ศบค.ชุดเล็กไฟเขียวเปิดเรียนเต็มรูปแบบ 100% ชงบิ๊กตู่อนุมัติจันทร์นี้ เริ่มเปิด 13 ส.ค.ส่วนแข่งกีฬาให้มีคนดูได้ แต่ต้องจำกัดจำนวน พร้อมเว้นระยะห่าง ขณะเดียวกันเปิดให้ล้งจากจีนเข้ามาซื้อผลไม้จากไทย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องกักตัว 14 วัน ด้าน‘ยูเอ็น’ยกให้ไทยเป็นต้นแบบรับมือโควิด ระบุ 3 ปัจจัยความสำเร็จ มาตรการรัฐ จิตอาสา และประชาชนร่วมมือป้องกันโรค พบไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 15 คน มาจากซาอุฯ 10 อียิปต์ 4 และ ญี่ปุ่น 1 เข้าอยู่สถานกักตัว ส่วนผลตรวจคนดูคอนเสิร์ต‘เจนนี่’ 2,582 คนไม่มีติดเชื้อ เช่นเดียวกับทหารอเมริกัน 110 นายที่เข้ามาฝึกในไทยก็ไร้เชื้อโควิด

พบติดเชื้ออีก 15 กลับจากตปท.

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า วันนี้มี ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 คน รวมติดเชื้อสะสม 3,345 คน หายป่วยสะสม 3,148 คน เสียชีวิต 58 คน ยังรักษาอยู่ในร.พ. 139 คน โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดเดินทางมาจากต่างประเทศ ผ่านการคัดกรอง ที่ด่านฯ และเข้าพักในสถานที่กักกันตัวของรัฐ

โดยผู้ป่วย 4 คนแรก เป็นชายไทยอายุ 22, 23, 26 และ 28 ปี เดินทางมาจากประเทศอียิปต์ ถึงไทยวันที่ 24 ก.ค.ซึ่งเป็นเที่ยวบินกลับที่มีผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้และเข้าพักที่จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 5 ส.ค.พบติดเชื้อ โดยทั้งหมดไม่มีอาการ

ส่วนอีก 10 คน เป็นนักศึกษาชายไทย 9 คน อายุระหว่าง 24-28 ปี และ 1 คน เป็นชายไทย อายุ 43 ปี อาชีพพนักงานโรงงาน เดินทางมาจากซาอุดีอาระเบีย ถึงไทยเมื่อวันที่ 25 ก.ค. (เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย) เข้าพักที่จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 5 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ และ 1 คน เป็นชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาจากญี่ปุ่น ถึงไทยเมื่อวันที่ 31 ก.ค.เข้าพักที่จ.สมุทรปราการ และตรวจหาเชื้อในวันที่ 5 ส.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

ทั้งนี้ มีคนเดินทางมาจากซาอุดีอาระเบีย 493 ราย เจอเชื้อ 41 ราย คิดเป็นอัตรา 8.32% อียิปต์เข้ามา 1,360 ราย เจอเชื้อ 49 ราย คิดเป็น 3.6%

โดยผู้เดินทางเข้ามาอยู่ในสถานที่กักกันตัว ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.-6 ส.ค. จำนวน 72,723 คน กลับบ้านแล้ว 62,934 ราย พบติดเชื้อ 408 ราย รักษาหาย 269 ราย

สำหรับสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 19,256,652 ราย เสียชีวิต 711,680 ราย ทั้งนี้ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.สหรัฐอเมริกา 5,032,179 ราย 2.บราซิล 2,917,562 ราย 3.อินเดีย 2,025,409 ราย 4.รัสเซีย 871,894 ราย และ 5.แอฟริกาใต้ 538,184 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่อันดับ 112 สำหรับในรอบ 1 วัน ฟิลิปปินส์ป่วย 3,480 ราย อินโดนีเซีย 1,882 ราย สิงคโปร์ 301 ราย ญี่ปุ่น 1,134 ราย ส่วนเวียดนามพบ 30 คน ทำให้เห็นแนวโน้มของโรคนี้ยังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ และชันขึ้น แม้สถานการณ์ในประเทศเราดี เราจะใช้การบริหารภายในประเทศส่วนหนึ่ง แต่ต้องดูข้อมูลต่างประเทศร่วมกันด้วย

‘ยูเอ็น’ชูไทยต้นแบบรับมือโควิด

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ด้านสถานการณ์ข่าวในต่างประเทศ ทางองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ชื่นชมประเทศไทยในการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นตัวอย่างของความแข็งแกร่งและความสามัคคีและถือเป็นความสำเร็จในการจัดการกับโควิด-19 ที่ประเทศอื่นควรศึกษา โดยผลสำเร็จมาจาก 3ปัจจัย คือมาตรการของรัฐบาล ความรับผิดชอบต่อสังคมและจิตอาสา และความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการป้องกันโรค ซึ่งทั้งหมดเกิดจากความร่วมมือจากประชาชนทั้งสิ้น และเราต้องต่อสู้กับโควิด-19 อีกยาวนานก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนไปอีกนาน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเดินทางเข้ามาฝึกในไทยของทหารสหรัฐ 110 นาย และเข้าพักในโรงแรมใจกลางกรุงเทพฯโฆษกศบค. กล่าวว่า เรื่องนี้ทางกองทัพบกที่เป็นเจ้าภาพทำงานร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข โดยเบื้องต้นมีข่าวออกมาจากสองหน่วยงานนี้แล้ว เช้านี้มีการรายงานในที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขว่าผลการตรวจโควิด-19 ทั้งหมด 110 รายที่พักในโรงแรมกักตัวทางเลือกหรืออัลเทอร์เนทีฟ สเตต ควอรันทีน 3 แห่ง คือโรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์, ดิไอเดิล,คอนราร์ด ผลการตรวจเชื้อขณะนี้ยังไม่พบเชื้อทั้ง 110 ราย จึงไม่ได้มี ข้อกังวลแต่อย่างใด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและกองทัพบกจะได้รายงานผลเป็นระยะๆ ให้ประชาชนทราบต่อไป

ผ่อนปรนอีก 5 กิจกรรม

นพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า ส่วนการประชุมของคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ครั้งที่ 6 จะพิจารณา 5 ประเด็นคือ 1.การเปิดโรงเรียน โดยที่ไม่ต้องสลับเรียนแล้วว่าจะมีวิธีการในการจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่อาจมีห้องเรียนแออัดให้เด็กสามารถเรียนได้โดยที่ไม่ติดเชื้อโควิด-19 โดยทางกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอรูปแบบเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณา ถ้ามีผลอย่างไร ทางกระทรวงศึกษาธิการจะนำข้อมูลมาเปิดเผยเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อสังคม และศบค. จะหารือกับผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลาย 2.การเปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งเดิมกำหนดให้ที่นั่งเว้นที่นั่ง ครั้งนี้จะพิจารณาให้ได้นั่งเต็มทุกที่นั่ง แต่ต้องมีมาตรการเพิ่มเติมอย่างไรเพื่อให้เกิดความมั่นใจของประชาชนผู้ใช้บริการ

3.การแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม จะได้มีตัวอย่างไปที่จ.ระยองแล้ว โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเสนอว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความมั่นใจ โดยให้ศบค. พิจารณาในเชิงนโยบาย ถ้าอนุมัติก็จะได้ไปจัดที่จังหวัดอื่นๆ ได้อีก 4.การขายอาหารบนเครื่องบินซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนผู้ใช้บริการนั้นมีความต้องการ เพราะบางครั้งมีธุระเร่งด่วนไม่สามารถเตรียมท้องระหว่างขึ้นเครื่องได้ก็ต้องไปพึ่งพาบนเครื่อง ก็จะพิจารณามาตรการนี้ แต่ก็ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีการติดเชื้อ 5.การขยายเวลาสถานบริการไปถึงตี 2

โฆษกศบค. กล่าวว่า การประชุมศบค. ชุดใหญ่ที่จะมีขึ้น 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะประชุมเมื่อมีสถานการณ์ใหญ่ๆ ตนจะมาแถลงข่าวเมื่อมีเรื่องวาระที่สำคัญมานำเสนอต่อประชาชน แต่ถ้าไม่มีประเด็นใหญ่สำคัญก็จะกลับไปแถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขทุกวันจันทร์-พุธ-ศุกร์เวลา 13.00 น. โดยมี พญ.พรรณประภา หรือหมอบุ๋ม ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศบค. เป็นผู้นำเสนอ

เลขาฯ สมช.ถกผ่อนปรน

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธาน คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เปิดเผยว่า ในเวลา13.30 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ เพื่อหารือเรื่องการผ่อนคลายการเปิดสถานศึกษา ทั่วประเทศแบบ 100% ส่วนสนามแข่งม้าและกีฬาบางประเภทที่ยังไม่อนุญาตให้มผู้ชมจะพิจารณาผลกระทบต่างๆ อย่างรอบคอบ ก่อนจะนำเข้าที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า
เลขาฯ สมช.กล่าวต่อว่า ส่วนการอนุญาตให้นักธุรกิจเข้ามาในประเทศไทยนั้น ศบค.กำหนดมาตรการรองรับไปแล้ว เช่น ประเทศญี่ปุ่นมีผู้ต้องการขอเข้าประเทศมากกว่า 1 หมื่น จึงต้องใช้เวลาทยอยพิจารณาอนุญาตตามขั้นตอน ขณะที่การผ่อนคลายเรื่องการแสดงคอนเสิร์ต เราไม่ได้ห้าม ยังจัดแสดงคอนเสิร์ตได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข ต้องจัดเว้นระยะ ไม่ให้มีคนหนาแน่นเหมือนการจัดแสดงคอนเสิร์ตของ นักร้อง ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’

แข่งกีฬา-มวยให้คนเข้าดูได้

พล.อ.สมศักดิ์กล่าวถึงผลประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจว่า ในที่ประชุมได้พิจารณาถึงมาตรการผ่อนปรนเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดการ กระตุ้นเรื่องเศรษฐกิจ โดยการให้ล้งจากประเทศจีนเดินทางเข้ามารับซื้อผลไม้จากไทย เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยมีเงื่อนไขจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคก่อนเข้าประเทศ และเมื่อมาถึงต้องเข้ายังสถานกักกันโรคแบบทางเลือกจนครบ 14 วัน พร้อมกับตรวจโรคอีกครั้งก่อนออกจากสถานที่กักกันตัว ซึ่งไม่ได้จำกัดจำนวนวัน หรือกำหนดให้แจ้งเส้นทางการเดินทางในประเทศเนื่องจากผ่านการกักกันโรคแล้ว เช่นเดียวกับคนไทยที่เดินทางกลับประเทศ เนื่องจากการอนุญาต ดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง

เลขาฯสมช.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังหารือเรื่องการอนุญาตให้การแข่งขันกีฬา โดยสามารถมีผู้เข้าชมได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกรอบและมาตรการด้านสาธารณสุข ทั้งการเว้นระยะห่าง และจำกัดจำนวนคนตามชนิดกีฬาแต่ละประเภท ซึ่งรวมกีฬาชกมวยที่เคยเป็นประเด็นการแพร่ระบาดครั้งที่ผ่านมาด้วย นอกจากนั้นเห็นชอบเรื่องการทดลองเปิดการเรียนการสอนแบบเต็มรูปแบบทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามสั่งการก่อน และเมื่อโรงเรียนเปิดปกติแล้ว ต้องผ่อนคลายมาตรการเรื่องการขนส่งทั้งทางบก และทางเรือ เพื่อสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ตามปริมาณความจุของยานพาหนะนั้นๆต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุมยังไม่ได้หารือถึงการขยายระยะเวลาการเปิดสถานบันเทิงจากเวลา 24.00 น. เป็น 02.00 น. เพราะหากให้ขยายเวลาเปิดไปก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากสามารถจำหน่ายแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 24.00 น.เท่านั้น อย่างไรก็ตามการผ่อนคลายมาตรการวันนี้บางเรื่องอาจอนุญาตได้ทันที แต่บางเรื่องต้องรอเข้าที่ประชุมใหญ่ศบค.ที่มีนายกฯ เป็นประธาน พิจารณาอีกครั้ง คาดว่าน่าจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 21 ส.ค.นี้

เปิดเรียนเต็มรูปแบบ 13 ส.ค.

ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษา ธิการ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ที่มีพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาฯ สมช.เป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้สถานศึกษาทั่วประเทศทดลองเปิดทำการเรียนที่โรงเรียนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และลดมาตรการเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร ซึ่งจะมีนักเรียนได้มากกว่า 25 คนโดยมีเงื่อนไขให้นักเรียนต้องจดบันทึกไว้ว่าแต่ละวันได้ไปที่ไหนมาบ้างหลังเลิกเรียน เพื่อเป็นมาตรการติดตามหากมีการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในโรงเรียน
รมว.ศึกษาธิการกล่าวต่อว่า มั่นใจว่ากระบวนการสาธารณสุขสามารถบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยในประเทศได้ เพราะที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถ้ามีการแพร่ของโรคเรามีวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ดังนั้นขอฝากครู ผู้ปกครอง และนักเรียนเรื่องการบันทึกข้อมูล เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ

สำหรับการเรียนการสอนก็ต้องมีการเปลี่ยนแนวทางและปรับเนื้อหาสาระ พยายามให้มีการเรียนในห้องเรียนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งนี้ จะนำเสนอเรื่องนี้ให้นายกฯ รับทราบในวันที่ 10 ส.ค.นี้ หากนายกฯ ลงนามเห็นชอบแล้วคาดว่าจะเปิดได้พร้อมกันในวันที่ 13 ส.ค.นี้

เมื่อถามว่ารูปแบบการเรียนการสอน และเกณฑ์การวัดผลจะปรับอย่างไรหรือไม่ นายณัฏฐพลกล่าวว่า การประเมินการสอบ ทางกระทรวงศึกษาธิการกำลังพิจารณาถึงความเหมาะสมว่าจะลดลง หรือปรับเปลี่ยนได้หรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าวันนี้การเรียนการสอนไม่ได้เท่าเทียมกันทั่วประเทศ บางพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงสื่อดิจิตอล แต่หลายพื้นที่ไม่มีโอกาส ดังนั้น จะวัดมาตรฐานเดียวกันเป็นไปไม่ได้ นี่คือมาตรการต่อไปที่ทางกระทรวงศึกษาธิการต้องไปหาความเหมาะสม

2.5พันดูคอนเสิร์ต‘เจนนี่’ไร้เชื้อ

วันเดียวกัน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่ง เจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงผลการตรวจหาเชื้อ โควิด-19 จากกรณีการจัดคอนเสิร์ต “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราชนั้นว่า การจัดคอนเสิร์ตดังกล่าวในวันที่ 25 ก.ค.มีผู้เข้าชมอย่างหนาแน่น บางรายไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่มีการเว้นระยะห่าง ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งวิตกกังวล จากการนำรถชีวนิรภัยพระราชทานจำนวน 5 คัน ลงไปเก็บตัวอย่าง ตรวจคัดกรองประชาชน ทั้งที่ร่วมชมคอนเสิร์ตและประชาชนในพื้นที่ มีผู้ตรวจ หาเชื้อทั้งสิ้น 2,582 ราย แบ่งเป็นวันที่ 4 ส.ค. เก็บตัวอย่าง 617 ราย วันที่ 5 ส.ค. ตรวจ 1,965 ราย ทั้งหมดผลเป็นลบ ดังนั้นประชาชนยังดำเนินชีวิตปกติตามวิถีชีวิตใหม่ โดยสวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดความแออัด

110 ทหารมะกันไม่มีเชื้อ

เมื่อถามถึงกรณีข่าวทหารสหรัฐที่มาฝึกในประเทศไทยติดเชื้อ 11 คนนั้น นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า วันที่ 3 ส.ค. มีทหารสหรัฐเข้ามา 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรก 71 ราย กลุ่มสองมาจากฐานทัพสหรัฐ ที่ญี่ปุ่น 32 ราย และวันที่ 4 ส.ค.มาเพิ่มเติม 7 ราย ผลการตรวจทั้งหมด 110 ราย ออกมาเป็นลบทั้งหมด ทั้งนี้ขอย้ำว่าทหารสหรัฐทุกรายเข้ารับการกักในสถานที่กำหนด 14 วัน เหมือนคนมาจากต่างประเทศทั้งหมด โดยเข้ากักกันในอัลเทอร์เนทีฟ สเตต ควอรันทีน ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนระหว่างกักตัว 14 วัน มีระบบควบคุมและการกำกับของกลาโหม โดยระหว่างกักกันตรวจเชื้อไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ขอให้ อุ่นใจ มั่นใจในสิ่งที่เราดำเนินการอย่างดี ป้องกันไม่ให้เชื้อภายนอกเข้ามาและเกิดการแพร่เชื้อในไทย

เมื่อถามต่อว่าถ้ามีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่อีก จะมีการตรวจเช่นนี้อีกหรือไม่ นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า กิจกรรมผ่อนคลายที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะระยะท้ายๆ คือมีปฏิสัมพันธ์ คนรวมกันมาก จึงกำหนดมาตรการหลักและมาตรการเสริม คือต้องขออนุญาตและดำเนินการตามมาตรการ เพื่อป้องกันก่อนเกิดเหตุ แต่หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็จะเฝ้าระวัง สอบสวนโรค และเฝ้าระวังเชิงรุกในชุมชน หากเกินกำลัง รถตรวจโรคพระราชทานก็พร้อมระดมเข้าไปยังพื้นที่เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในแง่การให้บริการ
ด้านพญ.ศิริลักษณ์ ไทยเจริญ ผอ.สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคที่ 11 (สคร.) กล่าวถึงการตรวจคอนเสิร์ต ‘เจนนี่’ ว่า ผู้เข้าร่วมตรวจ 2,582 ราย แบ่งเป็นผู้ร่วมคอนเสิร์ต 1,930 ราย คิดเป็น 75% ไม่ได้เข้าชมคอนเสิร์ต 652 ราย ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง 1,636 ราย คิดเป็น 63% ชาย 946 ราย คิดเป็น 37% ส่วนใหญ่อายุ10-19 ปี คิดเป็น 64% คัดกรองแล้ว ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ 88% มีอาการทางเดินหายใจ 12% แต่ผลการตรวจวันที่ 4 ส.ค. จำนวน 617 ราย และวันที่ 5 ส.ค. 1,965 ราย ทั้งหมดไม่พบการติดเชื้อ แม้อ.ชะอวดเคยมีผู้ป่วยโควิดมาก่อน และเกิดการจัดคอนเสิร์ตที่อาจมีบางระยะเวลาที่การป้องกันตามมาตรฐานไม่ดีพอก็ทำให้มั่นใจว่าพื้นที่อ.ชะอวด ปลอดจากโควิด และนครศรีธรรมราชจะเข้มข้นมาตรการต่อไป

‘บิ๊กตู่’ปลื้มท่องเที่ยวเริ่มฟื้น

เมื่อเวลา 10.20 น.วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เช้าวันนี้มีความยินดีที่สื่อเสนอข่าวว่า สถิติการจองโรงแรมและห้องพักแน่นเต็มไปหมด ทั้งโรงแรมขนาดใหญ่ในเมืองหลักและเมืองรองเต็มทั้งหมด ประมาณ 2 แสนกว่าห้อง ขอแสดงความยินดีด้วย ถือว่ามีการพัฒนาไปเรื่อยๆ และกำลังคิดกันว่าในอนาคตเราจะทำอย่างไรเพราะถ้าเป็นการท่องเที่ยวเฉพาะภายในก็ได้แค่ 2 ล้านกว่าคน แต่การท่องเที่ยวของเราต่อปี 10 กว่าล้านคน

ดังนั้น เราต้องหามาตรการต่างๆ ผ่อนคลายออกมา แต่ทุกอย่างจะต้องปลอดภัย ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องคิดตั้งแต่ต้นทาง ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามา การขึ้นเครื่องบิน เที่ยวบินแต่ละเที่ยว ลงมายังสนามบิน เข้าที่พักแล้วไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ท้องถิ่นจะต้องให้ความร่วมมือ ไม่เช่นนั้นก็จะขัดแย้งกันไปหมด ถ้าเข้าใจตรงกันทั้งวงจร ก็จะลดปัญหาความขัดแย้งลงไป ไม่เช่นนั้นข้างล่างจะบ่นว่าเศรษฐกิจฐานรากไม่ดี เราต้องคิดใหม่ว่าทำอย่างไรจะให้มีเงินเข้ามาในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากตอนนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องการจ้างงานในแผนการฟื้นฟู

“เช้าวันนี้ ผมเห็นข่าวประเทศญี่ปุ่นมีการลงทุนในช่วง 6 เดือน เพิ่มขึ้นแสนกว่า ล้านบาท เราจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเพื่อให้มีการลงทุนต่อเนื่องเรื่องอื่นๆ ก็ค่อยพูดค่อยจากัน” นายกฯ กล่าว

แอร์เอเชียเปิดเที่ยวบินประจวบฯ

วันเดียวกันที่ท่านอากาศยานหัวหิน (บ่อฝ้าย) นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าฯประจวบ คีรีขันธ์ พร้อมด้วยนางนิศากร สิงหเสนี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนำนักท่องเที่ยว 170 ชีวิต ขึ้นเครื่องบินไทยสายการบินแอร์เอเชียซึ่งเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เที่ยวแรก จากเชียงใหม่สู่เมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลายและ ไม่มีผู้ที่ติดเชื้อ โดยมีนายประยงค์ จันทเต็ง นายอำเภอหัวหิน

นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมสมาคมธุรกิจ การท่องเที่ยวหัวหิน ชะอำ และหน่วยงานต่างๆ ร่วมให้การต้อนรับ

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก มีแหล่ง ท่องเที่ยวครบครัน และเป็นการส่งเสริมการ ท่องเที่ยวการสร้างเศรษฐกิจรายได้จากการท่องเที่ยวอีกด้วย

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า เปิดให้บริการเส้นทางการบินภายในประเทศ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นและไม่มีผู้ติดเชื้อ ทางแอร์เอเชียให้ความสำคัญกับการเดินทางภายในประเทศมากขึ้น จึงเปิดสายการบินระหว่าง เชียงใหม่-หัวหิน และหัวหิน- อุดรฯ รวม 2 เส้นทาง โดยให้บริการเปิดเที่ยวบินในช่วงวันเดินทางในวันศุกร์ แล้วเดินทางกลับในวันอาทิตย์ สอดคล้องกับการเดินทางเที่ยวและพักผ่อน ได้ลงตัวของผู้ที่จะมาใช้บริการ

สำหรับการฉลองเที่ยวบินครั้งนี้ ทาง แอร์เอเชียมอบราคาโปรโมชั่นพิเศษสุดเริ่มที่ 790 บาท/เที่ยวบิน โดยสามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 10-16 ส.ค.นี้ และเริ่มเดินทางตั้งแต่ วันที่ 10 ส.ค. 2563 ถึงวันที่ 26 มี.ค. 2564

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน