ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจรองประธานบริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท นำทีมคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน คนที่อยากเห็นอนาคตที่สวยงาม ทั้งสิ้น 27 คน

เปิดตัว”พรรคอนาคตใหม่”อย่างเป็นทางการ

ใช้โลโก้พรรค เป็นสามเหลี่ยมหัวกลับ ข้างบนเป็นฐานหมายถึงประชาชนส่วนใหญ่ โดยจะทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ใช้สีส้ม เพราะเป็นสีที่มีพลัง สดใส อรุณรุ่ง ผ่องอำไพ

พร้อมยื่นจดตั้งพรรค ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.แล้วเป็นลำดับที่ 58

ประกาศเป็นพื้นที่สำหรับ คนรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมจำนนกับสถานการณ์ปัจจุบันเชิดชูประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์ว่า ทุกคนมีสิทธิเดินตามความฝัน

ระบุด้วยว่า แม้สถานการณ์การเมืองจะพยายามกดขี่ลิดรอนสิทธิของประชาชน ก็พร้อมที่จะยืนหยัดต่อสู้และต่อกรกับองค์กรที่เป็นปรปักษ์กับระบอบประชาธิปไตย

ย้ำพรรคอนาคตใหม่จะเป็นโมเดลระบบประชาธิปไตยของสังคมไทย เป็นพรรคของทุกคนที่รักการเปลี่ยนแปลง

การตัดสินใจจะยึดโยงกับสมาชิก ฟังเสียงของทุกคน

โดยพรรคเติบโตด้วยเงินทุนที่ระดมจากประชาชน ไม่มีใครมีอำนาจเหนือกว่าสมาชิกพรรคเพราะเงิน

ชูธงพรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคทางหลัก ไม่ใช่พรรคทางเลือก

พร้อมสู้กับทุกพรรค สู้ทุกสนามทุกเขตเลือกตั้ง ในทุกชนชั้นอาชีพเพื่อทุกคะแนนเสียง

เพื่อให้พรรคอนาคตใหม่เป็นทางหลักของวันข้างหน้า

ที่สำคัญ ไม่สนับสนุนนายกฯคนนอก

นลัทพร ไกรฤกษ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ข่าวคนพิการ เป็น 1 ใน 27 คนที่ออกมาเปิดตัวร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่

ชื่อเล่น หนู วัย 24 ปี

ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงและต้องใช้รถเข็นในชีวิตประจ..ำวันมาตั้งแต่เด็ก

จบการศึกษาสายวิทยาศาสตร์ จากเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

ปริญญาตรี วิชาเอก สีน้ำมัน และทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วางพู่กันชั่วคราว และเลือกเดินตามวิถีของคนทำงานสื่อ เป็นนักข่าวของสำนักข่าวประชาไท และใช้วีลแชร์ในการทำงานภาคสนาม

ควบคู่กับการทำงานให้เครือข่ายผู้พิการ

ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ข่าวคนพิการทางเลือกwww.thisable.me

เปิดเผยว่า จากการทำงานในวงการสิทธิมนุษยชน ทำให้เห็นว่า เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างในแง่การยอมรับ ความแตกต่าง ความเป็นคนเท่ากัน

โดยประเด็นเรื่องคนพิการจะเติบโตได้ในพื้นที่แห่งนี้

เหตุผลที่เลือกเข้ามาร่วมกับพรรคเพราะประเทศไทยยังให้ความสำคัญน้อยในเรื่องการยอมรับความแตกต่างและการมองคนให้เป็นคนอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งเรื่องเพศสภาพ อุดมการณ์ ฐานะ หรือความพิการ

ที่ผ่านมาคนพิการถูกแยกออกจากสังคม ถูกมองอย่างเป็นภาระและไม่มีศักยภาพ

แต่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้แก้ไขได้ด้วยการออกนโยบายที่มันเอื้อและสนับสนุนความแตกต่างหลากหลาย

เช่นเดียวกับ ชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการด้านการเมืองและกฎหมายประกาศนโยบายที่จะเดินหน้าผลักดัน

วัย 60 ปี เกิดที่อ.เชียงแสน จ.เชียงรายรัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาฯ นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

รัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

อดีตปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่าย ข้อมูลข่าวสาร กองสารนิเทศ กระทรวงมหาดไทย

ผอ.กลุ่มงานวิชาการ และผอ.กลุ่มค้นคว้าและเปรียบเทียบคำพิพากษาสำนักงานศาลปกครองเชียงใหม่

นักวิชาการรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน และประธานองค์การนิรโทษกรรมสากล ประเทศไทย

ที่ผ่านมาพยายามขับเคลื่อนเรื่องการกระจายอำนาจและร่วมผลักดันจังหวัดจัดการตนเอง แต่ไม่เคยมีพรรคไหนพูดถึงเรื่องนี้

ระบุว่า เคยเสนอร่างพ.ร.บ.เชียงใหม่มหานคร ซึ่งว่าด้วยการบริหารจัดการตนเอง ตามรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550ประชาชนสามารถเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายได้ ถือเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญ 2560 ได้ตัดโอกาสนี้ออกไป ทำให้ประชาชนไม่มีสิทธิเสนอชื่อ

ดังนั้น คิดว่าช่องทางพรรคนี้ จึงเป็นเพียงช่องทางเดียว โดยส.ส. 20 คนขึ้นไปก็เสนอร่างกฎหมายได้แล้ว

รวมถึงจะผลักดันงานสิ่งแลดล้อมป่า เรื่องสิทธิชุมชน ซึ่งเขาเองทำงานด้านนี้มานานพอสมควร

ธนาธร ชื่อเล่น เอกลูกชายนักธุรกิจหญิงคนสำคัญสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และเป็นหลานชายคนโตของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แห่งพรรคไทยรักไทย

บัณฑิตคณะวิทยาศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติร่วมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยนอตติ้งแฮม สหราชอาณาจักร

ปริญญาโท 3 ใบ สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง จากจุฬาฯ, การเงินระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และกฎหมายธุรกิจ มหาวิทยาลัยซังต์กัลเลิน สวิตเซอร์แลนด์

ปัจจุบันรองประธานไทยซัมมิทกรุ๊ปจัดตัวเองอยู่ในกลุ่มคนข้างล่าง ที่มาของฉายา “ไพร่หมื่นล้าน” ของแนวร่วมนปช.ปี 2553

เคยร่วมเป็นแนวกันชนระหว่างกลุ่มสมัชชาคนจนกับตำรวจหน้าทำเนียบรัฐบาล สมัยเป็นรองเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)

ผันตัวเป็นนักการเมือง”เลือดใหม่-นิวบลัด” ร่วมกับ ปิยบุตร แสงกนกกุลนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ จัดตั้งพรรคอนาคตใหม่

เรียกร้องให้คสช. ปลดล็อกเพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมได้ และไม่ให้พรรคเล็กเสียเปรียบพรรคใหญ่ ทำให้ทุกพรรคสามารถพบปะประชาชนได้ตามวิถีทางการเมืองปกติ

ลั่น “ตราบใดที่ยังทำงานการเมืองอยู่ เราจะไม่ประนีประนอมกับจุดยืนของเรา ถ้าประนีประนอมเมื่อไร ผมจะลาออก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน