นะจังงังไปตามๆ กัน กับวาทะกลางกรุงลอนดอนของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

ว่าด้วยหลักนิติธรรมและสำนึกของนักการเมืองและผู้บริหารประเทศ

ว่าด้วยหน้าบาง และอย่างหนาตราช้าง

ยกตัวอย่างการลาออกของสมาชิกสภาขุนนางของอังกฤษ เพราะรู้สึกละอายใจ ที่เข้าร่วมประชุมสภาสาย

แล้วว่า “แต่เมืองไทย มีนาฬิกาใส่ 25 เรือน ยังไม่เป็นไร”

ตามด้วยการให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย ว่าไม่มีทางที่จะเห็นนักการเมืองไทยลาออกเพราะมาสาย เพราะมันเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีลึกๆ อยู่ในสายเลือด เมื่อไม่ได้ฝึกมาแต่เด็กให้หน้าบาง ยาก เมืองไทยเป็นอย่างหนาตราช้าง

“เรื่องนาฬิกา ถ้าผมถูกเปิด โปงเรือนแรก ผมก็ออกแล้ว…ของอย่างนี้ คนก็ไม่กล้าพูด กลัวอะไร ทำไม พูดแล้วมันจะมาไล่ผมออกหรือ”

แรงมั่นอกมั่นใจ

แม้พลันที่ถึงเมืองไทย จะเร่งรุดเข้าขอโทษเจ้าของนาฬิกา ที่ผิดมารยาท

ทั้งแจง แค่พูดคุยกับนักข่าว ไม่ทราบว่ามีการบันทึกเทป ถือได้ว่าไม่ได้เป็นการให้สัมภาษณ์

พัลวันไป แต่ก็จับจ้องกันมาแล้ว

“มติชนสุดสัปดาห์” พาดปก “ป้อมค่าย ตีแตกจากภายใน”

เป็นภายในที่เกิดจากคนกันเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน