ถูกจับ-ส่งฝากขังทันที
แต่ศาลไม่รับคำร้อง
ประชาชนปลดแอก
ยกระดับชุมนุมใหญ่
16สค.อนุสาวรีย์ปชต.

แกนนำฟรียูธประกาศจัดตั้งคณะประชาชนปลดแอก ยกระดับการเคลื่อนไหวทวงประชาธิปไตย นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 16 ส.ค.นี้ชู 3 ข้อเรียกร้องกับอีก 2 หลักการ ขณะที่ ไอลอว์เปิดแคมเปญให้ประชาชน 5 หมื่นคนลงชื่อยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญล้างอำนาจเผด็จการ ตำรวจบุกรวบทนายอานนท์-ไมค์เยาวชนผู้ชูป้ายไล่บิ๊กตู่ที่ระยอง แจ้ง 7 ข้อหาเล่นงาน ปมขึ้นเวทีปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คุมตัวส่งศาลขออำนาจฝากขังทันที ตร.ค้านประกัน รองอธิบดีศาลอาญาลงมาไต่สวนคำร้องด้วยตัวเอง ด้าน‘เพนกวิน’เผยถูกออกหมายจับด้วยเช่นกัน

ม็อบในสน. – ‘เพนกวิน’พริษฐ์ ชิวารักษ์ พร้อมด้วยนักศึกษาและประชาชนจำนวนมาก ชุมนุมที่สน.บางเขน เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายอานนท์ นำภา ทนายความชื่อดัง และภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ‘ไมค์ ระยอง’ ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีหลายข้อหาจากการเป็นแกนนำจัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

ตั้งคณะประชาชนปลดแอก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คณะประชาชนปลดแอก-Free People นำโดยนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการ น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ในฐานะโฆษกกลุ่ม นายสิรภพ อัตโตหิ กลุ่มเสรีเทยพลัส พร้อมคณะ แถลงเปิดตัวคณะประชาชนปลดแอก

นายทัตเทพอ่านแถลงการณ์ว่า การออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเสรีภาพและประโยชน์ทั้งหลายของประชาชนที่พึงมีพึงได้ ซึ่งภาครัฐต้องรับฟังและคุ้มครองการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ยืนยันว่าทางกลุ่มไม่ยอมรับหลักการและกระบวนการที่ทำลายประชาธิปไตย รวมถึงการสร้างความเกลียดชัง ตลอดจนไม่เห็นด้วยกับการพยายามตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพราะไม่ได้มาจากเจตจำนงที่แท้

จริงของประชาชน แต่สิ่งจำเป็นคือต้องปลดแอกออกจากเผด็จการอํานาจนิยม พร้อมประกาศข้อเรียกร้อง 3 ภายใต้ 2 หลักการคือ 1.ต้องหยุดใช้อำนาจรัฐคุกคามผู้เห็นต่าง 2.ต้องยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากเจตจำนงของประชาชน ไม่ใช่จากการใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงทางกฎหมายเพื่อประโยชน์แก่คนบางกลุ่ม 3.รัฐบาลต้องยุบสภา หลังจากดำเนินการข้อ 1 และข้อ 2 แล้ว เพื่อให้มีการเลือกตั้งบนกติกาที่เป็นธรรมและเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารประเทศที่ล้มเหลว

นัดชุมนุมใหญ่-ดีเดย์ 16 ส.ค.

“ส่วนหลักการ 2 ข้อคือ ต้องไม่มีรัฐประหาร กับไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ พร้อมยืนยันว่าจะไม่หยุดการเคลื่อนไหวจนกว่ารัฐบาลจะยอมรับเข้าเรียบร้อย 3 ประการและหลักการ 2 ข้อ ทั้งนี้ คณะประชาชนปลดแอกได้ประกาศชุมนุมใหญ่ครั้งแรกในวันที่ 16 ส.ค.ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. โดยขีดเส้นตายให้ส.ว. 250 คนต้องลาออก และผู้มีอำนาจต้องยุบสภา ก่อนการปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร คือปลายเดือนก.ย.นี้” นายทัตเทพระบุ

นายทัตเทพกล่าวว่า คณะประชาชนปลดแอกจัดตั้งขึ้นมาใหม่ ไม่ได้อัพเกรดจากเยาวชนปลดแอก ซึ่งเป็นการแยกกันดำเนินการคนละส่วน และไม่กังวลที่จะจัดชุมนุมภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน และคนที่คิดว่าประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวจะต้องมีพรรคการเมือง นายทุนใหญ่ มีบุคคลสำคัญอยู่เบื้องหลัง เขาเป็นคนที่ดูถูกความคิดประชาชนอย่างมาก คณะประชาชนปลดแอกไม่ได้ถูกพรรคการเมือง ส.ส.

หรือสภา ชักใย แต่พวกเราต่างห่างที่จะชักใยพรรคการเมือง ชักใยรัฐสภา

ด้านน.ส.จุฑาทิพย์เปิดเผยว่า คณะประชาชนปลดแอกจะไม่ร่วมกับกมธ. หรือการเปิดรับฟังความเห็นจากรัฐบาล เพราะเห็นว่าเป็นการซื้อเวลา หากนายกฯ ต้องฟังรับฟังความเห็นของทางกลุ่มขอให้มาขึ้นเวทีชุมนุมวันที่ 16 ส.ค.นี้ ยืนยันว่าทางกลุ่มไม่ต้องการความรุนแรง และความรุนแรงส่วนใหญ่จะมาจากอำนาจรัฐและมือที่สาม แต่ไม่ว่าจะเกิดมาจากฝ่ายไหนก็เป็นหน้าที่ของภาครัฐจะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับประชาชน

ลงชื่อแก้รธน. – ประชาชนร่วมลงชื่อแสดงเจตจำนงแก้รัฐธรรมนูญ ระหว่างงานแถลงเปิดแคมเปญ ‘เข้าชื่อ 5 หมื่นชื่อ ร่วมรื้อ ร่วมสร้าง ร่วมร่างรัฐธรรมนูญ’ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

ไอลอว์ชูแคมเปญลงชื่อแก้รธน.

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องจิ๊ด เศรษฐบุตร คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ แถลงเปิดแคมเปญ “เข้าชื่อ 5 หมื่นชื่อ ร่วมรื้อ ร่วมสร้างร่างรัฐธรรมนูญ” โดยนายจอน อึ๊งภากรณ์ ผอ.ไอลอว์ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการไอลอว์ และตัวแทนเครือข่ายประชาชน อาทิ เครือข่าย People Go เครือข่าย Constitution AdvocacyAlliance (CALL) เครือข่ายคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และคณะประชาชนปลดแอก

นายจอนกล่าวว่า 6 ปีที่ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้การปกครองของเผด็จการทหาร แม้มีการเลือกตั้ง แต่เลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญที่ออกแบบให้ คสช. ครองอำนาจต่อไป พวกเดียวกันยังเป็นรัฐบาลในปัจจุบัน การข่มขู่คุกคามประชาชนเกิดขึ้นไม่ต่างจากยุค คสช. มีตำรวจไปเยี่ยมเยาวชนที่สู้กับ

เผด็จการถึงบ้านหลายจังหวัด มีการบังคับสูญหายผู้อยู่ต่างประเทศยังเกิดขึ้นอยู่ รัฐธรรมนูญที่มีอยู่ไม่ใช่เพื่อประชาชน แต่เพื่อชนชั้นปกครองกลุ่มเผด็จการ สังคมทุกส่วนต้องการเปลี่ยนแปลงยกเลิกรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ต้องการรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน

รณรงค์รื้อรธน.ฉบับเผด็จการ

นายจอนกล่าวว่า ไอลอว์ชักชวนภาคประชาชนที่เห็นร่วมกันเพื่อรื้อรัฐธรรมนูญเผด็จการ ส่วนรัฐธรรมนูญใหม่มีเนื้อหาอย่างไร อยู่ที่ประชาชนทั้งประเทศกำหนด จึงล่ารายชื่อเพื่อปลดล็อกแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องมีรัฐธรรมนูญของประชาชนโดย ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง ปัจจุบันนักศึกษา ประชาชนคนรุ่นใหม่ เรียกร้องเผด็จการออกไป ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ปฏิรูปทุกโครงสร้าง ดังนั้นรัฐธรรมนูญของประชาชนต้องเกิดขึ้นแน่นอน ต้องผ่านการต่อสู้ยากลำบาก เราต้องร่วมกันทำให้สำเร็จ

ด้านนายยิ่งชีพกล่าวว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว วันนี้ตรงกับวันทำประชามติที่ทำให้เราได้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งออกแบบให้ คสช.อยู่ในอำนาจ ร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วม สำหรับการล่ารายชื่อเสนอ

แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ประกอบด้วย 5 ยกเลิก คือ 1.ช่องทางนายกฯ คนนอก ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง 2.แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ คสช.เขียนขึ้น คิดแทนอนาคต กดทับรัฐบาลทุกชุด 3.แผนปฏิรูปประเทศที่ คสช.เขียนขึ้น ความยาวรวมกว่า 3,000 หน้า 4.ท้องถิ่นพิเศษ ที่เปิดช่องผู้บริหารไม่ต้องมา

จากการเลือกตั้ง 5.มาตรา 279 นิรโทษกรรม คสช. ที่ช่วยคนทำรัฐประหาร ทำอะไรไว้ไม่มีทางผิดนอกจากนี้ยังมี 5 แก้ไข คือ 1.เปลี่ยนระบบบัญชีว่าที่นายกฯ เขียนให้ชัดนายกฯ ต้องเป็น ส.ส. 2.เปลี่ยนส.ว.ชุดพิเศษ คนของเขา เป็น ส.ว.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 3.เปลี่ยนที่มาองค์กรที่ไม่ทำงานตอนนี้ สร้างระบบสรรหาองค์กรอิสระแบบใหม่ ให้คนที่นั่งอยู่พ้นจากตำแหน่ง 4.ปลดล็อกวิธีแก้รัฐธรรมนูญใช้เสียงครึ่งหนึ่งของสภา ไม่ต้องมีอำนาจพิเศษของ ส.ว. ไม่บังคับประชามติ 5.ตั้งส.ส.ร.ชุดใหม่ จากการเลือกตั้งทั้งหมด เปิดทางร่างรัฐธรรมนูญใหม่ สร้างการเมืองแบบใหม่ สังคมแบบใหม่

ตั้งเป้า 5 หมื่นชื่อ-ชู 4 หลักการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด้านหน้าห้อง มีการตั้งโต๊ะให้ร่วมลงชื่อ ซึ่งมีประชาชนและนักศึกษา เข้าลงชื่ออย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 13.00 น. และยังมีการแจกแผ่นพับให้ข้อมูลต่างๆ อาทิ ปัญหารัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งเขียนโดยคสช. ระบบเลือกตั้งเพื่อ คสช. และวางฐานอยู่ยาวให้ คสช. พร้อมกันนี้ยังอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิการเสนอแก้รัฐธรรมนูญด้วยการร่วมกันลงชื่อให้ได้ 50,000 รายชื่อ เพื่อปิดทาง

นายกฯ คนนอก โดยยกเลิกมาตรา 257, 65 และ 275 ที่คสช.แต่งตั้งบุคคลขึ้นมาเขียนแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี, ยกเลิกการปฏิรูปประเทศด้วยคนของคสช., ยกเลิกข้อความในมาตรา 252 ที่ให้มีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษโดยไม่ต้องมาจากการเลือกตั้ง, ยกเลิกมาตรา 279 ที่เป็นหลักประกันให้คสช. ไม่ต้องรับผิด

สำหรับประเด็นการแก้ไข มีหลักสำคัญได้แก่ 1.นายกฯ ต้องเป็นส.ส. 2.ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน 3.แก้กระบวนการสรรหาคนในองค์กรอิสระ 4.ปลดล็อกกลไกรัฐธรรมนูญ และ 5.มีส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง 200 คน โดยต้องจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เสร็จใน 360 วันนับแต่มี ส.ส.ร. ทั้งนี้ ไอลอว์ จะเดินทางไปตั้งโต๊ะล่ารายชื่อในสถานที่ต่างๆ หลังจากนี้และประชาชนสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มเพื่อลงชื่อแล้วส่งไปรษณีย์ ได้ทาง ilaw.or.th/5000Con

ร้องสภาทนายลบชื่ออานนท์

เวลา 14.00 น. ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ บางเขน กทม. นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง เข้ายื่นเรื่องขอให้สภาทนายฯ ลบชื่อ นายอานนท์ นำภา ทนายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกจากทะเบียนทนายความ เนื่องจากมีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดข้อบังคับสภาทนายฯ

จากการปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 3 ส.ค. มีเนื้อหายุยง ปลุกปั่น บิดเบือน และล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมี นายเกียรติศักดิ์ เหลืองอังกูร อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และ นายปัญญา จารุมาศ เลขานุการคณะกรรมการมรรยาททนายความ เป็นผู้รับเรื่อง

ส่งศาล – ตำรวจควบคุมตัวนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนดำเนินคดีหลายข้อหาจากการเป็นแกนนำจัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิป ไตย ส่งฝากขังต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

ตร.รวบทนายอานนท์ นำภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมชื่อเยาวชนปลดแอก ถูกตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ นำหมายจับเข้าคุมตัวใน 7 ข้อหา คือ ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราช

อาณาจักรเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

นอกจากนี้ ยังถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใดๆ บนถนน และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

‘ไมค์’มือประท้วงไล่ตู่-ก็โดน

ทั้งนี้ มีพล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผบช.น.รับผิดชอบ งานด้านความมั่นคง เดินทางมาร่วมสอบปากคำ ที่ สน.สำราญราษฎร์

ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่งก็เดินทางมาให้กำลังใจและสังเกตการณ์การดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง จนทางเจ้าหน้าที่นำตัวนายอานนท์ออกเดินทางจาก สน.สำราญราษฎร์ไป พร้อมกับมีรายงานว่าจะนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สน.บางเขน จากนั้นได้มีการควบคุมตัวนายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก แกนนำผู้ชุมนุมซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอีกคนเข้ามาสอบสวนด้วย นอกจากนี้นายพริษฐ์หรือเพนกวิน ชีวารักษ์ แกนนำอีกคน ก็โพสต์ว่าตนถูกออกหมายจับเช่นกัน

สำหรับคดีนี้เริ่มต้นจากที่นายอภิวัฒน์ ขันทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เดินเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ หลังนายอานนท์ กับแกนนำผู้ชุมนุมที่ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยนายอานนท์ นำภา ถูกระบุเป็นผู้ต้องหารายที่ 7 ในหมายจับจากศาลอาญา

บช.น.แจงวุ่น-‘โรม’ประณาม

ด้านบช.น. แจ้งว่าการดำเนินคดีและการจับกุมแกนนำจัดกิจกรรมทั้ง 2 รายดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายของผู้ถูกจับกุม ได้ให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนสอบสวน พนักงานสอบสวนได้แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และจะปฏิบัติตามระเบียบการควบคุมตัว ตลอดจนการฝากขังต่อศาล

ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ตนขอประณามการควบคุมตัวคุณอานนท์และนักกิจกรรมอื่นๆ นี่คือการปฏิเสธข้อเรียกร้องของนักศึกษาที่ต้องการให้หยุดคุกคามประชาชน การจับคือการใช้กฎหมายคุกคามประชาชนเพียงเพื่อปกป้อง รัฐบาลให้อยู่สืบทอดอำนาจได้ นี่ไม่ใช่แค่จับอานนท์ แต่นี่คือการทำลายหลักการพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ที่คุ้มครองเสรีภาพของประชาชน

นำตัวยื่นฝากขังศาลอาญาทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากแจ้งข้อหาเสร็จแล้ว พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายอานนท์มายังสน.บางเขน ซึ่งระหว่างนั้นคณะประชาชนปลดแอกประกาศเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุมเพื่อให้กำลังใจนายอานนท์ด้วย

ส่วนนายภานุพงศ์นั้น ยังคงถูกสอบสวนอยู่ที่สน.สำราญราษฎร์ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้แต่งตั้งทนายความ แต่จัดทนายความให้แทน ทั้งๆที่ผู้ต้องหาร้องขอ โดยนพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย และโฆษกรัฐบาลสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ และน.ส.ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ขอเข้าเยี่ยม แต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาต

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนได้นำตัวทั้งนายอานนท์และนายภานุพงศ์ไปขออำนาจศาลฝากขังยังศาลอาญาทันที คาดว่าเพื่อต้องการควบคุมตัวให้นานกว่า 48 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายอานนท์มีกำหนดการจะไปร่วมปราศรัยในการชุมนุมของนักศึกษาและประชาชน ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 9 ส.ค.

‘เพนกวิน-พ่อเฌอ’จี้ปล่อยตัว

ที่หน้าสน.บางเขน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ายังมีประชาชนเป็นจำนวนมาก พากันทยอยเดินทางมาชุมนุมให้กำลังใจ และทวงถามความยุติธรรมในการออกหมายจับนายอานนท์ อาทิ นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ พ่อของน้องเฌอ นางพะเยาว์ อัคฮาด และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และกลุ่มผู้ชุมนุมยังได้นำเครื่องขยายเสียงมาเปิดปราศรัยเล็กๆ ด้วย

ต่อมา เมื่อเวลา 19.00 น. นายพริษฐ์ ร่วมตัวกับประชาชนกว่า 100 คน เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายอานนท์ ระหว่างการปราศรัยทางเจ้าหน้าที่สน.บางเขน ได้มอบกระดาษให้กับนายพริษฐ์ขอความร่วมมือต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ชุมนุมกันถึงแค่ 2 ทุ่มคืนนี้ เพราะขณะนี้นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเยาวชนปลดแอกอยู่ในกระบวนการของศาลอาญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเพนกวินได้

ฉีกกระดาษแผ่นดังกล่าวพร้อมพูด “การชุมนุมเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าสามารถชุมนุมได้ถึงกี่โมง” ก่อนผู้ชุมนุมจะโห่ร้องยินดีกันอย่างคึกคัก

ศาลไต่สวนคำร้องค้านประกัน

เมื่อเวลา 16.45 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.สำราญ ราษฎร์ นำตัวนายอานนท์และนายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหาคดีปลุกปั่นยุยงมาตรา 116 จากการร่วมชุมนุมกับเยาวชนปลดแอก มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-18 ส.ค. เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบพยานเพิ่มอีกหลายปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา
คดีนี้ในชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหารวมทั้งสิ้น 7 ข้อหา โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว ผู้ต้องหาทั้ง 2 ด้วย ขณะที่ผู้ต้องหาก็ได้ยื่นคำคัดค้านการฝากขังครั้งนี้ด้วยโดยอ้างเหตุการถูกจับกุมโดยมิชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลให้พิจารณาแล้ว นายอานนท์ ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ ที่ใช้วิชาชีพทนายความเป็นหลักประกัน โดยมีใบอนุญาตว่าความมาแสดงยืนยัน ส่วนนายภาณุพงศ์ ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเช่นกัน โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล มาเป็นนายประกันโดยใช้ตำแหน่ง ส.ส.มาเป็นหลักทรัพย์

ต่อมาเวลา 19.00 น. ทั้งคำร้องฝากขังและคำคัดค้านการฝากขังของผู้ต้องหาทั้ง 2 กับคำร้องขอปล่อยชั่วคราวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลโดยล่าสุด เวลา 19.25 น. ศาลได้มี คำสั่งให้ไต่สวนคำร้องคัดค้านการฝากขัง

ส.ส.ก้าวไกลรุดสังเกตการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยตัวแทน ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้แก่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล, นายรังสิมันต์ โรม, นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล, นายวรภพ วิริยะโรจน์, นายพิจารณ์ เชาว์พัฒนวงศ์, นายปดิพัทธ สันติภาดา, นายจิรัฏ ทองสุวรรณ์ และนาง อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อเตรียมใช้ตำแหน่งประกันตัวเยาวชน นิสิต นักศึกษาและประชาชนที่ถูกจับกุมจากการแสดงออกทางการเมืองเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะมีผู้ที่จะถูกดำเนินคดีถึง 30 คน

อานนท์-ไมค์’ยื่นถอนประกัน

ผู้สื่อข่าวรายงาน มีการเผยแพร่ข้อความเขียนด้วยลายมือของนายอานนท์ระหว่างถูกนำตัวฝากขัง ความว่า “เผด็จการกำลังใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการปิดปากประชาชน การประกันตัวที่ต้องติดขัดเงื่อนไขห้ามชุมนุม หรือห้ามตั้งคำถามเกี่ยวกับสถาบันเป็นสิ่งที่เรามิอาจยอมรับได้ ผมยินดีสละเสรีภาพเพื่อยืนยันหลักการ ขอให้ทุกคนออกมาต่อสู้ให้ถึงเส้นชัย อย่าเสียเวลามา ฟรี อานนท์ ให้เอาเวลาไปทุ่มเทเรียกร้องตามข้อต่อสู้ของเรา เชื่อมั่นในมิตรสหาย” ลงชื่อ อานนท์ นำภา
สำหรับข้อความดังกล่าว รายงานข่าวระบุว่านายอานนท์ได้ยื่นร้องคำคัดค้านการประกันตัวด้วย ขณะที่บริเวณใต้ถุนศาลอาญา มีประชาชนจำนวนมากมาให้กำลังใจ และรอลุ้นผลการไต่สวนว่าศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

ส่วนนายภาณุพงศ์ได้เขียนข้อความว่า “เมื่อกฎหมายเป็นเครื่องมือของเผด็จการ มันคงถึงเวลาของนักสู้เพื่อประชาธิปไตย ขอให้จงยืนหยัดสู้ด้วยอุดมการณ์ที่แรงกล้า เมื่อข้าพเจ้าได้เสรีแห่งอิสรภาพ จะไปยืนสู้ไม่ถอย ลูกรามคำแหง ลูกพ่อขุน” ลงชื่อไมค์ นายภาณุพงศ์ จาดนอก

ส่วนบรรยากาศที่หน้าสน.บางเขนในช่วงดึก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุม เรียกร้องให้ปล่อยตัวนายอานนท์ และนายภาณุพงศ์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ศาลใช้เวลาไต่สวนตั้งแต่ 19.30 -21.50 น. จึงได้มีคำสั่งว่า ให้คืนคำร้องฝากขังของพนักงานสอบสวน โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าได้ความจากพนักงานสอบสวน ตอบทนายความของผู้ต้องหาที่ถามค้านว่า ได้นำตัวผู้ต้องหามาฝากขังหลังเวลา 16.30 น. ประกอบกับงานฝากขังของศาลลงเวลารับคำร้องฝากขังรับคำร้องลงเวลา 16.45 น. ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าพนักงานสอบสวนผู้ร้องได้ยื่นคำร้อง ฝากขังครั้งแรกเมื่อพ้นกำหนดเวลาราชการ

ศาลจึงมีคำสั่งคืนคำร้องให้พนักงานสอบสวนผู้ร้องและให้รับตัวผู้ต้องหาคืน โดยให้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรกภายใน 48 ชั่วโมงตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน