คุมตัว-ส่งไปเชียงราย
คนร่วมยืนหน้าศาลคึก

ตร.บุกรวบ ‘หนุ่มเชียงราย’ ที่ปักหลักนั่งอดข้าวหน้าศาลอาญา เผยสภ.พาน จ.เชียงราย ประสานสน.พหลโยธินเข้าจับ นำไปลงบันทึกประจำวัน หลังศาลจังหวัดเชียงรายอนุมัติหมายจับ ในคดีความผิดตามมาตรา 112 และพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ คุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก ในภูมิลำเนา

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน ได้จับกุมนายมงคล ถิระโคตร หรือ บาส อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ที่นั่งอดอาหาร ที่บริเวณหน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เรียกร้องปล่อยตัวแกนนำกลุ่มราษฎร โดยจับกุมความผิดตาม ม.112 โดยควบคุมตัวสอบปากคำที่สน.พหลโยธิน และจะควบคุมตัวไปส่งที่ จ.เชียงราย

ด้านนายเดโชชาย เอี่ยมจิตร์ ทนายสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน ได้รับแจ้งจับจากสภ.พาน จ.เชียงราย ส่งหมายจับข้อหาความผิดตามมาตรา 112 พร้อมประสานให้จับกุมนายมงคลดำเนินคดีข้อหาดังกล่าว เบื้องต้นนำตัวไปลงบันทึกประจำวันที่สน.พหลโยธิน สอบปากคำเบื้องต้นนายมงคลไม่ขอลงลายมือชื่อ แต่ขอให้การกับพนักงานสอบสวนที่สภ.พาน จ.เชียงราย นายมงคลให้การว่า จะไม่ยอมลงชื่ออะไรทั้งสิ้น ขอให้การที่เชียงรายอีกรอบ และจะมีทนายความที่ จ.เชียงราย ดูแลให้อีกครั้ง

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน ได้ควบคุมตัวนายมงคลขึ้นรถตู้ของสน. พหลโยธิน มีรถกระบะขับนำหน้าเพื่อส่งตัวนายมงคล ไปที่สภ.พาน จ.เชียงราย ระหว่างถูกควบคุมตัวนายมงคล ได้ตะโกนบอกว่าจะถูกพาไปตัวไปที่จ.เชียงราย “เราหนีความจริงไม่ได้ 112 คือมาตราที่ป่าเถื่อน สู้ต่อไปทุกคน”

ด้านพล.ต.ต.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รรท.ผบก. น.2 กล่าวว่า เบื้องต้นเมื่อเวลา 11.30 น. ทาง บก.ภ.จว.เชียงราย ได้ประสานข้อมูลมาทาง สน.พหลโยธิน ว่านายมงคลมีความผิดตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ 42/2564 ลงวันที่ 14 เม.ย.2564 ความผิดข้อหา 112 และนำเข้าสู่ระบบพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการตรวจสอบข้อมูลนายมงคล พบว่าเคยถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ ตามคดีอาญาที่ 115/2564 ลงวันที่ 6 มี.ค. ของสภ.พาน จ.เชียงราย ปัจจุบันอยู่ระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีหลักประกัน จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมตัว พร้อมทำบันทึกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนเมืองเชียงราย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันที่ 23 – กลุ่มพลเมืองโต้กลับทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ‘ยืน หยุด ขัง 112 นาที’ ด้วยการยืนสงบนิ่ง เป็นวันที่ 23 ติดต่อกัน เพื่อเรียกร้องสิทธิ์การประกันตัวให้ผู้ต้องหาคดีการเมือง และ แกนนำราษฎร บริเวณหน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน เมื่อวันที่ 14 เม.ย.

เมื่อเวลา 17.30 น.วันเดียวกัน กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ได้เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน นำโดยนายพันศักดิ์ ศรีเทพ แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืน หยุด ขัง 112 นาที” โดยให้ผู้เข้าร่วมยืนสงบนิ่ง พร้อมชูภาพแกนนำม็อบราษฎรที่ยังไม่ได้รับการประกันตัว และป้ายระบุข้อความเรียกร้องสิทธิในการประกันตัวเป็นเวลานาน 112 นาที ซึ่งได้มายืนนิ่งๆ ที่หน้าศาลฎีกา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังจากการทำกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย ต่อเนื่องเป็นวันที่ 23 แล้ว

สำหรับกิจกรรม ยืน หยุด ขัง เป็นเวลา 112 นาที ผู้เข้าชุมนุมต่างนำภาพมาคล้องคอและกอดภาพบุคคลที่ยังถูกคุมขังตามความผิด ม.112 ที่ยังถูกขังในเรือนจำไว้ โดยทุกคนต่างสวมใส่หน้ากากอนามัย และมีเจลแอลกอฮอล์ คอยฉีดล้างมือตลอดเวลา

นอกจากนี้ ยังมีน.ส.ประกายดาว พฤกษาเกษมสุข บุตรสาวของของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข มาร่วมยืนด้วย ขณะเดียวกัน มีประชาชนบางส่วนเดินทางมาให้กำลังใจด้วย ซึ่งการชุมนุมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 300 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

สำหรับการชุมนุมในวันนี้ มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 300 คน โดยวันเดียวกันนี้ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เข้าร่วมชุมนุมด้วย ซึ่งนางอมรัตน์ห้อยป้ายกระดาษ เขียนข้อความ “ที่นี่ไม่มีความยุติธรรม” ก่อนจะเปลี่ยนเป็นป้ายข้อความ “ 2 มาตรฐานอยู่ที่นี่”

ต่อมานายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำกลุ่มราษฎรนนทบุรี มาร่วมกิจกรรมด้วย ก่อนจบกิจกรรม ผู้เข้าร่วมชุมนุมทั้งหมดได้พร้อมใจหันหน้าชู 3 นิ้วและตะโกนคำว่า “ปล่อยเพื่อนเรา”

จากนั้น กลุ่มพลเมืองโต้กลับได้ออกแถลงการณ์ว่า พลเมืองโต้กลับ จึงขอแจ้งแก่เพื่อนสมาชิกและประชาชนทั่วไปว่าจะงดเว้นกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง 112 นาที” ในวันพฤหัสบดีที่ 15 เม.ย. นี้ และจะกลับมาจัดกิจกรรมต่อในวันศุกร์ที่ 16 เม.ย. เช่นเดิม หากมีกลุ่มบุคคลเข้าไปทำกิจกรรมบริเวณดังกล่าวในช่วงวันและเวลาเดียวกับที่เราได้ประกาศยกเลิกกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น และเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย พลเมืองโต้กลับขอปฏิเสธว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับพลเมืองโต้กลับแต่อย่างใด

กิจกรรม ยืน หยุด ขัง 112 ได้ยุติลงเมื่อเวลา 19.22 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 500 คน ได้ยืนหันหน้าเข้าศาลฎีกา พร้อมชูมือซ้ายและทำสัญลักษณ์ 3 นิ้ว และส่งเสียง “ปล่อยเพื่อนเรา 3 ครั้ง” ก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ

ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ฐานะโฆษกบช.น.เปิดเผยว่า ตามที่มีการประกาศชักชวนให้ออกมาร่วมกันชุมนุมผ่านโซเชี่ยลมีเดีย ประชาสัมพันธ์นัดหมายทำกิจกรรม โดยกลุ่ม UNME of Anarchy (หมู่บ้านทะลุฟ้า) นัดหมายบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ในวันที่ 15 เม.ย. เวลา 14.00 น. และกลุ่มนายปัญญาวี มีผึ้ง และนายเจษฎา ศรีปลั่ง นัดหมายเดินทางไปทำกิจกรรมที่เรือนจำธนบุรี เรือนจำธัญบุรี เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยจะหมุนเวียนไป ในวันที่ 15 เม.ย. 2564 เวลา 17.00 น.

บช.น.จึงขอแจ้งให้ประชาชนที่จะมาเข้าร่วมการชุมนุมในวัน-เวลาดังกล่าวนั้นทราบว่าอาจมีความผิดและได้รับโทษตามกฎหมาย 2 ข้อหา คือการร่วมกันชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการกระทำใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานและพ.ร.บ.โรคติดต่อ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ล็อกตัว – ตำรวจสน.พหลโยธินเข้าควบคุมตัวนายมงคล ถิระโคตร หรือบาส หนุ่มเชียงรายที่มาอดข้าวเรียกร้องปล่อยแกนนำราษฎร จากหน้าศาลอาญา รัชดาฯ ส่งไปยัง บก.ภ.เชียงราย ดำเนินคดีมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อวันที่ 14 เม.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน