หยุดยาว4วันห่วงการ์ดตก

มวย-บอลลีกรอปลดล็อกเฟส 6

ศบค.แถลงพบติดเชื้อ เพิ่ม 6 ราย กลับจากอินโดฯ แอฟริกาใต้ และซูดาน ยอดป่วยสะสม 3,179 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ส่วนในประเทศปลอดเชื้อ 38 วันต่อเนื่อง ห่วงช่วงหยุดยาว 4 วันสุดสัปดาห์นี้ คนแห่เดินทางท่องเที่ยวทั้งในสถานบันเทิง วัด และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ห่วงการ์ดตก เตือนต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ‘บิ๊กตู่’ พอใจประเดิมผ่อนคลายเฟส 5 ไปได้สวย ขอบคุณศธ.-โรงเรียนให้ความร่วมมืออย่างดี แต่สั่งคุมเข้มมาตรการคุมโรค กรมอนามัยเผยแนวทางจัดประชุม นิทรรศการปลอดภัยจากโควิด แนะลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อกำหนดจำนวนคนไม่ให้แออัด จัดอาหารแบบบ็อกซ์เซ็ต ส่วนงานมอเตอร์โชว์ ให้ลงทะเบียนล่วงหน้า แบ่งเข้าชมเป็นรอบ เช็กอินเช็กเอาต์ไทยชนะทุกบูธ พริตตี้ต้องสวมเฟซชีลด์ หากใกล้ชิดมากอาจให้ลิปซิ้ง

นิวนอร์มัล-โรงเรียนสีคิ้ว”สวัสดิ์ผดุงวิทยา” อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จัดโต๊ะโรงอาหารเว้นระยะห่างและมีฉากกั้นขณะที่ในห้องเรียนก็จัดที่นั่งเว้นระยะเช่นกัน กำหนดไม่เกินห้องละ 20-25 คน ตามมาตรการป้องกันโควิด เมื่อวันที่ 2 ก.ค.

ติดเชื้อเพิ่ม6กลับจากตปท.

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ โดยการติดเชื้อในประเทศยังคงเป็น 0 ต่อเนื่อง ไม่มีผู้รักษาหายและไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดผู้

ป่วยสะสมรวม 3,179 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย ตรวจพบในสถานที่เฝ้าระวัง 242 ราย รักษาหายแล้วรวม 3,059 ราย ยังรักษาตัวใน ร.พ. 62 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 58 ราย
ทั้งนี้ในประเทศปลอดเชื้อนาน 38 วันติดต่อกัน

พญ.พรรณประภากล่าวต่อว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย แบ่งเป็น 1.กลับมาจากอินโดนีเซีย 4 ราย เป็นเพศชายอายุ 21 ปี อาชีพนักเรียนนักศึกษา และอายุ 37 ปี 43 ปี และ 62 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เดินทางถึงไทยวันที่ 24 มิ.ย. มีผู้โดยสารทั้งหมด 172 คน เข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่ จ.ชลบุรี เก็บตัวอย่างวันที่ 29 มิ.ย. ผลพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ

2.มาจากแอฟริกาใต้ 1 ราย เป็นเพศชายอายุ 20 ปี อาชีพนักศึกษา มีอาการไอ 1 สัปดาห์ เดินทางถึงไทยวันที่ 28 มิ.ย. มีผู้โดยสารร่วมกัน 106 คน คัดกรองที่ด่านสุวรรณภูมิ ส่งตรวจครั้งที่หนึ่งวันที่ 28 มิ.ย. ไม่พบเชื้อ ส่งตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 30 มิ.ย. พบเชื้อ

3.มาจากซูดาน 1 ราย เป็นเพศชายอายุ 21 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เดินทางถึงไทยวันที่ 24 มิ.ย. เข้าพักในสถานที่เฝ้าระวัง จ.ชลบุรี เก็บตัวอย่างวันที่ 29 มิ.ย. ผลพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ

ห่วงการ์ดตกช่วงหยุดยาว 4 วัน

พญ.พรรณประภากล่าวด้วยว่า สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสม 10.8 ล้านราย เป็นรายใหม่ 2 แสนราย ถือว่ามากที่สุดตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อทั่วโลก ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5 พันราย รวมมากกว่า 5.18 แสนราย โดยสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 5.2 หมื่นรายทำให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 2.77 ล้านราย

บราซิลผู้ป่วยรายใหม่ 4.4 หมื่นราย ป่วยรวม 1.45 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงสุด 1,057 ราย ส่วนฝั่งเอเชีย ประเทศอินเดียมีผู้ป่วยสะสมสูงสุดรวม 6.05 แสนราย รายใหม่ 1.9 หมื่นราย ส่วนอินโดนีเซีย มีตัวเลขรายใหม่ 1,385 ราย ถือว่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ญี่ปุ่นมีรายใหม่เกิน 100 รายแล้ว คือ 130 ราย ประเทศไทยยังคงที่อันดับที่ 96 ของโลก

“วันที่ 4 ก.ค.จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์และตามด้วยการหยุดยาวถึงวันที่ 7 ก.ค. เพราะฉะนั้นหลังมีการผ่อนคลายระยะที่ 5 จะมีผับ บาร์ คาราโอเกะเปิดให้บริการ วันสุดสัปดาห์ประชาชนอาจออกไปใช้บริการ และวันหยุดยาวอาจมีการเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือไปวัด การป้องกันการติดเชื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้ประกอบการต้องเน้นย้ำมาตรการป้องกันการติดเชื้อ ประชาชนที่ใช้บริการก็ต้อง

ท่องเที่ยวด้วยความระมัดระวัง สวมหน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่างระหว่างกัน เพื่อท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุข” พญ.พรรณประภากล่าว

‘ตู่’สั่งตรวจกิจการผ่อนเฟส 5

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 13.35 น. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการปลดล็อกกิจกรรมกิจการต่างๆ ในระยะ 5 เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ซึ่งเป็นวันแรกว่า ได้ให้ตรวจสอบสรุปรายงานมาแล้วว่าในประเทศมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร ตรวจสอบแล้วยังไม่พบ ส่วนผู้ติดเชื้อ 6 คนวันนี้ ยังเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงของเดิม ในสถานที่กักกันของรัฐ แสดง

ว่ายังพอไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ตนสั่งย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศบค. และผู้ปฏิบัติ ลงไปสุ่มตรวจสอบในพื้นที่ที่มีการผ่อนผันระยะ 5 ให้มากขึ้นในสถานที่ที่ใช้ร่วมกัน ต้องติดตามแต่ละวัน พร้อมเตรียมมาตรการเชิงรับไว้ด้วย เพื่อเป็นเชิงป้องกัน

นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่ายินดีคือเห็นความร่วมมือของกระทรวงต่างๆ ต้องขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเขตการศึกษาทุกเขต ได้เห็นความร่วมมือของทุกโรงเรียน ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก หลายอย่างอาจจะยังไม่ไปสู่ภาวะปกติมากนัก ต้องมีระยะห่าง จัดสลับเวลาเรียนและห้องเรียน ซึ่งต้องยอมรับ เมื่อมีปัญหา ก็ต้องมีมาตรการ เพื่อให้การศึกษาเดินหน้าไปได้ อาจจะไม่

100% เหมือนเดิม แต่สาระการเรียนการสอนสามารถทบทวนกันได้ และสามารถเรียนทางบ้านคู่ขนานไปได้ แม้ว่ารยะแรกของการใช้ออนไลน์ ดิจิตอล จะมีปัญหาอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็มีหนังสือตำราเรียนอยู่แล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองต้องกำชับลูกหลานให้อ่านหนังสือด้วย แม้จะเรียนที่บ้าน ก็เรียนเวลาเดียวกัน วิชาเดียวกัน พร้อมกับที่เรียนในโรงเรียน ต้องกระตุ้นความสนใจเด็ก อย่าปล่อยให้

เด็กเล่นเกม ต้องจัดวินัยให้เด็กด้วย จึงจะไปได้ในช่วงนี้

ย้ำต้องระวังช่วงวันหยุดยาว

เมื่อถามว่าสุดสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงวันหยุดยาว มีความเป็นห่วงและอยากฝากอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องฝากแบบเดิมว่าให้ระมัดระวังเรื่องการรวมกลุ่ม การจราจร การใช้รถ ใช้ถนน เผื่อแผ่

แบ่งปัน แม้รถจะติด แต่รัฐบาลก็ช่วยเหลือเรื่องลดค่าทางด่วน สิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวบุคคลเที่ยวได้ดีอยู่แล้ว เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้ท้องถิ่น ชุมชน โรงแรม ซึ่งวันนี้ได้รับรายงานว่าหลายโรงแรมเริ่มฟื้นตัวเพราะคนไทยเที่ยวมากขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 ส่วนแรงงานที่ถูกเลิกจ้างเดี๋ยวก็จะกลับมาดีขึ้น เมื่อมีการประกอบกิจการมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ ค่อยๆ ทยอยสู่ภาวะปกติ จะ

ช้าหรือเร็วขึ้นกับพวกเราร่วมกัน ซึ่งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลออกมาแล้วผู้มีศักยภาพ อาจต้องจ่ายสมทบหน่อย ผู้ที่ไม่มี รัฐบาลก็มีวงเงินให้ เป็นมาตรการที่รัฐบาลจำเป็นต้องคิดอย่าง

ละเอียดออกมา

เปิดแผนจัดประชุมปลอดโควิด

วันเดียวกัน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการและความพร้อมในการจัดประชุม นิทรรศการ การแสดงสินค้า ให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ว่า การจัดประชุม การจัดนิทรรศการ และการแสดงสินค้า เป็นจุดแข็งของไทยอยู่แล้ว ยิ่งขณะนี้เรา

ควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้ดี จึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่ได้รับการยอมรับที่จะจัดการประชุมใน

ระดับโลก แต่ภาครัฐยังสนับสนุนเรื่องชีวิตวิถีใหม่ (นิวนอร์มัล) และกระตุ้นการจัดการประชุมภายในประเทศเป็นหลัก มั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจประเทศเกิดการหมุนเวียนและเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งมาตรการด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องของการเว้นระยะห่าง 2 เมตร สวม

หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ไม่อยู่ในที่แออัด ทำความสะอาด และลงทะเบียนไทยชนะ
“แนวทางการจัดประชุมอย่างปลอดภัยนั้น มาตรการหลัก คือ 1.ลงทะเบียนและยืนยันคนเข้าประชุมด้วยระบบออนไลน์ เพื่อไม่ต้องไปลงทะเบียนหน้างาน และควบคุมจำนวนคนได้ เพราะการประชุมบางงานได้รับความสนใจอย่างมาก หากเป็นเมื่อก่อนอาจมีการลงทะเบียนหน้างาน แต่สถานการณ์

แบบนี้เรื่องพื้นที่ต่อจำนวนคนมีความสำคัญ คือ 4 ตารางเมตรต่อคน ก็ต้องดูแลไม่ให้เกิดความแออัดผ่านการลงทะเบียนล่วงหน้า 2.ควบคุมระบบทางเข้าออก กำหนดเส้นทางเข้าออกให้ชัดเจน ดังนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมต้องศึกษาก่อนว่าจะต้องเข้าออกที่ไหน 3.ทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยๆ และกำจัดขยะทุกวัน 4.สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่จัดการประชุม 5.มีจุดบริการ

ล้างมือและเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอ 6.เว้นระยะห่างที่นั่ง ซึ่งเดิมอาจเคยจุผู้เข้าได้มาก ก็ต้องลดจำนวนลง เพื่อเว้นระยะห่างมากขึ้น”พญ.พรรณพิมล กล่าว
พญ.พรรณพิมลกล่าวว่า มาตรการเสริม คือ 1.การคัดกรองวัดไข้ มีห้องแยกสำหรับผู้มีอุณหภูมิสูงเกินกำหนด และไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมการประชุมได้ 2.เหลื่อมระยะเวลา เช่น หากมีการจัดประชุม

หลายห้อง ก็ต้องเหลื่อมเวลาในการพัก เพื่อลดแออัดพื้นที่ส่วนกลาง 3.ดูแลเรื่องระบบระบายอากาศ เนื่องจากเป็นพื้นที่ปิด ต้องทำให้อากาศมีคุณภาพที่เพียงพอสำหรับจำนวนผู้เข้าประชุม 4.มาตรการด้านสุขาภิบาลอาหาร จากเดิมที่อาจเคยจัดอาหารเป็นบุฟเฟต์ ก็ต้องจัดให้มีลักษณะเป็นภาชนะเฉพาะตัว หรือบ็อกซ์เซ็ต รวมถึงอาหารว่างด้วย โดยแค่ไปหยิบกล่องในจุดที่วางไว้และมารับประทาน

ในจุดที่กำหนด โดยพนักงานเตรียมอาหารต้องผ่านความเข้าใจเรื่องสุขาภิบาลอาหารและน้ำ นอกจากนี้ทีมนักอนามัยสิ่งแวดล้อมจะลงไปสุ่มสำรวจระบบน้ำ แบคทีเรียในน้ำ อาหาร คลอรีนในน้ำ และระบบระบายอากาศ ขอให้มั่นใจว่าห้องประชุม พื้นที่จัดนิทรรศการ ผ่านกระบวนการตรวจสอบ

มอเตอร์โชว์ลงทะเบียนล่วงหน้า

อธิบดีกรมอนามัยกล่าวต่อว่า สำหรับผู้ไปร่วมประชุมสัมมนาทำอย่างไรให้ปลอดภัย คือ 1.วางแผนก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง ทั้งการเดินทางและช่วงที่อยู่ในสถานที่จัดงาน เช่น หอประชุมอยู่ที่ไหน อย่างไร เข้าออกแบบไหน ลงทะเบียนล่วงหน้าได้หรือไม่ ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน ถ้าทำได้ทั้งหมดผ่านออนไลน์จะดีมาก 2.สังเกตอาการตนเอง หากมีไข้ ไอ จาม มีอาการ ไม่ควรออกจากบ้าน ไม่เข้า

ร่วมการประชุม 3.อาจต้องลงทะเบียนจองคิว ศึกษาข้อมูลสินค้าหรืองานก่อน และลดระยะเวลาให้อยู่เท่าที่จำเป็น 4.สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเสมอตลอดเวลา 5.ล้างมือให้บ่อยขึ้น 6.เลี่ยงการเข้าไปรวมกลุ่มเพื่อลดความแออัด งดการรวมกลุ่ม และลดการพูดคุยเสียงดัง 7.ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่อย่างเคร่งครัด เพื่อไปร่วมประชุมอย่างปลอดภัยและปลอดโรค

ด้านนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ.สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือ TCEB กล่าวว่า เรื่องของนิทรรศการ เช่น มอเตอร์โชว์ 2020 ที่จะจัดวันที่ 13-26 ก.ค.นี้ เรามีการประชุมแล้วว่าจะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าผู้เข้าชมงาน โดยให้เข้าชมเป็นรอบๆ ในแต่ละบูธ และต้อง เช็กอินเช็กเอาต์ทุกบูธ มีการเว้นระยะห่าง มีเจลล้างมือบริการ พริตตี้เองต้องมีเฟซชีลด์ ส่วนพื้นที่ที่

ใกล้ชิดกันมาก จะมีการใช้ลิปซิ้งแทนการพูดกัน เพื่อลดการกระจายของน้ำลาย ด้านอีเวนต์ เช่นคอนเสิร์ตต่างๆ ทุกคนต้องสวมหน้ากาก นั่งห่างกัน 1.5 เมตร เวลานั่งชมห้ามตะโกน ไม่สามารถยืนขึ้นเต้นได้ อาจขยับหรือโยกตัวระหว่างนั่งได้บ้าง บนเวทีมีที่กั้นระหว่างนักดนตรี”

‘มวย-บอลลีก’รอปลดล็อกเฟส 6

วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีสนามมวยจะจัดการแข่งขันและถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ได้หรือไม่ โดยไม่มีผู้เข้าชม รวมถึงฟุตบอลลีกจะกลับมาแข่งขันได้เมื่อไหร่ ว่า ศบค.มีกระบวนการขั้นตอนที่จะผ่อนคลายออกมาเป็นลำดับอยู่แล้ว ขอให้เขาหารือกันก่อน ทุกคนเสนออะไรเข้ามาได้ ก่อนหน้านี้กลุ่มศิลปินก็มาเสนอให้เปิดเล่น

ดนตรีได้ภายในร้าน ตนก็ส่งข้อเรียกร้องไปยังกรมควบคุมโรคให้หาวิธี โดยกระทรวงสาธารณสุขต้องให้เหตุผลสนับสนุนว่าต้องเกิดความปลอดภัย ส่วนรายละเอียดจะต้องรอจากที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 1 ก.ค.เป็นวันแรกที่ประกาศคลายล็อกเฟส 5 ให้เปิดสถานบันเทิง ได้รับรายงานสิ่งที่ต้องการควบคุมหรือไม่ เนื่องจากบางสถานที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่าง นายอนุทิน

กล่าวว่า เราก็ให้คำแนะนำทุกอย่างแล้ว และสำคัญที่สุดถ้ามองในแง่ดีว่าไม่มีการระบาดภายในประเทศต่อเนื่องเกิน 30 วัน ก็น่าจะปลอดภัยที่สุด แต่การรักษาระยะห่างโดยเฉพาะเวลาสังสรรค์ ต้องห้ามใช้แก้วเครื่องดื่มรวมกัน และห้ามใช้มือเปล่าหยิบน้ำแข็ง

เมื่อถามว่าหากพบว่ากิจกรรมกิจการไหนแพร่เชื้อจะสั่งปิดทันที และมีบทลงโทษหรือไม่ รมว.สธ. กล่าวว่า ใช่ เป็นไปตามมติและความเห็นของ ศบค. อย่างน้อยต้องเป็นร้านที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหรือระเบียบข้อบังคับ ส่วนจะสั่งปิดชั่วคราวหรือไม่นั้น ยังคงต้องรอดูในรายละเอียด
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการจับคู่กับการเดินทางระหว่างประเทศที่มีความปลอดภัยจากโควิด-19 สูง

หรือทราเวล บับเบิล นายอนุทินกล่าวว่า ต้องอยู่สักระยะหนึ่ง แต่ขั้นตอนและเงื่อนไขต่างๆ ร่างไว้หมดแล้ว แต่เราไม่อยากจับคู่กับประเทศที่ยังมีการระบาดอยู่ แต่ถ้าตอนนี้มีความจำเป็นต้องเดินทางในส่วนของนักธุรกิจสามารถทำเรื่องมาเป็นกรณีได้ แต่นักท่องเที่ยวต้องรอสักพัก เพราะตอนนี้โรงเรียนเพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ต้องให้เกิดความมั่นใจก่อนว่ามีความปลอดภัย

‘อัศวิน’สั่งตรวจเข้มสถานบันเทิง

วันเดียวกัน ที่ศาลาว่าการกทม. – พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมหัวหน่วยงานสังกัดกทม.ว่า ที่ประชุมรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 การผ่อนปรนมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งได้กำชับให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

และต่อเนื่อง ภายหลังมาตรการการผ่อนปรนเปิดสถานที่ในระยะที่ 5 ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ปัจจุบันถือว่ากิจการและกิจกรรมต่างๆ ได้รับการผ่อนปรนให้เปิดบริการตามปกติเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงไม่กี่กิจการที่ยังเปิดไม่ได้ กทม.ยังคงเข้มงวดในการตรวจสถานประกอบที่เปิดให้บริการอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้านสถานประกอบประเภทสถานบันเทิง ผับ บาร์ สถานบริการอาบ อบ นวด ส่วนนี้เจ้า

หน้าที่ตำรวจ ทหาร ถือเป็นผู้ดูแลหลักในสถานประกอบการดังกล่าว
“กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ เพื่อร่วมประสานการทำงานกับตำรวจ ทหาร ดูแลความเรียบร้อยและให้คำแนะนำการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากสถานประกอบการประเภทสถานบันเทิงถือเป็นสถานที่เสี่ยง ที่อาจมีการแพร่ระบาดโรคโควิดในระลอกที่ 2”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน