ทะลุคน ทะลวงข่าว

สิ้นเสียงหัวหน้า คสช.ระบุจำเป็นต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.) สมชัย ศรีสุทธิยากร คนถูกถอดก็โพสต์ทันที แนะนำให้ปลดกุนซือกฎหมายของรัฐบาล ชี้อ่อนด้อย ทำเข้าใจผิดปมผู้มีหน้าที่กำหนดวันเลือกตั้ง จนนำมาสู่การใช้ ม.44

ยันด้วย รัฐธรรมนูญให้อำนาจ กกต.กำหนดวัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลั่นด้วยว่ามีความจำเป็น เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางกฎหมายขอมา ซึ่งบอกว่าไม่ไหวแล้ว

อ้างตอนนี้กำลังจะเลือกตั้งแล้ว แต่ก็ทำให้สับสนอลหม่านไปกันหมด เลือกอย่างนั้น อย่างนี้ นายสมชัยเป็นคนกำหนดวันเวลาวันเลือกตั้งหรือ ใครเป็นคนกำหนด รัฐบาลกับคสช.ไม่ใช่หรือ หรือกกต.เป็นคนกำหนด

คนถูกปลดฟ้าผ่าแย้งว่าจากการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ แสดงให้เห็นถึงความอ่อนด้อยของที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนายกฯ สมควรใช้มาตรา 44 ปลดหน่วยงานนั้นด้วย

วัยย่าง 60 สำเร็จปริญญาสาขารัฐ ประศาสนศาสตร์ (ทฤษฎีการบริหารทั่วไป) เกียรตินิยมอันดับสอง คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสน ศาสตร์) เกียรตินิยมดีมาก สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และปริญญาเอกรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

เคยเป็นรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

13 ธ.ค. 2556 เป็น กกต.

20 มี.ค. 2561 พ้นหน้าที่

ที่แจงมาจากรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม ถึงคำสั่งระบุเหตุ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นของตนเกี่ยวกับกระบวนการและกำหนดการเลือกตั้งที่อาจก่อให้เกิดความสับสน ทั้งยังสมัครเข้ารับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. โดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ กกต. ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเป็น การขัดกันแห่งผลประโยชน์

ย้ำ เหตุผลปลดนั้นชัดเจนอยู่แล้ว

ว่าด้วย การจะมีหรือไม่มีนายสมชัย ไม่ได้กระทบต่อการทำงานของรัฐบาล และยืนยันจะไม่กระทบโรดแม็ปการ เลือกตั้ง

ส่วนที่นายสมชัยโพสต์เฟซบุ๊กว่า เป็นเกียรติยิ่งที่ได้เปิดหน้าคสช. คำตอบคือ จะทำอะไรก็ทำไป

รองนายกฯวัย 67 สำเร็จนิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดีมาก เหรียญทองพระราชทาน) คณะนิติศาสตร์ มหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย ปริญญาโทและปริญญาเอกกฎหมาย มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา

เคยเป็นอาจารย์นิติศาสตร์มหา วิทยาลัยรามคำแหง ธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

2534 โอนมารับราชการพลเรือนในสังกัดสำนักนายกฯ จากนั้นอยู่ในเส้นทางการเมืองมาโดยตลอด

ได้ชื่อเป็นเนติบริกรคู่บุญคณะรัฐประหาร

กระทั่งเป็นรองนายกฯ รัฐบาลคสช.

สวนมาคือข้อความจาก จาตุรนต์ ฉายแสง ระบุ การที่นายสมชัยแสดงความเห็นบ่อยๆ ถ้าผิดกฎหมายก็สามารถดำเนินคดีกับเขาได้ แต่ไม่อาจใช้เป็นเหตุปลดนายสมชัยได้

ส่วนการที่นายสมชัยไปสมัครเป็นเลขาธิการกกต.หากไม่ชอบด้วยระเบียบกกต. นายสมชัยย่อมขาดคุณสมบัติไป หรือหากใครเห็นว่ากกต.ออกระเบียบที่ไม่ชอบหรือช่วยเหลือพวกพ้องให้ได้เป็นเลขาธิการกกต. ก็อาจร้องต่อศาลปกครองหรือป.ป.ช.ให้เกิดความถูกต้องได้

การที่หัวหน้าคสช. ออกคำสั่งปลดนายสมชัย เป็นการลงโทษบุคคลโดยไม่ใช้กระบวนการตามกฎหมายปกติ ไม่เปิดโอกาสให้มีการชี้แจงหรือสู้คดี ทั้งยังลงโทษบุคคลไปโดยที่ไม่ปรากฏหรือไม่มีการพิสูจน์ว่าได้ทำผิดกฎหมาย จึงเป็นการทำตามอำเภอใจ เป็นการออกคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม ขัดและทำลายหลักนิติธรรม

เป็นการแทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระที่มีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้ง ดูแลให้พรรคการเมืองปฏิบัติตามกฎหมาย และให้ทุกพรรคการเมืองได้รับความเป็นธรรมเท่าเทียมกัน ทำให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ไม่อาจเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม

และมีผลต่อความเป็นอิสระขององค์กรอิสระทั้งหมด ที่ย่อมหวั่นเกรงว่าอาจถูกคสช.ออกคำสั่งให้โทษเมื่อไรก็ได้ โดยไม่ต้องมีเหตุผลและไม่ผ่านกระบวนการ ตามกฎหมายที่เป็นธรรม

อายุ 62 จบปริญญาตรีและปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

อดีตส.ส.ฉะเชิงเทราหลายสมัย อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายกระทรวง

รัฐประหาร 2557 ถูกควบคุมตัวขึ้นศาลทหาร ฐานไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช.

ต่อสู้เคลื่อนไหวเรื่อยมา และล่าสุด ครั้งนี้ ชี้ เป็นการกระทำตามอำเภอใจ บ้านเมืองเสียหาย และองค์กรอิสระถูกแทรกแซง

เสียงจากฝั่งประชาธิปัตย์ก็มา นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ว่า ตนไม่ทราบว่า คำว่ายุติการปฏิบัติหน้าที่ หมายถึงให้เลิกทำงานไปเลยแล้วไม่ต้องรับเงินเดือนแบบนั้นใช่หรือไม่ แต่ดูจากท่าทีของนายสมชัยที่เก็บข้าวของออกจากสำนักงาน กกต.ก็คงจะเป็นเช่นนั้น ดังนั้นเรื่องนี้จึงกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระของประเทศไทยทุกองค์กร

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า คำว่า องค์กรอิสระหมายถึงองค์กรที่ทำงานอย่างอิสระ ต้องไม่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาลและสามารถทำหน้าที่ได้อย่างสุจริตและเที่ยงธรรม เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรอิสระอื่นๆ ก็มีโอกาสที่จะไม่เป็นองค์กรอิสระเช่นกัน

ต่อไปนี้ประเทศไทยคงไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นต่างออกมา แบบนี้หรือไม่ที่เรียกว่า ไทยนิยม

ระบุนายสมชัยมีบทบาทหน้าที่ในกกต.เป็นอย่างมาก ในหลายๆ เรื่องจะเห็นว่านายสมชัยพูดถูกมากกว่าผิด และพูดถูกมากกว่าคสช. ผู้คนรู้จักหน้าที่ของกกต.ก็โดยการให้สัมภาษณ์ของนายสมชัย ผู้มีอำนาจจึงต้องยอมรับความหลากหลายทางความคิดเห็น

อายุ 61 จบปริญญานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย

จากทนายความมาลงสนามการเมือง เป็นส.ส.พัทลุงทุกสมัยที่ลงเลือกตั้ง

เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

“ขอย้ำว่า ผู้มีอำนาจต้องมีความเมตตา และอดทนยอมรับในความคิดเห็นที่หลากหลาย ถึงจะเป็นสังคมประชาธิปไตยที่ถูกต้อง”

อย่างไรก็ตาม นายสมชัยระบุว่า พ้นจากหน้าที่ ก็จะกลับไปพี-เน็ต เตรียมตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างเข้มข้นว่ามีความเป็นธรรม ซื่อตรง โปร่งใสหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน