เลิกกล้อนผม
นร.บุกยื่นศธ.

ห้ามละเมิดเด็ก
ทวงใช้กฎใหม่
ที่ให้ไว้‘ยาว’ได้
จี้เลิก ‘กล้อนผม’ นักเรียนบุกศธ. ทวงระเบียบใหม่ปี 63 คุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ของนักเรียน

ชี้ถ้าตั้งใจทำจริงก็แจงโรงเรียนให้ชัด ต้องไม่ละเมิดนักเรียนในรูปแบบต่างๆ เผยเพื่อนนักเรียนร้องมา

มีถึง 312 โรงเรียนถูกครู จับตัด-กล้อนผม ปลัด ศธ.แจงกฎแค่กำหนดภาพรวมกว้างๆ รับปากส่งหนังสือแจ้งโรงเรียน ถึงกฎระเบียบใหม่

หยุดกล้อนผม – เครือข่าย ‘องค์กรนักเรียนเลว’ จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ตัดผมนักเรียนหญิงที่ยาวเกินติ่งหูประท้วง ที่กระทรวงศึกษาธิการ หลังวันเปิดเทอม 1 ก.ค. มีนักเรียนทั่วประเทศ 312 แห่ง ถูกครูบังคับให้ตัดผม ซึ่งขัดกฎกระทรวงฉบับใหม่ให้ไว้ยาวได้ตามความเหมาะสม เมื่อวันที่ 3 ก.ค.

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตัวแทนเครือข่ายนักเรียนที่ใช้ชื่อว่า “องค์กรนักเรียนเลว” ประมาณ 10 คน เข้ายื่นหนังสือถึงนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัด ศธ. เพื่อขอความชัดเจนในการบังคับใช้กฎการไว้ทรงผมของนักเรียน เพื่อเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ใน ศธ.รับรู้เรื่องนักเรียนจำนวนมากถูกโรงเรียนบังคับตัดผม โดยไม่เป็นไปตามระเบียบ ศธ. พร้อมทั้ง แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ บริเวณหน้ากระทรวง ศึกษาธิการ ด้วยการตัดผมนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ที่มีความยาวเลยติ่งหู โดยระบุว่า เส้นผมที่ถูกตัด เปรียบเสมือนตัวแทนของนักเรียนชายและหญิง ทั่วประเทศ ที่ถูกครูปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ตามแคมเปญเลิกบังคับ หรือจับตัด

จากนั้นได้ร่วมกันยื่นหนังสือขอความชัดเจนในการบังคับใช้กฎการไว้ทรงผมของนักเรียน ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 แต่พบว่าช่วงก่อนเปิดภาคเรียนจนถึงเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา

มีคำร้องจากนักเรียนว่าถูกครูจับตัดผม หรือกล้อนผมแล้ว 312 โรงเรียน ทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าขัดกับระเบียบกระทรวง ที่ออกมาอนุญาตให้นักเรียนชาย-หญิง ไว้ผมยาว ตามความเหมาะสมได้ และยังลิดรอนสิทธิของนักเรียนไทย เพราะไม่ได้มีอิสระบนร่างกาย ตัวเอง จึงขอให้มีคำสั่งคุ้มครองนักเรียนทั่วประเทศทันที

สำหรับการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังปลายเดือนมิ.ย. องค์กรได้จัดกิจกรรมนั่งเก้าอี้ด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ด้วยสภาพมือถูกผูกมัด ปากถูกปิดด้วยสก็อตเทปสีดำ ผมที่มีความสั้นยาวไม่เท่ากัน มีกรรไกร วางอยู่ และมีป้ายที่เขียนว่า “นักเรียนคนนี้ประพฤติผิดกฎโรงเรียน ไว้ผมยาวเกินติ่งหู และไว้ผมหน้าม้า ทำลายเอกลักษณ์ของนักเรียนไทย เชิญลงโทษนักเรียนคนนี้” พร้อมติด #เลิกบังคับหรือจับตัด เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจความรู้สึกของนักเรียนไทยที่ถูกบังคับให้อยู่ในกรอบ ของผู้ใหญ่ และการลงโทษ ด้วยการจับตัด หรือกล้อนผมนั้นทำไม่ได้

ตัวแทนนักเรียนกล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกตนเข้ามาที่ ศธ.เพื่อถามหาความชัดเจนเรื่องระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ซึ่งจากการหารือกับ ศธ.ได้ข้อสรุปถึงการบังคับใช้กฎระเบียบ แต่ ศธ.กลับไม่อนุญาตให้เปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งพวกตนเห็นว่าจากการหารือครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างมาก หากได้รับการเผยแพร่ออกไป เพราะมีการตีความกฎกระทรวงที่คุ้มครองความเป็นมนุษย์ ของนักเรียน

ซึ่งจากการหารือกับ ศธ.ครั้งนั้นไม่มีการยืนยันชัดเจนจากเอกสารใดๆ ของ ศธ.จึงทำหนังสือให้เผยแพร่ข้อหารือครั้งนั้นสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่เมื่อได้รับหนังสือที่ตอบกลับมาจาก ศธ.กลับไม่มีความชัดเจน และไม่มีการพูดถึงเรื่องที่หารือกับ ศธ.ในครั้งนั้นเลย พวกตนจึงมายื่นหนังสือ อีกครั้ง เพื่อให้ ศธ.ประกาศให้นักเรียนทราบโดยทั่วกันว่า ระเบียบกระทรวงว่าด้วยทรงผมของนักเรียนควรเป็นอย่างไร

ตัวแทนนักเรียนกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จะรอดูคำตอบจาก ศธ.อีกครั้ง หาก ศธ.ตอบกลับมาไม่ตรงประเด็น และยังไม่ยอมยืนยันสิ่งที่พูดในการหารือครั้งนั้น พวกตนจะทำแคมเปญและรณรงค์ ‘เลิกบังคับหรือจับตัด’ต่อไป เพราะเมื่อระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ออกมาใหม่ แต่โรงเรียนไม่ออกระเบียบใหม่ตามระเบียบนี้ กลับยังใช้ระเบียบเดิมอยู่

จึงมองว่าระเบียบของ ศธ.ออกมาคลุมเครือ ซึ่งนักเรียนตีความในกฎระเบียบนี้อีกอย่างหนึ่ง ครูตีความ อีกอย่างหนึ่ง จึงจำเป็นต้องขอความชัดเจนเรื่องนี้ เช่น การตัด การกล้อนผม การไว้ ผมยาว เป็นต้น

และท้ายสุดแต่ละโรงเรียนต้องไปตีความกฎระเบียบนี้เอง ซึ่งพวกตนต้องการความชัดเจน ว่า ศธ.ออกกฎระเบียบนี้เพื่ออะไร และหากต้องการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กับนักเรียนจริง ศธ.ต้องระบุชัดเจนว่า โรงเรียนต้องไม่ละเมิดนักเรียน ในรูปแบบต่างๆ

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมารับหนังสือ จากเครือข่ายนักเรียนด้วยตนเอง พร้อมกล่าวว่า ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ไม่ได้เปลี่ยนไปจากระเบียบเดิม คือ ข้อ 4 นักเรียนต้องปฏิบัติตนเกี่ยวกับการไว้ทรงผม ดังนี้

นักเรียนชายจะไว้ผมสั้นหรือยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวด้านข้าง ด้านหลังต้องยาวไม่เลยตีนผม นักเรียนหญิงจะไว้ผมสั้นหรือผมยาวก็ได้ กรณีไว้ผมยาวให้เป็นไปตามความเหมาะสมและรวบให้เรียบร้อย ซึ่งประกาศใหม่ ศธ.เพิ่มเติม ข้อ 5 นักเรียนต้องห้ามปฏิบัติตน ดังนี้ ดัดผม ย้อมสีผมให้ผิดไปจากเดิม ไว้หนวดหรือเครา และการกระทำอื่นใดซึ่งไม่เหมาะสม กับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นรูปสัญลักษณ์หรือลวดลาย

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า นอกจากนี้เพิ่มข้อ 7 ไว้อีก คือให้สถานศึกษาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษา หรือคณะกรรมการบริหารโรงเรียนวางระเบียบเกี่ยวกับการไว้ทรงผมของนักเรียนที่มีความเฉพาะเจาะจงได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ทั้งนี้ ก่อนจะประกาศเป็นระเบียบต้องสอบถาม ความคิดเห็นจากนักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชนด้วย ก่อนที่จะออกเป็นระเบียบ

นายประเสริฐกล่าวอีกว่า ศธ.สามารถกำหนดภาพรวมกว้างๆ เท่านั้น หากโรงเรียนใดไม่ปฏิบัติตามมติ หาก ศธ.รับรู้ หรือมีการรายงาน ศธ.สามารถส่งเจ้าหน้าที่ติดตาม ให้โรงเรียนทำตามกฎระเบียบนี้

ทั้งนี้ จะทำหนังสือเร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อเร่งรัดให้ทำตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน