อ้างผิดลิขสิทธิ์
ล่อซื้อ-รีดเงิน

ศาลโคราช สั่งจำคุก 2 หนุ่มใหญ่ ไม่รอลงอาญา 2 ปี 6 เดือน กับ 3 ปี คดีหลอก ด.ญ.15 ปี ทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์ลายการ์ตูนดัง แล้วล่อซื้อ-กรรโชกทรัพย์ เรียกรับเงิน 5 หมื่น แลกกับการไม่ต้องติดคุก ต่อรองเหลือ 5 พัน ผู้ปกครองแจ้งตำรวจจับ ส่วนลูกสาวผู้ต้องหาร่วมแก๊ง 3 รอด ยื่นหลักทรัพย์ 8 หมื่นบาทขอประกันตัวทันที ประธานสภาทนายโคราช ยันช่วยเหลือเหยื่อต่อในศาลอุทธรณ์ ส่วนครอบครัวผู้เสียหายพอใจที่ศาลให้ความยุติธรรม

จากกรณีเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) วัย 15 ปี หารายได้เสริมรับทำกระทง กระทั่ง มีคนโทรศัพท์มาสั่งกระทงลายการ์ตูน ยอดรวม 510 บาท โดยวางเงินมัดจำ 200 บาท พร้อมนัดรับของในตัวเมืองนครราชสีมา แต่เมื่อถึงเวลานัดกลับถูกจับกุม โดยอ้างว่ากระทงมีลายการ์ตูนมีลิขสิทธิ์ อาทิ โดราเอมอน การ์ฟิลด์ และริลักคุมะ เสนอเรียกรับเงิน 5 หมื่นบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวและไม่ต้องติดคุก สุดท้ายผู้ปกครองเจรจายอมจ่ายเงินให้ 5,000 บาท ต่อมาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายประจักษ์ โพธิผล อายุ 57 ปี, นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร อายุ 43 ปี และน.ส.วนิสา ถินสุวรรณ์ อายุ 25 ปี ลูกสาว ของนายนัน ข้อหารีดทรัพย์ อ้างเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ในฐานความผิด กรรโชกทรัพย์ ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จ และกักขังหน่วงเหนี่ยว และมีผู้เสียหายอีกกว่า 50 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ โดยมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกัน มีการเรียกรับเงิน 2-5 หมื่นบ้าง และบางรายถูกเรียกสูงถึง 1 แสนบาท จนเป็นคดีโด่งดังเมื่อเดือนพ.ค.2562

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เช้าวันนี้ศาลจังหวัดนคราชสีมาได้มีคำพิพากษา ลงโทษจำเลยใน 3 ข้อหา คือ ใช้เอกสารปลอมในเรื่องของหนังสือมอบอำนาจ, แจ้งความเท็จ และกรรโชกทรัพย์ โดยสั่งให้จำคุกจำเลยที่ 1 คือนายประจักษ์ 2 ปี 6 เดือน และจำเลยที่ 2 นายภูมิภากร 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนน.ส.วนิสา จำเลยที่ 3 ศาลได้ยกฟ้อง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำ ความผิดดังกล่าว

หลังจากศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ทางจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ยื่นขอประกันตัว ในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งเบื้องต้นศาลชั้นต้นได้ให้ประกันตัวตามที่ขอ ด้วยหลักทรัพย์คนละ 8 หมื่นบาท และเมื่อมีการยื่นอุทธรณ์ ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ก็จะเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการยื่นคำแก้อุทธรณ์ ช่วยเด็กหญิงเอ ต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ตามลำดับต่อไป ด้านการพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหาย รู้สึกพอใจที่ได้รับความเป็นธรรมและขอให้เป็นตัวอย่างสุดท้ายกับการล่อจับสินค้าลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาได้เข้าไปเป็นทนายร่วม เพื่อช่วยเหลือ ผู้เสียหาย คือเด็กหญิงเอ เป็นคดีแรก และได้สืบพยานกันมาจนศาลสั่งฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน ในที่สุด

ส่วนของผู้เสียหายรายอื่นๆ นายณพจน์ ผลเจริญ ฝ่ายช่วยเหลือทนายอาสาประจำสถานี ตำรวจ/ส่วนราชการ เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้าคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนทุกรายแล้ว โดยพนักงานสอบสวนแจ้งว่า อยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม และรอดูผลคำพิพากษาในคดีนี้ก่อน สำหรับเป็นแนวทางประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เนื่องจากพฤติกรรม การก่อเหตุลักษณะคล้ายกัน จะมีแตกต่างกันเรื่องสินค้าที่ทำขึ้นจำหน่าย แต่ทั้งนี้ 3 ข้อกล่าวหาที่ส่งฟ้องขอให้ดำเนินคดีกับจำเลยไปแล้วนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับข้อหาที่จะชี้ชัดว่า เด็กหญิงเอ ได้กระทำละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ซึ่งหากผู้เสียหายรายอื่นๆ ร้องขอความ ช่วยเหลือมา ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมายินดีช่วยเหลือ ส่วนกรณีที่ศาลลงโทษตัดสินจำเลยที่ 1 และ 2 ไม่เท่ากัน ศาลจะพิจารณาจากพฤติการณ์การทำความผิดเป็นหลัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน