10อำเภอสุพรรณบุรีจม
ถนนกาญจน์ท่วม2เมตร
2เขื่อนโคราชน้ำล้นแล้ว

นายกฯ ขึ้นฮ.ไปช่วยน้ำท่วมสิงห์บุรีวันนี้ ตรวจพนังกั้นเจ้าพระยา สั่งเร่งสำรวจความเสียหาย ช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประสบภัยเก็บกักน้ำพื้นที่แก้มลิง รับมือมวลน้ำบ่าลงภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ ผู้ว่าฯ กทม. เตือน 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ รับมือน้ำเจ้าพระยาท่วมสูงเกือบครึ่งเมตร ตั้งแต่ 23 – 30 ต.ค. จิสด้าเผยภาพถ่ายดาวเทียม ภาคอีสานนาล่มแล้วกว่า 1.5 ล้านไร่ โคราชหนักสุด เสี่ยงจมอีก 2.2 แสนไร่ มวลน้ำลำตะคองท่วมมิตรภาพ ปิดจราจร ชุมชนมิตรภาพ กว่า 300 หลังคาเรือน ท่วมกว่าครึ่งเมตร อลหม่านชาวบ้านขนของหนีน้ำกลางดึก 4 เขื่อนใหญ่โคราช น้ำล้นสปิลเวย์ แจ้งเตือนบ้านท้ายอ่างระวังน้ำท่วมสูงฉับพลัน เขื่อนทับเสลา อุทัยธานี จมลานสัก เขื่อนกระเสียว สุพรรณฯ น้ำทะลัก ท่วม 10 อำเภอ บ่อพลอย กาญจน์อ่วม น้ำท่วมถนนสูง 2 เมตร ยาว 1 ก.ม.

นายกฯ ตรวจน้ำท่วมสิงห์บุรี

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำหนดการเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดสิงห์บุรีใน วันที่ 20 ต.ค. โดยเวลา 12.30 น. จากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี จากนั้นเดินทางโดยรถยนต์ไปนั่งเรือท้องแบนเข้าพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมชุมชนบางแคใน บริเวณใต้สะพานบางระจัน ต.บางกระบือ อ.เมือง และเวลา 13.45 น. ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยชุมชนบางแคในจำนวน 10 หลัง ต่อจากนั้นจะเดินทางไปยังวัดเฉลิมมาศ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี เพื่อตรวจสภาพพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่เวลา 16.15 น. นายกฯ จะเดินทางไปวิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ต.บางพุทรา อ.เมือง เพื่อเป็นประธานและกล่าวเปิดโครงการ “ส่งสุขภาพดีให้คนไทย #จากใจไปรษณีย์ไทย Delivers Wellness” โดยนายกฯ จะกดปุ่มปล่อยโดรน นำจ่ายกล่องยาไปยังบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ช่วงเย็นวันเดียวกัน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การที่นายกฯ ลงพื้นที่จ.สิงห์บุรี ร่วมกับนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย โดยนายกฯ ได้สั่งการให้เร่งรัดสำรวจตรวจสอบความเสียหายจากน้ำท่วมเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัย ขณะเดียวกันขอให้เก็บกักน้ำในพื้นที่แก้มลิง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนและเครื่องมือเพื่อรับมือมวลน้ำจำนวนหนึ่งที่จะมาถึงภาคกลางตอนล่างและภาคใต้

ชัยนาทสั่งท้ายเขื่อนรับมือน้ำ

ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ SWOC12 สำนักงานชลประทานที่ 12 นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผวจ.ชัยนาท พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ อัครมณี ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 และนายอำเภอพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา

นายรังสรรค์กล่าวว่า จากการประชุมทราบว่าสถานการณ์น้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีน้ำจากทางด้านเหนือเขื่อนไหลลงมาเพิ่มเติม อาจเป็นเหตุทำให้เขื่อนเจ้าพระยา ยกระดับน้ำทางด้านเหนือเขื่อนเพิ่มขึ้น โดยทางจังหวัดได้ให้นายอำเภอทุกอำเภอที่อยู่เหนือเขื่อนประชุมทำความเข้าใจ และเตรียมการรับมือน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน ขณะที่จังหวัดได้ให้แนวทางป้องกันด้วยการทำคันดินป้องกันน้ำ แจ้งเตือนประชาชนยกของขึ้นสู่ที่สูง เตรียมรับมือน้ำท่วมอีกครั้ง

สำหรับสถานการณ์น้ำพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดที่สถานีวัดน้ำ ซี2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,588 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา มีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.15 เมตร มีปริมาณน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.81 เมตร และเขื่อนมีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,614 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำทางด้านเหนือเขื่อน และด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าติดตามรับมือกับสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง

ช่วยน้ำท่วม – นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายกอบจ.ปทุมธานี นำคณะลงเรือมอบสิ่งของจำเป็นช่วยเหลือชาวบ้านเหยื่อน้ำท่วม ชุมชนไทย-มอญ ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 19 ต.ค.

แจงเขื่อนกระเสียวน้ำล้น

ด้านนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี น้ำล้นสปิลเวย์จนต้องปล่อยออกมาจำนวนมาก ส่งผลให้น้ำท่วมสูงในหลายอำเภอของ จ.สุพรรณบุรี ว่า ขณะนี้มวลน้ำจำนวนมากจาก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ลงมายังเขื่อนกระเสียว ทำให้ต้องระบายน้ำเพิ่มและยังมีน้ำตกค้างอยู่ จึงต้องผันน้ำผ่านสปิลเวย์ลงไปที่แม่น้ำท่าจีนที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี และเมื่อรวมกับน้ำที่มาจากแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ อ.สามชุก อ.สองพี่น้อง และอ.เมือง มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากอย่างน้อย 50 ซ.ม. ต่อวัน จึงพยายามจะลดการระบายน้ำลงบ้าง เนื่องจากน้ำมาบรรจบกัน 3 ทางคือ มาจากเขื่อนเจ้าพระยา คลองโตนด และเขื่อนกระเสียว ส่งผลให้แม่น้ำท่าจีนมีปริมาณน้ำที่สูง

นายประภัตรกล่าวต่อว่า หากไม่มีฝนตกลงมาอีกภายใน 1-2 วันนี้คิดว่าระดับน้ำจะลดลง โดยได้ประสานกับกรมชลประทานเพื่อให้มีการปรับแผนการระบายน้ำให้ลดลงจะได้ไม่กระทบกระเทือนต่อชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าน้ำมาครั้งนี้ไม่ทัน ตั้งตัว ทำให้นาเสียหายกว่าแสนไร่

ที่บ้านลานสาง หมู่ 11 ต.แม่ท้อ อ.เมือง จ.ตาก จำนวน 17 ครัวเรือน กว่า 50 คน ถูกตัดขาดจากเส้นทางสัญจรไม่สามารถเข้า-ออกหมู่บ้านได้ ซึ่งชาวบ้านต้องใช้สะลิงพาดกับเสาไฟฟ้าเพื่อส่งอาหารเข้าไปยังหมู่บ้านที่ถูกตัดขาด และอาศัยช่วงจังหวะฝนหยุดตก น้ำป่าลดระดับลง ไต่ลวดสะลิง ข้ามลำห้วย เพื่อไปดูฝูงวัว ที่ปล่อยเลี้ยงไว้ในไร่ อีกฝั่งของลำห้วย ด้วยความยากลำบาก

ลานสักผวา-น้ำล้นเขื่อน

ที่อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี น้ำในเขื่อนทับเสลาเพิ่มมากขึ้นเกินความจุของเขื่อนที่กักเก็บน้ำได้ ทำให้ต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในบางพื้นที่ จึงขอแจ้งเตือน ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมคลองทับเสลาทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่ อ.ลานสัก อ.หนองฉาง อ.หนองขาหย่าง และอ.เมือง บางส่วน ขนสิ่งของและทรัพย์สินมีค่าขึ้นที่สูง ขณะที่ถนนสายลานสัก-ระบำ ถูกน้ำท่วม ทำให้ประชาชนขนของไม่สะดวก เนื่องจากน้ำมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลากลางคืน พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกู้ภัยนำกำลังคนเข้าไปช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของและนำผู้สูงอายุที่อยู่ติดริมคลองตั้งแต่เวลาช่วงเช้าถึงอีกวัน

อีสานนาล่ม1.5ล้านไร่

ด้าน GISTDA เปิดภาพจากกลุ่มดาวเทียม Sentinel / radarsat/ landsat วิเคราะห์พื้นที่ปลูกข้าวบริเวณลุ่มน้ำมูนและลุ่มน้ำชี ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือช่วงวันที่ 11-17 ต.ค.2564 พบพื้นที่ปลูกข้าวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังสูงถึง 1,581,882 ไร่ โดยพบในพื้นที่ จ.นครราชสีมา 1,209,005 ไร่ ขอนแก่น 90,096 ไร่ ชัยภูมิ 61,237 ไร่ มหาสารคาม 53,248 ไร่ ร้อยเอ็ด 66,699 ไร่ กาฬสินธุ์ 28,422 ไร่ บุรีรัมย์ 25,086 ไร่ สุรินทร์ 20,261 ไร่ ยโสธร 11,406 ไร่ ศรีษะเกษ 7,829 ไร่ อุบลราชธานี 7,384 ไร่ และอำนาจเจริญ 1,209 ไร่ ตามลำดับ นอกจากนี้ GISTDA คาดการณ์พื้นที่ปลูกข้าวที่เสี่ยงว่าจะได้รับผล กระทบอีก 222,402 ไร่

เขื่อนมูลบนทะลัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ของจ.นครราชสีมา เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำมูลบน หนึ่งใน 4 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัด เกินระดับกักเก็บและล้นออกทางอาคารระบาย น้ำล้น หรือสปิลเวย์แล้ว ขณะที่ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูนบนออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำมูนอย่างใกล้ชิด ทั้งในส่วนของพื้นที่ อ.ครบุรี, โชคชัย, เมือง และเฉลิมพระเกียรติ พร้อมเตรียมเก็บทรัพย์สินในพื้นที่ลุ่มต่ำขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย โดยปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำมูลบนล่าสุดอยู่ที่ 142.65 ล้านลบ.ม. จากความจุกักเก็บทั้งหมดที่ 141 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 101.17 ของความจุ มีปริมาณน้ำไหลล้นออกทางสปิลเวย์ หรืออาคารระบายน้ำล้น 0.8 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะเดียวกันได้พร่องน้ำออกจากอ่าง 2.5 ลบ.ม.ต่อวินาที

2 เขื่อนใหญ่โคราชน้ำล้น

ตามที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งสถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงล่าสุดว่า วันเดียวกัน ปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 155.75 ล้าน ลบ.ม. หรือ 100.48% ของความจุอ่างฯ ซึ่งมีปริมาณเกินระดับเก็บกักของเขื่อนลำพระเพลิงไหลล้นผ่านอาคารระบายน้ำล้นลงสู่คลองธรรมชาติลำพระเพลิง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงขอประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำติดคลองธรรมชาติลำพระเพลิง ลำสำลาย และลำซอ โดยเฉพาะในเขตอำเภอปักธงชัย ประกอบด้วย ต.ตะขบ ต.ลำนางแก้ว ต.บ่อปลาทอง ต.สุขเกษม ต.ตูม ต.งิ้ว ต.นกออก ต.เกษมทรัพย์ ต.ดอน ต.โคกไทย ต.ตะคุ ต.เมืองปัก และต.พลับพลา ต.ท่าลาดขาว และต.กระโทก อ.โชคชัย ให้เตรียมรับมือเร่งด่วนเก็บทรัพย์สินขึ้นที่สูง และติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีก 1 อ่าง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำมูนบน อ.ครบุรี ประมาณน้ำล้นอ่างแล้วเช่นกัน โดยมีน้ำกักเก็บล่าสุด อยู่ที่ 142.64 ล้านลบ.ม. หรือ101.17 % ของความจุอ่าง ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีก 2 อ่าง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ่อล้นแล้วเช่นกัน โดยมีปริมาณน้ำกักเก็บล่าสุด อยู่ที่ 310 ล้าน ลบ.ม. หรือ 98.75 % ของความจุอ่าง ส่วนอ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำกักเก็บล่าสุด อยู่ที่ 267 ล้าน ลบ.ม. หรือ 97.16 % ของความจุอ่าง ซึ่งทั้งสองอ่างฯ

หนีวุ่น-ลำตะคองบ่ากลางดึก

ขณะเดียวกันที่ชุมชนตะคองเก่า ที่อยู่บริเวณด้านหลัง ชุมชนมิตรภาพ ซอย 4 มีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 ม.ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ และกระแสน้ำไหลแรงมาก ทำให้ชาวบ้านต้องเร่งขนของขึ้นที่สูง และพากันอพยพออกจากพื้นที่โดยใช้เรือในการเดินทาง ซึ่งชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า น้ำขึ้นสูงช่วงตี 1 และเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ตอนนี้ตนเองต้องพาลูกน้อยอพยพหนีน้ำไปพักอาศัยอยู่บ้านญาติซึ่งน้ำไม่ท่วม

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผอ. โครงการชลประทานนครราชสีมา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ภายในชุมชนมิตรภาพซอย 4 เขตเทศบาลนครราชสีมา หลังจากน้ำในลำน้ำลำตะคองได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชน กว่า 300 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงกว่า 50 ซ.ม. ซึ่งชุมชนมิตรภาพ ซอย 4 เป็นเส้นทางออกไปยังถนนคลองส่งน้ำ โรงเรียน สุรนารี 2 ระดับน้ำสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ต้องใช้เรือเดินทางหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่เท่านั้น ทางเทศบาลนครนคร ราชสีมาได้นำเต็นท์มาคอยบริการประชาชน มีเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน อสม. คอยอำนวยความสะดวกรับส่งประชาชน พร้อมแจกข้าวกล่องบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

นายวิเชียรกล่าวว่า มวลน้ำจาก อ.สูงเนิน เดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมาถึงเขตเทศบาลนครราชสีมา ในวันที่ 20 ต.ค. แต่มาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนมิตรภาพซอย 4 และบริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมือง ส่งผลให้ต้องมีการปิดการจราจรบริเวณดังกล่าว จากการติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำตะคอง มั่นใจว่า จะป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลที่อยู่ติดกับลำน้ำลำตะคองได้ โดยเฉพาะ ร.พ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นร.พ. หลักของจังหวัด ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำตะคอง คาดว่า น่าจะยังมีมวลน้ำที่ตกค้างอยู่ จึงต้องมีระดมเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนป้องกันและช่วยเหลือประชาชน สำหรับภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม ทั้งในรอบแรกและรอบที่ 2 นี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบใน 30 อำเภอ จาก 2 อำเภอ บ้านเรือนได้รับความเดือดร้อน กว่า 4,500 หลังคาเรือน

นอกจากนี้ มวลน้ำลำตะคองที่ไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมา ได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนมิตรภาพ บายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ฝั่ง ขาออกตัวเมืองนครราชสีมา เข้าจ.ขอนแก่น บริเวณฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าโฮมโปร ทั้งช่องทางหลักและช่องทางคู่ขนาน ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซ.ม. เป็นระยะทางยาวกว่า 1 ก.ม. รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรฝั่งขาออกทั้งหมด

เขื่อนอุบลรัตน์ล้น-เร่งระบาย

ด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ อยู่ในระดับกักเก็บเต็ม 100% แล้ว หรือที่ 2,419 ล้านลบ.ม. ทำให้จังหวัดต้องมีการปรับการะบายน้ำออกจากเขื่อนวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. โดยหัวน้ำก้อนแรกของแม่น้ำพองจากการปรับการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นจะมาบรรจบกับน้ำในแม่น้ำชี ที่เขต ต.พระลับ และ ต.บึงเนียม ในอีก 3 วันต่อจากนี้ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนนั้นเฝ้าระวังภาวะน้ำล้นตลิ่งและการอพยพมาในพื้นที่ที่ปลอดภัยและรีบเก็บสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงอย่างเร่งด่วน

ส่วนมวลน้ำก้อนที่ 2 จาก จ.ชัยภูมิ ตามแผนบริหารจัดการน้ำ ประมาณ 1,200 ล้าน ลบ.ม. ตามแม่น้ำชี นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า คาดว่าอีก 7 วันจะเข้าเขตตัวเมืองขอนแก่น

บ่อพลอยจม2ม.-ขนสัตว์หนีวุ่น

ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เริ่มหนักมากขึ้น หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา น้ำป่าจาก อ.หนองปรือ และ อ.เลา ขวัญ ไหลลงมาสมทบกับน้ำฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องจนทำให้ล้นเข้าท่วมพื้นผิวถนน ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร โดยเฉพาะที่ถนนสายบ่อพลอย-หนองปรือ น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมผิวถนนจนรถไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้เป็นระยะทางยาวกว่า 1 ก.ม. เจ้าหน้าที่ต้อง ปิดถนนห้ามรถสัญจรผ่าน ขณะที่บ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ 6 ตำบล ถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำกันอุตลุด ทหารชุดจิตอาสากองพลทหารราบที่ 9 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ช่วยกันนำเรือยนต์และเรือท้องแบนเข้าช่วย

ส่วนที่บริเวณสวนสัตว์ซาฟารีปาร์ค ในพื้นที่ ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย ซึ่งน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่สวนสัตว์จำนวนกว่า 300 ไร่จนเกือบหมด ทางนายปิยะบุตร ประสพสุข โชคมณี เจ้าของสวนสัตว์ ได้ประสานขอกำลังทหารจิตอาสากองพลทหารราบที่ 9 เข้าช่วยขนย้ายสัตว์ออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

10 อำเภอสุพรรณฯอ่วม

ด้านสถานการณ์แม่น้ำท่าจีน ยังคงมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีทั้ง 10 อำเภอ ตั้งแต่ อ.ด่านช้าง อ.หนองหญ้าไซ อ.เดิมบางนางบวช อ.ดอนเจดีย์ อ.สามชุก อ.ศรีประจันต์ อ.บางปลาม้า อ.เมือง อ.อู่ทอง อ.สองพี่น้อง ยังได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนตกหนัก น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ และพื้นที่ลุ่มต่ำ แม่น้ำท่าจีนมีปริมาณน้ำไหลเข้ามา ทั้งนี้ยังมีน้ำล้นเขื่อนกระเสียว ไหลไปสมทบกับปริมาณน้ำท่าที่เกิดจากฝนตกหนักด้านท้ายเขื่อน ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงมาแม่น้ำท่าจีน 150-200 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะมีการบริหารจัดการผันน้ำเข้าทุ่งโพธิ์พระยา เพื่อลดปริมาณน้ำหลาก ปริมาณน้ำจะส่งผลให้ระดับแม่น้ำท่าจีนสูงขึ้นอีก 0.30-0.50 เมตร ระหว่างวันที่ 20-27 ต.ค. ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำกระสอบทรายมากั้นบริเวณริมเขื่อนทุกจุด พร้อมเร่งสูบน้ำระบายน้ำออก หวั่นน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ ส่วนด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง สถานการณ์น้ำได้เต็มปริมาณความจุของเขื่อนเป็นที่เรียบร้อย

ช่วยเหลือ – เจ้าหน้าที่นำเรือเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยหญิงอายุ 64 ปี ซึ่งบ้านถูกน้ำท่วม พื้นที่หมู่ที่ 4 ต.กบเจา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นำส่งรักษาที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 19 ต.ค.

ช่วยผู้ป่วยเบาหวานส่งร.พ.

ที่จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ได้รับแจ้งมีผู้ป่วยเป็นหญิง ทราบชื่อสมใจ เสือเปรียว อายุ 64 ปี มีโรคประจำตัว เบาหวาน และขาข้างซ้ายท่อนบนจากหัวเข่าขาดเนื่องมาจากการผ่าตัด มีอาการป่วยกำเริบต้องการไปร.พ. พักอาศัยอยู่ภายในบ้าน หมู่4 ต.กบเจา อ.บางบาล ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร จึงนำเรือเข้าไปช่วยเหลือนำส่งร.พ.แล้ว

ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี มอบหมายให้ นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายกอบจ.ปทุมธานี ลงเรือตรวจสอบสถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจาก กระทรวงมหาด ไทย โดยปภ. เตือน 11 จังหวัดระวังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีก 20 – 40 ซ.ม. และมอบถุงรอดชีพ ข้าวสารถุงละ 5 ก.ก. ยาเสริมภูมิคุ้มกันโรคระบาด หน้ากากอนามัย จำนวน 300 ชุด ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนชุมชนไทย-มอญ ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก

เตือน 11 ชุมชนกทม.รับน้ำท่วม

ที่ศาลาว่าการกทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำเหนือไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ว่า วันเดียวกัน เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำของกรมชลประทานที่ อ.บางไทร ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่าน กทม. เฉลี่ย 2,923 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดของ กทม. อยู่ที่ 2 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกทม.อยู่ 1 เมตร จึงยังไม่ส่งผลกระทบในพื้นที่ กทม. อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินและวิเคราะห์ปริมาณฝนตก (วัน แม็ป) ร่วมกับ กรมอุตุนิยม วิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากแม่น้ำปิง ช่วงวันที่ 23-30 ต.ค.2564 ระดับน้ำบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้น 0.20-0.40 เมตร จึงขอให้ชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ประกอบด้วย ดุสิต, พระนคร, สัมพันธวงศ์, บางคอแหลม, ยานนาวา, บางกอกน้อย และคลองสาน ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน