จมบ้าน50หลัง
อพยพ-นับร้อย
หนีน้ำโกลาหล

อุตุฯพยากรณ์ลักษณะอากาศระบุมรสุมทำไทย ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ทั่วทุกภาคของประเทศ 50 กว่าจังหวัด จะมีฝนตกหนัก เตือนพื้นที่เสี่ยงระวังน้ำป่าไหลหลาก ที่โคราชเกิดฝนตกหนักนานหลายชั่วโมง เกิดมีน้ำสะสมในทุ่งนาพื้นที่หลายร้อยไร่ ก่อนไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน ที่อ.โชคชัย กว่า 50 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังออกช่วยเหลือชาวบ้านกว่า 100 คน พาหนีน้ำขึ้นที่สูง ส่วนที่เชียงราย‘สล่าเหลิม’ห้อมอเตอร์ไซค์วิบากลุยโคลนบุกขึ้นดอย ช่วยผู้ประสบภัย ถูกน้ำป่าไหลหลาก พัดถล่ม บ้านเรือนพังเสียหายนับสิบหลัง

วันที่ 13 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ระบุว่า ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศ ไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ภาคเหนือ มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ ชัยภูมิ ขอนแก่น อุดรธานี สกลนคร นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส และสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 ก.ม./ช.ม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส สูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 ก.ม./ช.ม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส สูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 ก.ม./ช.ม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ช่วยหนีน้ำ – จนท.ใช้รถแทรกเตอร์ ช่วยขนย้ายทรัพย์สินและชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน อพยพหนีน้ำป่าที่ทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านสำโรง ม.5 ต.ท่าจะหลุง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา หลังเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน เมื่อวันที่ 13 ก.ย.

วันเดียวกัน ที่จ.นครราชสีมา พ.ต.อ. สุรจิตร์ วิวรรธน์สมบัติ ผกก.สภ.โชคชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา และตำรวจของสภ.โชคชัย กว่า 40 นาย ได้นำรถกู้ภัยฉุกเฉิน รถไถการเกษตร และเรือท้องแบนลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ในหมู่บ้านสำโรง หมู่ที่ 5 ต.ท่าจะหลุง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ให้ออกมาจากหมู่บ้าน หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากจากทุ่งนาใกล้หมู่บ้าน ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว จนชาวบ้านเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน ติดอยู่ภายในหมู่บ้านกันเป็นจำนวนมาก

พ.ต.อ.สุรจิตร์เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา และปภ.จังหวัดนครราชสีมา นำกำลังเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในหมู่บ้าน ซึ่งพบว่าน้ำป่าไหลมาจากฝั่งพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.เฉลิมพระเกียรติ กับอ.โชคชัย เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักกว่า 4 ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดมีน้ำสะสมบริเวณทุ่งนาช่วงรอยต่อดังกล่าวหลายร้อยไร่ และน้ำได้ไหลมาที่หมู่บ้านสำโรง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 50 หลังคาเรือนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้ชาวบ้านเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน โดยระดับน้ำได้ท่วมถนนบางจุดสูงกว่า 50 ซ.ม. และมีไหลเชี่ยวมาก รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้รถไถการเกษตรและเรือท้องแบน ลุยน้ำเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คนที่ติดอยู่ในหมู่บ้านให้ออกมาอยู่ที่สูง ชาวบ้านทุกคนปลอดภัยดี มีเพียงบ้าน 4-5 หลังเท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย ระดับน้ำก็เริ่มลดลงบ้างแล้ว หลังจากฝนได้หยุดตก ทำให้ไม่มีปริมาณน้ำฝนเข้ามาเพิ่มอีก คาดว่าระดับน้ำจะลดลงกลับคืนสู่สภาวะปกติได้ภายในช่วงค่ำวันนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาอีก

สล่าลุยเอง – เพจเฟซบุ๊ก “ผู้ที่ชื่นชอบอาจารย์เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์” เผยแพร่ภาพนายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ขี่จยย.วิบากลุยทางโคลนไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำป่าถล่ม ที่บ้านอาดี่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 13 ก.ย.

ขณะเดียวกันที่จ.เชียงรายว่า เพจที่มีชื่อว่า “ผู้ที่ชื่นชอบอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ได้เผยแพร่ภาพและข้อความ “วันนี้ (12 ก.ย.) ท่าน อ.เฉลิมชัยพร้อมคณะติดตามได้เดินทางโดยมอ’ไซค์ ขึ้นไปมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากพัดบ้านเรือนสูญหาย จำนวน 2 หลัง เสียหายหนัก 1 หลัง เสียหายเล็กน้อย 10 หลัง ณ บ้านอาดี่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย”

สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ย. เกิดมีน้ำป่าไหลอย่างรุนแรงพัดเอาบ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย ส่งผลให้มีบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านห้วยลุ, บ้านอาดี่ และบ้านพนาสวรรค์ ต.แม่ยาว เสียหายรวม 90 หลังคาเรือน ชาวบ้านกว่า 400 ชีวิต ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และกำลังต้องการขอรับบริจาคเครื่องอุปโภคและบริโภคอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน