คอลัมน์ ทะลุคน ทะลวงข่าว
‘สารัชถ์’เศรษฐีหุ้น2ปีซ้อน – พิษโควิด-19 ก่อเกิดวิกฤตใหญ่ร้ายแรงทั้งสุขภาพชีวิตผู้คน เศรษฐกิจมหภาคจุลภาคทั่วทั้งโลก
ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน
ผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ประจำปี 2563 จัดโดยวารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียน ผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อน 30 ก.ย.2563
เศรษฐีหุ้นอันดับที่ 1 ยังคงเป็น นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF
ผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของกัลฟ์ สัดส่วน 35.44 เปอร์เซ็นต์
ครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 มูลค่ารวม 115,290 ล้านบาท รวยลดลง 5,670 ล้านบาท หรือ 4.69 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่อันดับ 2 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ-นนทเวช และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส
ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 50,079.31 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้น บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF)
ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ปีนี้ หมอเสริฐ รวยลดลง 16,031.33 ล้านบาท หรือ 24.25 เปอร์เซ็นต์
แต่ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 เศรษฐีหุ้นที่ขยับอันดับอย่างน่าสนใจ คือ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี จาก อันดับ 23 เมื่อปี 2562 ขยับอันดับพรวดขึ้นมาอยู่อันดับ 5
รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 38,178.70 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 27,848.13 ล้านบาท หรือ 269.57 เปอร์เซ็นต์
เป็นผลมาจากการนำ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ซึ่งเป็น Holding Company ที่ถือหุ้นในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ ทีซีซี กรุ๊ป ทั้งกลุ่มธุรกิจโรงแรม และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนต.ค.2562
นอกจากนี้ ยังถือหุ้น บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ (SEG) ซึ่งเป็น Holding Company ของกลุ่มสิริวัฒนภักดี ลงทุนในธุรกิจประกันชีวิต ประกันภัย และลิสซิ่ง
ขณะที่ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ภริยา ก็ขยับขึ้นอย่างน่าสนใจเช่นเดียวกับเจ้าสัวเจริญ โดยจากอันดับ 23 เมื่อปีที่แล้ว ขยับขึ้นมาอันดับ 9 ปีนี้
มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 28,728.70 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 18,398.13 ล้านบาท หรือ 178.09 เปอร์เซ็นต์
สารัชถ์ รัตนาวะดี หรือ ‘เสี่ยกลาง’ วัย 54 ปี
วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมโยธา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการทางวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์ เนีย สหรัฐอเมริกา
กิจการมากมาย ล้วนสายพลังงาน จากเริ่มลงทุนเมื่อ 20 ปีก่อน
กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ตั้งแต่ปี 2537
ปี 2554 ถึงปัจจุบัน กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ปัจจุบันกลุ่มกัลฟ์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ของประเทศ
จำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม
ร่ำรวยโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ทั้งก๊าซธรรมชาติและพลังงานแสงอาทิตย์
ความสำเร็จงดงามจากการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เมื่อ 6 ธ.ค. 2560
ปี 2561 เข้าทำเนียบเศรษฐีไทยครั้งแรก โดยติดอันดับ 7 จากการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2561 ของนิตยสารฟอร์บส์
ติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยครั้งแรกปีเดียวกัน ผงาดอันดับ 2 จากการครอบครองหุ้นกัลฟ์มูลค่า 5.8 หมื่นล้านบาท
ปี 2562 ขึ้นอันดับ 1 เศรษฐีหุ้นประเทศไทย ถือครองหุ้นมูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท ชนะนพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แชมป์เก่าที่ขึ้นแท่นมา 6 ปีติดต่อกัน
ปี 2563 ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นเมืองไทย เป็นปีที่ 2
นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ ‘หมอเสริฐ’
เกิด 22 มี.ค. 2476 อายุ 87 ปี ในตระกูล “ช้างบุญชู” เจ้าของกิจการเวชกรรมโอสถ ก่อนเปลี่ยน นามสกุลเป็น ปราสาททองโอสถ
สำเร็จแพทยศาสตรบัณฑิต ศิริราชพยาบาล
เป็นหมอศัลยกรรม และอาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ ศิริราช
เป็นหมออยู่ 5 ปีลาออกมาประกอบธุรกิจ ตำแหน่งประธานบริษัท กรุงเทพสหกล และที่ปรึกษาบริษัทยูเนี่ยนออยส์
เป็น ผอ.บริษัทปราสาททองโอสถ จำกัด
ปัจจุบัน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ
ปี 2556 ก้าวขึ้นบัลลังก์แชมป์เศรษฐีหุ้น มั่งคั่งคงกระพันอันดับ 1 เศรษฐีหุ้น ตั้งแต่ปี 2556-2561
ปี 2562 หล่นมาอันดับ 2 เนื่องจากหุ้น ที่ถือครองทั้ง 3 บริษัท มีมูลค่าลดลง เหลือ 66,110.64 ล้านบาท
ปี 2563 ยังอยู่อันดับ 2 เศรษฐีหุ้น
เจริญ สิริวัฒนภักดี หรือ ‘เจ้าสัวเจริญ’ เกิด 2 พ.ค. 2487 อายุ 76 ปี นามสกุลเดิม ศรีสมบูรณานนท์
เชื้อสายแต้จิ๋ว ชื่อจีน โซวเคียกเม้ง หรือ เม้ง
ครอบครัว อาชีพขายหอยทอด เรียนจบ ชั้น ป.4 โรงเรียนเผยอิง
ปี 2504 เป็นลูกจ้าง บริษัทย่งฮะเส็ง และห้างหุ้นส่วนจำกัด แพนอินเตอร์ จัดส่งสินค้าให้โรงงานสุราบางยี่ขัน
ปีต่อมาทำหน้าที่ซัพพลายเออร์ ให้โรงงานสุราบางยี่ขัน รู้จักกับ จุลกาญจนลักษณ์ ผู้เชี่ยวชาญการปรุงรสสุรา และ เถลิง เหล่าจินดา เจ้าสัวผู้กุมอำนาจจัดซื้ออุปกรณ์ทุกอย่าง และหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท สุรามหานคร
วิริยอุตสาหะร่ำเรียนจนสำเร็จ ปริญญาตรี และปริญญาโท คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก 12 มหาวิทยาลัยในประเทศไทย
สมรสกับ วรรณา แซ่จิว ปัจจุบันคือ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี
ร่วมกันก่อร่างสร้างตัวจากเล็กสู่ใหญ่ จากการขายสินค้าให้โรงงานสุรา เติบโตก้าวหน้าสู่การเป็นเจ้าของโรงงานสุรา ได้รับสัมปทานโรงงานสุรา
เมื่อเข้าสู่ยุคการค้าสุราเสรี ได้ประมูล โรงกลั่นสุราในนามกลุ่มแสงโสม และขยายกิจการไปสู่ธุรกิจที่ต่อเนื่อง เช่น เบียร์, แอล กอฮอล์, น้ำตาล, บรรจุภัณฑ์ และอื่นๆ
เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลงทุนในกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล กลุ่มนอร์ธปาร์ค กลุ่มพันธุ์ทิพย์ กลุ่มเกษตร
กิจการของกลุ่มธุรกิจสำคัญๆ เช่น กลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ และกลุ่มอาคเนย์ประกันภัย ประกันชีวิต เป็นต้น
เป็นประมุขอาณาจักรไทยเบฟเวอเรจ เครือข่ายธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับชาติ
ปี 2563 เจ้าสัวเจริญ ครองอันดับ 3 มหาเศรษฐีเมืองไทย มูลค่าทรัพย์สิน 3.43 แสนล้านบาท จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์
ขณะที่ทำเนียบเศรษฐีหุ้น เจ้าสัวเจริญ ขยับจากอันดับ 23 เมื่อปี 2562 ขึ้นมาครองอันดับ 5
คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี เดิมชื่อ วรรณา แซ่จิว ภริยาเจ้าสัวเจริญ ประมุขอาณาจักรไทยเบฟเวอเรจ
ลูกสาวของ กึ้งจู แซ่จิว ผู้กว้างขวางแวดวงธุรกิจการเงิน อดีตรองประธานกรรมการธนาคารมหานคร และเพื่อนสนิทร่วมชั้นเรียน ชิน โสภณพนิช เจ้าสัวแบงก์กรุงเทพ
ได้รับพระราชทาน ปริญญาบัตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการจัดการ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ 4 มหาวิทยาลัย
รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รองประธานกรรมการ บริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทแสงโสม
ปี 2563 อันดับ 9 เศรษฐีหุ้นเมืองไทย ขณะที่เจ้าสัวเจริญ สามี ผงาดอันดับ 5
