด้วยตัวเลขสูงกว่ากองบัญชาการอื่นเป็น 2 เท่า

ผบ.ตร.แถลงทันที ตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว โดยที่ก่อนหน้านี้เคยได้ข่าวคราวในพื้นที่ บช.ภ.8 มีหนังสือร้องเรียนเข้ามา ตนจึงออกคำสั่งให้ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 พ้นจากตำแหน่ง ให้ออกจากพื้นที่มาช่วยงานที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเปิดโอกาสการตรวจสอบทำได้ง่าย โปร่งใส

พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เวลา 15 วัน หากมีมูลความจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

เชื่อว่า จตช.คงเชิญนายวิทยาในฐานะผู้ออกมาพูดเรื่องนี้มาให้ข้อมูลกับชุดสืบสวนข้อเท็จจริง มีหลักฐานใดก็เอาออกมา จะได้ตรวจสอบดำเนินคดีกับคนที่ทำผิด จับให้มั่นคั้นให้ตาย

ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ พล.ต.ท.เทศา ยังไม่มีความผิด เพียงสั่งให้ตรวจสอบจึงให้ออกนอกพื้นที่ เพราะถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของพื้นที่ตรงนั้น

ส่วนในนครบาล ได้สอบถามพล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น.แล้ว ก็ยืนยันว่าไม่มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในนครบาลแน่ๆ ตนเชื่อในผู้ใต้บังคับบัญชา และก่อนหน้านี้ก็ไม่พบการร้องเรียน ซึ่งต่างจากบช.ภ.8 ที่มีข่าวมาตลอดหลายยุค

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการย้าย พล.ต.ท.เทศา ซึ่งสนิทสนมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. เป็นการเอาคืน

คำตอบคือ ไม่มีความขัดแย้งอะไร แต่เมื่อมีการกล่าวหาก็ต้องตรวจสอบไปตามกระบวนการ

“ผมไม่รู้ว่านายวิทยาออกมาพูดมีเหตุผลอะไร หรือพูดเอามันคะนองปาก คงต้องให้นครบาลและฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาว่า เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือเปล่า หากหมิ่นองค์กรหรือบุคคลใดทำให้เสียหาย ก็ต้องดำเนินคดี ยืนยันว่าการแต่งตั้งผมทำคนเดียว ตามขั้นตอนกฎหมาย ตามคำสั่งคสช. มีบางส่วนที่ยกเว้นหลักเกณฑ์ แต่ไม่ใช่ปัญหาเลย”

ส่วนที่กล่าวหาว่ามีนายตำรวจยศ พล.ต.ต. หญ่กว่าพล.ต.อ.นั้น ไม่มี ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนใหญ่ที่สุด มีเพียงนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เท่านั้น ที่ใหญ่กว่า และที่กล่าวหาว่าคนนั้นคนนี้อยู่เบื้องหลังการแต่งตั้ง ไม่มีอยู่แล้ว

บิ๊กแป๊ะ วัย 57 ศิษย์วชิราวุธวิทยาลัย จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 (นรต.36) ปริญญาโทสาขาบริหารรัฐกิจจากสหรัฐอเมริกา ผ่านหลักสูตรการสอบสวน และหลักสูตรเอฟบีไอ สหรัฐอเมริกา

ราชการตำรวจเริ่มจากเป็นนายเวรผู้บังคับการประจำกรมตำรวจ แล้วเป็นสารวัตรแผนกสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองกำกับการสายตรวจ 191 นครบาล ต่อมาเข้ากองปราบปรามในตำแหน่งรองผู้กำกับ ดำรงตำแหน่งนายเวร อ.ตร. (พจน์ บุณยะจินดา) รวมทั้งงานด้านสืบสวนปราบปรามอีกมากมาย รวมทั้งเป็น ผบก.กองตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานแห่งชาติ

ผ่านตำแหน่งสำคัญ อาทิ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จากนั้นย้ายเป็นรักษาการผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กระทั่งต.ค. 2553 เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

เป็นผบช.ภ.9 จนหลังรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 กลับมาปฏิบัติหน้าที่รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

14 ส.ค. 2558 ได้รับเลือกเป็น ผบ.ตร.

เชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบของจเรตำรวจว่าโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ ขอเวลาตรวจสอบก่อน และหากจะให้หน่วยงานภายนอกเข้ามาตรวจสอบก็ยินดี แต่หากเป็นการกล่าวหาให้เสียหายต้องดำเนินการตามกฎหมาย

คนพ้นตำแหน่งเดิมและพ้นพื้นที่ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 มี แกนนำ กปปส. เป็นคนกันเอง

และคนเดียวกันก็จุดชนวนเดือด ระบุการซื้อขายตำแหน่งเหตุเกิดในพื้นที่ภาค 8

นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 32 เกษียณอายุราชการสิ้นต.ค.นี้

เส้นทางสีกากีเติบโตในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะ จ.สุราษฎร์ธานี เคยดำรงตำแหน่งผกก.เกือบทุกพื้นที่ และเป็นผบก.สุราษฎร์ธานีถึง 8 ปี

สนิทยิ่งกับ สุเทพ เทือกสุบรรณ

เคยเป็น ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ขยับเป็น ผบช.ภ.8 ในเดือน ต.ค.2558

พิษซื้อขายเก้าอี้ ทำพ้นเก้าอี้ไปแล้ว

คนต้นเรื่อง วิทยา แก้วภราดัย ว่า คำสั่งโยกย้าย พล.ต.ท.เทศา ผบช.ภ.8 พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งในเขตสถานีตำรวจภูธรภาค 8 การตัดสินใจของ ผบ.ตร. ถ้าถามว่าแก้ปัญหาถูกจุดหรือไม่ ก็ยังไม่ถูกทั้งหมด เพราะต้องแก้ปัญหาทั้งโครงสร้างการบริหาร การตัดสินใจของ ผบ.ตร. เชื่อว่าคงมีข้อมูลเช่นกัน

สำหรับเรื่องการซื้อขายตำแหน่งไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียว ขอให้ ผบ.ตร.ไปดูข้อมูลที่อื่นด้วย โดยเฉพาะในส่วนของตำรวจนครบาลที่บวกไปอีก 2 เท่าของราคา เชื่อว่าคนที่รู้ข้อมูลเรื่องนี้ดีที่สุดคือ ผบ.ตร.

“เรื่องซื้อขายตำแหน่งไม่มีผู้เสียหาย และไม่มีใครกล้าเปิดตัวโดยเฉพาะในนครบาล พอถึงฤดูกาลโยกย้ายก็สั่งย้ายกัน มีตัวใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ที่คนวงการตำรวจรู้จักชื่อกันหมด เอาเป็นว่าประเทศนี้ พล.ต.ต.ใหญ่กว่า พล.ต.อ.”

อ้างด้วยว่าตอนนี้ราคาสูงมาก

ปูดอีกว่ามีกลุ่มนายตำรวจนับสิบนายจ่ายเงินให้แก่ภรรยาลับๆ ของนายตำรวจระดับบังคับบัญชาชั้นสูงเป็นค่าผ่านทางในการเลื่อนตำแหน่ง กลุ่มนายตำรวจเหล่านี้เตรียมตบเท้าเข้าพบเพื่อขอเงินคืน

วัย 62 สำเร็จปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เป็นทนายความก่อนเข้าวงการการเมือง สังกัดพรรคก้าวหน้า พรรคพลังธรรม ก่อนจะย้ายมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส. นครศรีธรรมราชหลายสมัย

เคยเป็น รมว.สาธารณสุข และแกนนำกปปส. ลาออกจากพรรคไปเคลื่อนไหวร่วมกับสุเทพ

ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศแล้วลาออกมาเข้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง 2 พ.ค. 2560

อาสาพาเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อเอาเรื่องกับขบวนการซื้อขายตำแหน่ง ส่วนตำรวจที่จ่ายเงินเพื่อหวังการเจริญก้าวหน้าก็จะขอให้กันไว้เป็นพยาน

ตระเตรียมการไว้เรียบร้อย เพียงแต่ที่มิคาด ฟ้ามาผ่าคนกันเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน