จับตา52นักธุรกิจจีน
ถึงไทยวันนี้-กัก14วัน
ศบค.ย้ำผบ.ทบ.มะกัน
ต้องปฏิบัติกฎเหล็ก6ข้อ
ในปท.ไม่มีไวรัส42วัน
คลังลดภาษี-แก้ตกงาน

ร.10 พระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อ 13 คัน ใช้ตรวจหาเชื้อ โควิดเชิงรุก เผยทรงห่วงใยสุขภาพพลานามัยของประชาชน ขณะที่หมอทวีศิลป์แจงยิบกรณีผบ.ทบ.สหรัฐไม่ต้องกักตัวเพราะเป็นแขกของนายกฯ แต่ต้องตรวจหาเชื้อทั้งต้นทางและปลายทาง พร้อมดำเนินการตาม 6 ข้อ เชื่อเป็นการทดสอบระบบป้องกันของไทยได้อย่างดี

เผยนักธุรกิจจีน 52 คน เดินทางเข้าไทยวันนี้ ต้องกักตัวตามระเบียบ ศรีสุวรรณ โวย 2 มาตรฐานชัดเจน ชี้หากไม่สามารถให้ผบ.ทบ.สหรัฐกักตัว คนที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องกักตัวแทน ด้านผู้ติดเชื้อวันนี้พบ 5 ราย เดินทางกลับจากคูเวต ส่วนในประเทศไม่พบติดเชื้อ 42 วันแล้ว ด้านบิ๊กตู่เป็นห่วงหยุดยาวทำให้การ์ดตก

ร.10พระราชทานรถตรวจเชื้อ

เมื่อเวลา 11.01 น. วันที่ 6 ก.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข นำนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย 13 คัน

เพื่อกระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้ประโยชน์ ณ สำนักงานเขตสุขภาพ ที่ 1-12 ทั่วประเทศ และเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่กระทรวงสาธารณสุข ดูแลรับผิดชอบ เพื่อใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการเก็บตัวอย่างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข

ในการปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวังและค้นหาผู้ติดเชื้อโรค โควิด-19 เชิงรุกในโรงเรียน วัด ชุมชนแออัดและกลุ่มอาชีพเสี่ยงทั่วประเทศ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งสามารถเข้าถึงประชาชนในทุกพื้นที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะให้ประเทศชาติมั่นคง และประชาชนมีความสุข ทรงห่วงใยและทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพพลานามัยของประชาชน

ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด และทรงห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือให้ทันต่อสถานการณ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้จัดทำรถตรวจโรคติดเชื้อ ชีวนิรภัย ซึ่งอุปกรณ์ภายในรถมีประสิทธิภาพในการตรวจโรค และมีระบบสารสนเทศที่ทันสมัย

ภายในห้องเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยจัดเป็นห้องปลอดเชื้อ ประกอบด้วยระบบปรับอากาศเพื่อควบคุมความเย็น ระบบกรองอากาศจากภายนอกเพื่อให้บริสุทธิ์ ระบบและอุปกรณ์ควบคุมความดันภายในห้องให้เป็นบวกตลอดเวลา รวมทั้งส่วนปฏิบัติการเก็บตัวอย่าง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสอดมือผ่านหน้าต่างและถุงมือยางที่ติดตั้งไว้ มีระบบฆ่าเชื้อภายในตัวรถหลังปฏิบัติงานรายวันด้วยระบบโอโซน และติดตั้งระบบไมโครโฟน

เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกับผู้รับบริการได้สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ได้ทดลองให้บริการไปแล้วครอบคลุมประชาชน กลุ่มเสี่ยง จำนวน 12,094 ราย ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดนครราชสีมา ทำให้เกิดผลสำเร็จในการค้นหาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างมีความปลอดภัยได้อย่างดียิ่ง

ไม่เจอเชื้อในไทย 42 วันแล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งเป็นช่วงที่เรามีความกังวลใจ ในกิจกรรมต่างๆ ที่ได้รับการผ่อนคลายมาสู่ระยะที่ 5 โดยการผ่อนคลายดังกล่าวเพื่อให้เราได้ทำกิจกรรมและกิจการเหมือนปกติมากที่สุด

ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยง เพราะการผ่อนคลายดังกล่าวจะนำไปสู่การใกล้ชิดกัน ดังนั้น หน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ จึงทำให้มีจำนวน ผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 3,195 ราย แบ่งเป็นมาจากผู้ที่อยู่ในสถานกักกันของรัฐ 258 ราย ผู้ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย

ในขณะนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศต่อเนื่อง 42 วันแล้ว และยังไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จึงมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย มีผู้ได้รับการรักษาและหายป่วยเพิ่ม 1 ราย จึงมีจำนวนผู้หายป่วยสะสมอยู่ที่ 3,072 ราย มีผู้ที่ยังรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 65 ราย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศคูเวต แบ่งเป็นเพศชาย 4 ราย ได้แก่ อายุ 34 ปี 46 ปี 28 ปี และ 51 ปี มีอาชีพรับจ้าง และเพศหญิง 1 ราย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานนวด ทั้งหมดเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นเที่ยวบินเดียวกับที่เคยมีรายงานว่าพบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 5 ราย โดยเข้าพักในสถานกักกันของรัฐในกรุงเทพฯ เข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ซึ่งพบมีผู้ติดเชื้อ 3 ราย และจากการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 5 ก.ค. พบผู้ติดเชื้ออีก 2 ราย ทั้ง 5 คนนี้ไม่มีอาการใดๆ

จากกรณีดังกล่าวทำให้จำนวนคนไทยที่กลับมาจากคูเวตตอนนี้อยู่ที่ 293 คน มีผู้ป่วยยืนยัน 49 คน ทำให้สัดส่วนผู้ป่วยคิดเป็น 17.05 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าสูงที่สุด

ทั่วโลก 11 ล้าน-ตาย 5 แสน

โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกตอนนี้มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 11,556,681 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่ภายในวันเดียว 176,048 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 536,776 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ในวันเดียว 3,327 ราย จำนวนผู้ที่มีอาการรุนแรง 58,540 ราย รักษาหายแล้ว 6,535,492 ราย

ทั้งนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกายังมีผู้ป่วยสะสมมากเป็นอันดับ 1 ของโลก จำนวน 2,982,928 ราย โดยมี ผู้ป่วยรายใหม่ 47,158 ราย จึงคาดว่าจำนวนผู้ป่วยสะสมของสหรัฐจะแตะ 3 ล้านรายในเร็วๆนี้ ตามด้วยประเทศบราซิล มีผู้ป่วยสะสม 1,604,585 ราย อินเดีย 697,836 ราย อย่างไรก็ตาม สเปนและฝรั่งเศส มีรายงานจำนวน ผู้ป่วยรายใหม่เป็นศูนย์ต่อเนื่อง 2-3 วัน แต่ยังต้องติดตามกันต่อ

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ส่วนการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศ ในวันที่ 6 ก.ค.2563 มีทั้งหมด 328 คน แบ่งเป็นจากสิงคโปร์ 128 คน และเกาหลีใต้ 200 คน ขณะที่ในวันที่ 7 ก.ค. จะมีคนที่กลับจากญี่ปุ่น 160 คน จากจีน 60 คน ทั้งนี้

กรณีที่มีคนไทยกลับจากประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ถึงจำนวน 500 คน เราก็จะเติมนักธุรกิจจากประเทศนั้นๆ เข้าไปในเที่ยวบินด้วย อาทิ กรณีที่มาจากจีนจะมีนักธุรกิจชาวจีนร่วมเดินทางมาด้วย 52 คน แบ่งเป็นจากนครเซี่ยงไฮ้ 20 คน จากกรุงปักกิ่ง 32 คน ซึ่งเมื่อเขาเข้ามาในเมืองไทยแล้ว จะต้องอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ ส่วนยอดรวมคนไทยที่กลับจากต่างประเทศ 52,957 คน กลับบ้านได้ 43,849 คน ผู้ป่วยสะสม 258 คน

แจงวุ่นผบ.ทบ.มะกันเข้าไทย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีที่การเดินทาง เข้ามาของแขกรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผบ.ทบ.สหรัฐ ที่จะเดินทางมาในวันที่ 9-10 ก.ค.นี้ จะต้องมีเงื่อนไขด้านมาตรการสาธารณสุขอย่างไร จะต้องมีการกักตัวหรือไม่ และผู้ที่เข้าพบ

ภายหลังจากเสร็จสิ้นแล้วจะต้องกักตัวหรือไม่ ว่า ศบค. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเป็นความละเอียดอ่อน ของกิจการกิจกรรมที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ ผอ.ศบค.ระบุว่าถ้าเลื่อนได้เลื่อนได้หรือไม่ แต่เลื่อนไม่ได้ เนื่องจากทางผบ.ทบ.สหรัฐ เดินทางเยือนเชื่อมหลายประเทศ โดยก่อนมาประเทศไทย จะไปที่สิงคโปร์ และจะมีแวะประเทศอื่นด้วย เป็นโปรแกรมที่ถูกวางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

การเดินทางเข้ามามีความละเอียดอ่อนในเชิงของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทางประเทศไทยในฐานะที่ต้องต้อนรับแขก ต้องดูแลเขาเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันสถานการณ์อย่างนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่มีโรคติดต่ออยู่และสหรัฐเป็นประเทศหนึ่งที่ติดโควิดมาก

จึงแจ้งทีมผบ.ทบ.สหรัฐ ซึ่งเขาได้รับทราบและเข้าใจดี จึงแจ้งหลักเกณฑ์ 6 ข้อ คือ 1.เป็นขนาดเล็กไม่เกิน 10 คน 2.เป็นการเดินทางระยะสั้น 3.ตรวจรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศต้นทางและเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย (Double Negative) 4.ให้หน่วยราชการที่เป็นเจ้าภาพเชิญแขกระดับสูงพิจารณาจัดเจ้าหน้าที่ประจำคณะในลักษณะ Liaison Officer (LO) ติดตาม

5.มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานความมั่นคงติดตามประจำคณะด้วย 6.ต้องจำกัด การเดินทางเฉพาะกำหนดการที่ได้ตกลงไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ห้ามคณะเดินทางไปในที่สาธารณะและห้ามใช้ขนส่งมวลชน ทั้งนี้แขกของเราก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ขอความร่วมมือว่าเมื่อมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแล้วพบนายกฯ ก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือ เพราะเราเป็นห่วงนายกฯ เหมือนที่พี่น้องประชาชนหลายคนเป็นห่วง

ส่วนกรณีที่ถามว่าจะต้องมีการกักตัวหรือไม่นั้น เมื่อเป็นการเดินทางระยะสั้นเพียง 2 วัน จะให้กักตัว 14 วันคงไม่ได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ของไทยเมื่อสัมผัสแล้ว ทีมเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะต้องถูกตรวจสอบเป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของไทยที่ประกบติดกับคณะในระหว่างภารกิจในประเทศไทยนั้นมีอยู่สองชุดคือ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เป็นผู้เชิญแขกระดับสูงนี้ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข บวกกับด้านความมั่นคงประกอบทีมกัน

กำชับจนท.ตรวจสอบห้ามเบ่ง

กรณีคนไทยในอังกฤษ ที่ป่วยซึมเศร้า ยารักษาหมดมา 3 เดือน และรอคิวกลับประเทศไทย ว่า ศบค.เร่งพิจารณาเป็นเรื่องด่วน พบว่ามีคนไทยในอังกฤษรอคิวกลับประเทศไม่ต่ำกว่า 600 คน แต่เที่ยวบินไม่เพียงพอ ต้องรอเช่าเหมาลำ จึงต้องใช้เวลา ทั้งนี้กลุ่มที่กลับมามีความหลากหลาย เร่งด่วนไม่เท่าเทียมกัน จึงเป็นภารกิจของทูตอังกฤษ เบื้องต้นกำหนดไว้ 2 วันคือ วันที่ 20 ก.ค. และ 26 ก.ค.

ส่วนกรณีที่วันหยุดยาวมีนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวจำนวนมาก นพ.ทวีศิลป์ระบุว่า มี 3 ภาคส่วนคือ ประชาชน ผู้ประกอบการและ ผู้ที่เข้าไปตรวจสอบกำกับควบคุมติดตาม หรือ ศปม. เราพูดอยู่เสมอว่ากิจกรรมความเสี่ยงนี้มีกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงมากๆ

ถึงแม้ว่าเราจะรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ แต่บอกไม่ได้ว่ายังจะมีผู้ติดเชื้ออยู่ในประเทศไทยอยู่หรือไม่ เพราะอย่างที่รายงานไปแล้วว่ามีคนข้ามแดนผ่านเข้ามาอย่างผิดกฎหมายแล้วเข้ามาอยู่ในใจกลางเมือง และขอบประเทศไทย รวมแล้ว 3,000 กว่าคน อาจจะเป็นเหตุที่นำเชื้อเข้ามาโดยที่เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ดังนั้นวัคซีนทางกายภาพที่ดีที่สุดคือการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และการเว้นระยะห่างและการล้างมือบ่อยๆ ประชาชนต้องตระหนักอยู่เสมอการ์ดไม่ตก

ส่วนภาครัฐที่จะเข้าไปตรวจสอบซึ่งขณะนี้ทีมอาจจะยังไม่เพียงพอ ผอ.ศบค.ให้นโยบายว่าต้องมีการแจกแจงตัวเองให้ชัดเจนว่าตัวเองเป็นใคร โดยแอพพลิเคชั่นผู้พิทักษ์ชัยชนะ เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบทุกคนจะต้องมีแอพ พลิเคชั่นนี้เป็นของตัวเอง เพื่อที่จะบอกว่าเป็นตัวจริงในการเข้าไปตรวจสอบผู้ประกอบการ ไม่ใช่คนที่มาเบ่ง ไปทำอะไรที่ไม่ถูกหรือไม่เหมาะสม

ซึ่งขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรคลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว หน่วยงานด้านความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย ก็ลงทะเบียนแล้ว ดังนั้นจะไม่มีใครสามารถแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบได้ เป็นการทำงานควบคู่กันไป ดังนั้นต้องขอความร่วมมือทั้งสามภาคส่วน

โฆษกศบค.กล่าวว่า การแถลงข่าวจะลดลง โดยตนแถลงวันจันทร์กับวันพฤหัสฯ ส่วนหมอบุ๋ม พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศบค. จะแถลงวันพุธ ดังนั้นเหลือการแถลงเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อรายงานตรงข้อมูลต่อประชาชน และประชาชนสามารถติดตามข้อมูลได้จากเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าและศูนย์ข้อมูลโควิด-19

เกือบ 3 พันจ่อรักษารพ.ไทย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงการนำผู้ป่วยต่างชาติเข้ามารับการรักษาในไทย ว่า การนำคนต่างชาติมารักษา เราใช้คำว่า Medical & Wellness Program ไม่ใช่คำว่า Tourism ต่างๆ เพราะคนเข้ามาคือคนป่วย เราต้องการให้มีการดูแลผู้ป่วยที่เดินทางเข้ามาในประเทศ

โดยระบบเมดิคัล ฮับ ที่เป็นกิจการด้านหนึ่งของไทยที่มีชื่อเสียงมากๆ ทั้งนี้ ย้ำว่าเรื่องดังกล่าว กลุ่มเป้าหมายคือผู้ป่วยและผู้ติดตามที่มารักษาใน ร.พ.เท่านั้นตามโรคเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่โรค โควิด-19 เดินทางด้วยสายการบิน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ต้องรักษาและกักกันครบ 14 วัน

แม้จะรักษาเสร็จก่อนก็ตาม จะไม่ให้มีการ กลับก่อน ก่อนเข้ามาผลตรวจต้องเป็นลบ และเข้ามาแล้วต้องผ่านการตรวจเชื้อ 3 ครั้ง ขณะนี้ทาง ร.พ.เอกชน 67 แห่งและคลินิกเฉพาะทาง 1 แห่ง ก็มีความพร้อม

“เรามีชื่อเสียงในการผ่าตัดหลายอย่าง การทำลูก IVF ให้คนมีบุตรยาก ทำดั้งจมูก ทำตา ทำฟัน ที่เป็นเรื่องดังของเรา เพราะราคาถูกกว่าที่อื่น โดยคนเข้ามาจะต้องมีการลงทะเบียน ขณะนี้คนขึ้นทะเบียนทั้งหมด 34 ประเทศ รวม 3 เดือน เป็นผู้ป่วยรวม 1,169 ราย ผู้ติดตาม 1,521 คน มาจากอาเซียน 1,685 คน จีน 389 คน ยุโรป 23 คน ตะวันออกกลาง 427 คน เอเชียใต้ 125 คน โอเชียเนีย 2 คน อเมริกาเหนือ 16 คน และแอฟริกา 23 คน” นพ.ทวีศิลป์กล่าวและว่า อยากให้มั่นใจในรูปแบบ ซึ่งระบบเราก็อิงกับการแพทย์ ตอบสังคมได้ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้

โวยศบค.2 มาตรฐานชัดเจน

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า คำแถลงเรื่องมาตรการ 6 ข้อ เป็นคำพูดที่สวยหรู แต่ฟังไม่ขึ้นและรับไม่ได้ เพราะเป็นการชี้ให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติและ 2 มาตรฐานของศบค.และรัฐบาลโดยชัดแจ้ง

ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.27 วรรคสาม และ ม.76 โดยชัดแจ้ง เพราะไม่มีอะไรเป็นหลักประกันในคำพูดของเลขาฯ สมช.ว่าการเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ของ ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะ จะไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 จากสหรัฐมาสู่คนไทย

เนื่องจากผลสำรวจของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ (ซีดีซี) ของสหรัฐอเมริกาล่าสุดพบว่า มากกว่าครึ่งของผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือ 54% ไม่รู้ตัวว่าพวกเขาไปติดโรคมาจากไหน สะท้อนแนวโน้มการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้เป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งมักจะเป็นคนใกล้ชิด ผู้ร่วมงานหรือสมาชิกในครอบครัว

ดังนั้น ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะซึ่งมาจากประเทศที่มีสถิติของผู้ที่ติดเชื้อมากที่สุดในโลกเกือบ 3 ล้านคนแล้ว จะเชื่อใจได้อย่างไรว่าเขาเหล่านั้นอาจเป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการก็ได้ เลขาฯ สมช.กล้าเอาตำแหน่งค้ำประกันและรับผิดชอบไหมว่าจะไม่มีปัญหาการแพร่เชื้อโควิด-19 จาก ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะ ในกรณีนี้

หากทางรัฐบาล ศบค.และสภาความมั่นคงฯ ยังคงยืนกรานที่จะไม่ใช้มาตรการกักตัว 14 วันสำหรับ ผบ.ทบ.สหรัฐและคณะในครั้งนี้ เพื่อความเชื่อมั่นและความอุ่นใจของประชาชนไทย ขอให้บุคคลที่มีโอกาสเข้าพบปะ หารือ และใกล้ชิด ผบ.ทบ.สหรัฐ และคณะทั้งหมดทุกคนต้องถูกกักตัวใน State Quarantine ในประเทศไทยเป็นเวลา 14 วันแทน ก็น่าที่จะพอสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้เกิดขึ้นกับคนไทยทั้งชาติที่มองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือ 2 มาตรฐานได้

บิ๊กตู่ห่วงหยุดยาวการ์ดตก

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แสดงความห่วงใยประชาชน ช่วงวันหยุดยาว เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่อง และตรงกับช่วงเวลาผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 ที่ประชาชนตั้งใจใช้ช่วงเวลานี้ เดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อทำบุญและพักผ่อน

จึงขอให้ทุกคนใช้ถนน ยานพาหนะขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ประมาท รวมทั้งการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ที่ถึงแม้ว่าไทยจะไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมานานกว่า 40 วันติดต่อกัน ขอให้ทุกคนไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ดูแลป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย ไม่อยู่ในที่แออัด เว้นระยะห่างและหมั่นล้างมือทำความสะอาด

รวมทั้งขอให้ทุกคนได้ร่วมทำบุญในวันสำคัญทางศาสนา ได้บุญดั่งที่ตั้งใจและร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไปด้วย

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรมว.คลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตได้ดำเนินมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจในบางสินค้าเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ 1.รถยนต์ (ประเภทรถยนต์นั่งสามล้อแบบพลังงานไฟฟ้า) เพิ่มพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั่งสามล้อแบบพลังงานไฟฟ้าเพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์นั่งสามล้อที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและการจ้างงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด โดยกำหนดให้เสียภาษีตามมูลค่าร้อยละ 2 (จากเดิมร้อยละ 4) 2.เครื่องดื่มน้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่มีการเติมสารอาหารและสารอื่นแก้ไขอัตราส่วนผสมของน้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่มีการเติมสารอาหารหรือสารอื่นจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 10 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องดื่ม โดยคำนึงถึงนวัตกรรมในปัจจุบัน และผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคสินค้าเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

คลังสั่งลดภาษีสรรพสามิต

นายธนกรกล่าวว่า 3.สนับสนุนให้สถานบริการคงปริมาณการจ้างงานเพื่อช่วยเหลือลูกจ้างไม่ให้ตกงาน สถานบริการที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีปริมาณการจ้างงานเท่ากับก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะได้รับสิทธิเสียภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 0 ของรายรับของบริการจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคท่องเที่ยวและบริการรวมทั้งเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ ดังกล่าว

นายธนกรกล่าวว่า 4.ขยายเวลาการบังคับใช้อัตราภาษีปัจจุบันของบุหรี่ซิกาแร็ตและยาเส้นออกไปถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564 และเลื่อนการบังคับใช้อัตราภาษีใหม่ของบุหรี่ซิกาแร็ตและยาเส้นออกไป โดยให้เริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบและยาเส้นและเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบและยาเส้นได้รับการเยียวยาจากปัญหาการขาดสภาพคล่องที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว และ 5.ขยายเวลาในการส่งสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีออกนอกราชอาณาจักรหรือนำเข้าไปในเขตปลอดอากรจากเดิมภายใน 15 วันและขยายได้อีก 15 วันรวมทั้งหมดไม่เกิน 30 วัน เปลี่ยนเป็นภายใน 30 วัน

และขยายได้อีก 30 วันรวมถึงขยายได้หากมีความจำเป็นอีก 60 วันรวมทั้งหมดไม่เกิน 120 วัน และขยายเวลาในการส่งเอกสารหลักฐานจากเดิมภายใน 60 วันและขยายได้อีก 60 วันรวมทั้งหมดไม่เกิน 120 วันเปลี่ยนเป็นภายใน 90 วันและขยายได้หากมีความจำเป็นอีก 60 วันรวมทั้งหมดไม่เกิน 150 วัน

ตจว.ท่องเที่ยวแน่นขนัด

สำหรับบรรยากาศในต่างจังหวัด ที่จ.ขอนแก่นประชาชนเดินทางสักการะพระธาตุขามแก่น อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เพื่อทำบุญในเทศกาลวันเข้าพรรษา โดยสวมใส่หน้ากากอนามัยและเฟซชีลด์ ตรวจคัดกรองทำตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เช่นเดียวกับที่วัดวุฒาราม ในเขตเทศบาลขอนแก่น ก็มีประชาชนจำนวนมากไปทำบุญ พร้อมอธิษฐานให้โควิด-19 หายไปโดยเร็ว

ส่วนที่เกาะช้าง จ.ตราด นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางกลับ ส่งผลให้ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวสับปะรด ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวจำนวนกว่า 500 คัน รอคิวลงเรือเฟอร์รี่ที่สามารถใช้งานได้เพียง 3 ลำ เนื่องจากช่วงครึ่งแรกน้ำลงเรือบางลำที่กินน้ำลงจะเข้าท่าไม่ได้จนกว่าจะถึงเวลา 13.00 น. ส่งผลให้รถติดยาวกว่า 5 กิโลเมตร ตร.จราจร สภ.เกาะช้าง

และเจ้าหน้าที่เทศบาลต.เกาะช้างและอส.สมัครกู้ภัยสว่างเกาะช้าง รวมทั้งภาคเอกชนจากสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจ.ตราด ร่วมกันประสานงานและอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้แล้ว เพื่อให้การเดินทางกลับเร็วที่สุด โดยพบว่ามีรถรอเดินทางเข้าฝั่งเกือบ 5 พันคัน

ที่จ.มหาสารคาม ประชาชนเดินทางแวะเที่ยวอย่างคึกคัก อาทิ วัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวชมชอบถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ในแต่ละวันก็มีประชาชนจำนวนมากแวะมาเที่ยวชมสิ่งปลูกสร้างที่อลังการภายในวัดวันละหลายพันคน

อาทิ ศาลาการเปรียญเสาไม้ซุง 112 ต้น พระอุโบสถไม้ซุงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กราบสักการะพระมหาเจดีย์ศรีมหาสารคาม เช่นเดียวกับวัดพุทธมงคล บ้านสระ ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านเข้าตัวเมืองมหาสารคาม และไปจ.กาฬสินธุ์ ประชาชนที่เดินทางผ่านก็จะแวะทำบุญกราบสักการะปิดทอง และอธิษฐานขอพรจากพระพุทธรูปยืนมงคล หรือ หลวงพ่อพระยืน พระพุทธรูปโบราณสมัยทวารวดีแกะสลักจากหินทราย อายุกว่าพันปีประดิษฐานอยู่ใต้ร่มโพธิ์

ขณะที่พระบรมธาตุนาดูน ที่มีการจัดกิจกรรมวันอาสาฬหบูชา ต่อเนื่องวันเข้าพรรษา บรรยากาศตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเย็นมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างถิ่นเดินทางมากราบสักการะและเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุนาดูน วันละหลายพันคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน