ทำแบบไพบูลย์
สั่งคุกสนธิญาณ
คดีล้มเลือกตั้ง

ครม.เลื่อนสัญจรกระบี่ ‘บิ๊กตู่’ วอนการเมืองเบาๆ หน่อย ชี้ยังมีปัญหาอีกมากต้องแก้ แต่ไม่ท้อ โต้ลุยตรวจน้ำท่วม ไม่ได้สร้างภาพ ‘ป้อม’ ลงพื้นที่กาญจนบุรี ส.ส.พลังประชารัฐกว่า 40 คนแห่รับ ‘ไพบูลย์ นิติตะวัน’ เฮ ศาลรธน.สั่งไม่ต้องพ้นส.ส. กรณียุบพรรคตัวเองซบพลังประชารัฐ ‘พิเชษฐ สถิรชวาล’ได้ที เตรียมยุบประชาธรรมไทย รวมพรรคแกนนำรัฐบาล อ้าง ‘บิ๊กป้อม-ธรรมนัส’ ยืนยันไม่ทิ้งพรรคเล็ก ‘สมชัย’ อดีตกกต. ชี้เป็นบรรทัดฐานใหม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก ‘สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม’ ไม่รอลงอาญา คดีล้มเลือกตั้ง แต่ได้ประกัน ส่วนอีก 3 กปปส.ยกฟ้อง

ครม.สัญจรกระบี่เลื่อนก่อน

ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในวันที่ 8-9 พ.ย. ที่จ.กระบี่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว รองรับการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. มีรายงานว่า การประชุมครม.สัญจรดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป โดยอาจจัดประชุมระหว่างวันที่ 15-16 พ.ย. หรือรอพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงวันที่ 8-9 พ.ย. มีกำหนดการประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ คือการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ที่ค้างมาจากการประชุมสมัยที่ผ่านมา เช่น ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นต้น

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญ โดยกำชับในที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ให้พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคกำชับส.ส. อย่าขาดประชุมโดยเด็ดขาด ให้ช่วยกันเข้าประชุมทุกครั้งที่มีกฎหมายสำคัญเข้าสู่การพิจารณาของสภา

‘บิ๊กตู่’วอนการเมืองเบาๆ หน่อย

เมื่อเวลา 09.10 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 10 ประจำปี 2564 โดยมีพล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุม ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาสภากลาโหม และพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ไม่ได้เข้ามาร่วมประชุมด้วย เนื่องจากติดภารกิจลงพื้นที่จ.กาญจนบุรี

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า เรื่องการเมืองขอให้เบาๆ หน่อยช่วงนี้ เพราะยังมีปัญหาอีกมากที่รัฐบาลต้องแก้ไข ซึ่งปัญหามาพร้อมกันหลายอย่าง อยากให้คำนึงถึงความยากง่ายในการแก้ไขปัญหาแต่ละอย่าง ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งรัฐบาลพยายามมีมาตรการใหม่ๆ เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รวมถึงปัญหาระหว่างประเทศ เพราะประเทศไทยอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องอยู่ตรงกลาง ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมทั้งภาคประชาชน ภาครัฐและเอกชน ต้องร่วมมือกัน

ลั่นไม่ท้อ-ชิงนายกฯให้ถามปชช.

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ เจอปัญหามากจะสู้ต่อใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ท้อ ไม่มีท้อ” ต่อข้อถามว่า หากในอนาคตมีเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับสถานะนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัญหาและอุปสรรคต้องมี เป็นสิ่งที่ผู้นำต้องแก้ไขปัญหา ไม่อย่างนั้นจะเป็นทำไมผู้นำ ส่วนจะแก้ได้มากได้น้อยก็ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ฉะนั้นบางเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันก็ต้องดูข้อเท็จจริง จึงขอให้ฟังหน่วยงานที่ชี้แจงด้วย ถ้าเราอยู่กันอย่างไม่ไว้ใจกัน ก็ไปไม่ได้และจะปั่นป่วนอลหม่าน เกิดความเสียหาย

เมื่อถามว่าแต่ละพรรคเปิดตัวผู้นำที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากรายชื่อทั้งหมดคิดว่าจะสู้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ถามประชาชน ถามคนเลือกสิจ๊ะ”

เยือนสิงห์บุรี-ให้กำลังใจปชช.

เวลา 12.30 น. ที่สนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ ออกเดินทางไป จ.สิงห์บุรี เพื่อติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัย โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมคณะ

ในส่วนของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มาร่วมต้อนรับที่จ.สิงห์บุรี 11 คน ประกอบด้วย นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.สิงห์บุรี นายภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี นายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พิจิตร นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม นายมานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ส.ส.สุโขทัย ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี และนายประทวน สุทธิอำนวยเดช ส.ส.ลพบุรี

เมื่อถึงจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี พล.อ. ประยุทธ์ได้ใช้รถตู้ Toyota Alphard สีดำ เลขทะเบียน กง 44 สิงห์บุรี ในการปฏิบัติภารกิจ โดยไปยังพื้นที่ประสบอุทกภัยชุมชนบางแคใน ใต้สะพานบางระจัน ต.บางกระบือ อ.เมืองสิงห์บุรี จากนั้นไปวัดเฉลิมมาศ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี เพื่อตรวจสภาพพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา และไปวิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ต.บางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี เพื่อเป็นประธานและกล่าวเปิดโครงการ “ส่งสุขภาพดีให้คนไทย #จากใจไปรษณีย์ไทย Delivers Wellness” และกดปุ่มปล่อยโดรนสำหรับนำจ่ายกล่องยาไปยังบ้านผู้ประสบอุทกภัย ก่อนกลับกรุงเทพฯ

ยันไม่ได้สร้างภาพ

ในการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จ.สิงห์บุรี มีประชาชนที่มาต้อนรับได้มอบดอกกุหลาบและถือป้ายให้กำลังใจ พร้อมตะโกนว่า “เรารักลุงตู่” ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์เดินทักทายประชาชนอย่างอารมณ์ดีพร้อมชูมือเป็นสัญลักษณ์ “ไอเลิฟยู” และกล่าวว่า “รักทุกคน ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ” ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ถามชาวบ้านว่า “สู้ไม่สู้” เมื่อชาวบ้านตอบว่า สู้ๆ นายกฯจึงกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “สิงห์บุรี สู้ๆ สู้ไปด้วยกัน สู้ไปกับนายกฯ”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยืนยันด้วยว่า การมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบสิ่งของให้กับประชาชนในวันนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องการสร้างภาพ รัฐบาลมีความเป็นห่วงประชาชนทุกคน ด้วยแรงสนับสนุนจากพวกเราวันนี้ นายกฯจะกลับไปและมีกำลังใจในการที่จะทำต่อไปให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ เป็นคำมั่นที่ให้ไว้ต่อกันระหว่างเราและภาคประชาชนทุกคน

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิจารณ์อาคารศาลาไทยในงาน “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ” (World Expo 2020 Dubai) เป็นหนึ่งในงานแสดงนิทรรศการที่ใหญ่ระดับต้นๆ ของโลก ที่เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค.64 โดยฝั่งหนึ่งตำหนิอาคารศาลาไทยล้าหลัง ไม่ตอบโจทย์การขับเคลื่อนแห่งอนาคต ขณะที่อีกฝั่งชื่นชมบอกเป็น Soft Power อวดความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลกว่า ตนทราบอยู่แล้ว และทราบดี แต่มีคนที่ไปด้อยค่าอยู่ ไปตามดูก็แล้วกันว่าข้อเท็จจริงคืออะไร วันนี้คนเข้าคิวชมกันเท่าไหร่แล้ว ก็มีออกข่าวไป ที่ผ่านมาได้รับความสนใจไปเท่าไหร่ คนรอเข้าคิวกันวันละเท่าไหร่ วันนี้เข้าไปชมกันกี่คนแล้ว คงมีคนที่อาจจะไม่ชอบนายกฯ เป็นการส่วนตัว จึงพยายามด้อยค่าทุกเรื่องนั่นแหละ

ลั่นยิ่งมีปัญหายิ่งมีกำลังใจ

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กรณีขณะนี้เจอทั้งสถานการณ์โควิด น้ำท่วม และปัญหาอื่นๆ ยังมั่นใจที่จะนำพาและแก้ปัญหาประเทศหรือไม่ว่า “ยิ่งมีปัญหา ผมยิ่งมีกำลังใจจากประชาชนจากข้าราชการที่ร่วมมือกับผม”

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่วันเดียวกันนี้แยกลงพื้นที่ กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “แล้วทำไม มันเป็นยังไง จังหวัดเดียวหรือเปล่า คุณไปพูดกันเอง จะไปพร้อมกันก็ได้ แต่ท่านเดินพร้อมผมไม่ได้ เข้าใจหรือเปล่า เธอเดินตามฉันทันไหม”

เมื่อถามว่า ช่วงนี้ถือเป็นเวลาที่ประชาชนต้องตั้งมั่น ตั้งสติไปพร้อมรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แน่นอน ต้องร่วมมือกันให้มาก อยากได้อะไรต้องร่วมมือ นายกฯ พร้อมให้ทุกอย่าง ถ้าร่วมมือกันไปได้ทุกเรื่อง

‘บิ๊กป้อม’ไปกาญจน์-พปชร.แห่รับ

เวลา 08.30 น. ที่อาคารรับรอง 50 ปี เขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้อำนวยการ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะ ลง พื้นที่ตรวจราชการและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มีนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี และคณะ ต้อนรับ

พล.อ.ประวิตร รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ตามแนวชายแดน สถานการณ์น้ำภาพรวมและการบริหารจัดการน้ำ พร้อมกล่าวมอบนโยบาย ก่อนเป็นประธานพิธีกดปุ่มเปิดน้ำชุมชน ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำดื่ม น้ำใช้ ที่สะอาดตลอดปี จากนั้นไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และเขื่อนวชิราลงกรณ ช่วงบ่าย เดินทางต่อไปที่หอประชุม อบต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เพื่อมอบถุงยังชีพ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของพล.อ.ประวิตร ครั้งนี้มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม รวมถึงรัฐมนตรี แกนนำและส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จากทุกภาค ร่วมลง พื้นที่ 40 กว่าคน อาทิ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รองหัวหน้าพรรค พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค

‘จุรินทร์’ออนทัวร์ 3 จังหวัดใต้

ที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำกิจกรรม “จุรินทร์ ออนทัวร์” ลงพื้นที่จ.สตูล พัทลุง และตรัง ระหว่างวันที่ 20-21 ต.ค.ว่า จะเริ่มต้นภารกิจที่จ.สตูล โดยเปิดการอบรมการค้าขายทางออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากภาคการเกษตร โอท็อป สตาร์ตอัพ และภาคประชาสังคมมีความต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมในเรื่องนี้ ซึ่งจะนำไปสู่การค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากนั้นจะพบผู้นำศาสนา แล้วเดินทางไปยัง จ.พัทลุง เพื่อร่วมประชุมกับ ส.ส.ภาคใต้ของพรรค

ส่วนในวันที่ 21 ต.ค. ประชุมเพื่อหาข้อสรุปเรื่องทีมเซลส์แมนจังหวัด และเตรียมการเรื่องการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่จะจัดในเดือนพ.ย.นี้ นอกจากนี้จะมอบโฉนดที่ดินคืนให้เกษตรกรที่ใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร รวมถึงติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ทั้งเรื่องยางและปาล์ม ที่จ.ตรังต่อไป

มั่นใจเลือกตั้งหน้าได้ที่นั่งเพิ่ม

นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการยุบสภาต่อเนื่องว่า อำนาจการยุบสภา เป็นการตัดสินใจของนายกฯ ซึ่งนายกฯ ย้ำเสมอว่า ยังไม่มีการยุบสภา ดังนั้นจึงจะต้องฟังนายกฯ เป็นหลัก และในฐานะนักการเมือง และหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องทำหน้าที่ควบคู่กันให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะในฐานะรัฐมนตรี ที่จะต้องมีผลงานเป็นรูปธรรมให้ประชาชนพึงพอใจ และตลอด 2 ปี ที่พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลมั่นใจว่า มีผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจนมาก สามารถทำได้ไว และทำได้จริง

ส่วนการเตรียมความพร้อมสำหรับการ เลือกตั้งนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องเตรียมพรรคให้พร้อม เลือกตั้งเมื่อใดก็เมื่อนั้น ไม่เตรียมไม่ได้ และในภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญของพรรค แม้ในการเลือกตั้งปี 62 จะมีอุบัติเหตุทางการเมือง แต่ 2 ปีที่ผ่านมา พรรคสามารถรวบรวม ส.ส. และอดีต ส.ส.เข้ามาร่วมงานกับพรรคได้ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นปึกแผ่น และมั่นใจว่าในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นพรรคจะได้เสียงตอบรับดีขึ้น

‘สุทิน’เชื่อพ.ค.ปีหน้าเริ่มระอุ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กางไทม์ไลน์การแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป) 2 ฉบับ โดยคาดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค.65 และเตือนว่าอาจจะเกิดกระแสกดดันให้ยุบสภา และอาจมีประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีว่า ว่า การจะยุบสภาหรือการจะลาออก บางครั้งก็ไม่ได้สัมพันธ์กับการออกกฎหมาย ถึงแม้เรามีความตั้งใจว่าอยากจะให้สัมพันธ์กัน คือให้กฎหมายจบ เสร็จ แล้วยุบสภาเลือกตั้ง แต่ความเป็นจริงสถานการณ์อาจจะไม่ใช่ เพราะอาจจะลากไม่ถึง เนื่องจากความเสื่อมไม่ได้รอใคร ความขัดแย้งก็ไม่ได้รออะไร

นายวิษณุระบุกฎหมายลูกน่าจะเสร็จในเดือนก.ค.65 ถ้าเป็นอย่างนั้นก็พร้อมเลือกตั้ง เดือนหรือสองเดือนหลังจากนั้นก็เลือกได้แล้ว ซึ่งก็อยู่ที่รัฐบาล แต่ตนคิดว่าเปิดสภาสมัยถัดไป คือช่วงพ.ค.65 จะเริ่มระอุ ถ้ารัฐบาล เอาตัวรอดช่วงนั้นได้ก็ถือว่าเป็นสุดยอดมนุษย์แล้ว เพราะตอนนั้นจะมีทั้งพ.ร.บ.งบประมาณ และฝ่ายค้านสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ด้วย

เมื่อถามว่าประเมินว่ารัฐบาลอยู่ไม่ถึงออกกฎหมายลูกเสร็จใช่หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า คิดว่ารัฐบาลจะไปไม่ไหวตั้งแต่ช่วงเดือนธ.ค.นี้แล้ว ไม่ต้องรอกฎหมายลูก จะลากไปจนถึงเดือนก.ค.65 ได้หรือเปล่า ตนไม่แน่ใจว่าจะลากได้

‘พี่ศรี’จี้ป.ป.ช.-กกต.เอาผิดพท.

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่น คำร้องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบและวินิจฉัยกรณีนายทักษิณ ชินวัตร วิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับ ส.ส.และผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย กลางงานเลี้ยงสังสรรค์ ย่านเหม่งจ๋าย กรุงเทพฯ เมื่อ วันที่ 12 ต.ค.

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การจัดเลี้ยงสังสรรค์ดังกล่าวมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก มีการเสิร์ฟไวน์หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนด ฉบับที่ 34 ที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ประกอบมาตรา 34(6) ของพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งผู้อยู่ในงานเลี้ยงส่วนใหญ่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บางคนเป็นถึงผู้นำฝ่ายค้านแต่กลับกระทำเสียเอง อาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งอยู่ในอำนาจ ป.ป.ช.ที่จะไต่สวน วินิจฉัยและเสนออัยการฟ้องต่อศาลเพื่อลงโทษให้พ้นจากตำแหน่งและตัดสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งได้

การที่ ส.ส.และผู้บริหารพรรคเพื่อไทยมีปฏิสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับนายทักษิณ ถึงขนาดให้วิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยด้วย อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 28 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 เรื่องครอบงำพรรคได้ ส่วนนายทักษิณอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน มาตรา 29 เช่นกัน สมาคมจึงต้องไปร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กกต.วินิจฉัยว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ด้วย เพราะอาจเข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 92(3) ของกฎหมาย ดังกล่าวและกกต.มีหน้าที่ที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคนั้นได้

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ส.ส.และผู้บริหารพรรคเพื่อไทยที่ปรากฏในงานเลี้ยง อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายไชยา พรหมมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ นายนพ ชีวานันท์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี และนายภูมิธรรม เวชยชัย

ศาลรธน.ชี้’ไพบูลย์’ไม่หลุดส.ส.

เมื่อเวลา 15.21 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย กรณีที่ประธานสภาส่งคำร้องให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพส.ส.ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่ จากกรณี นายไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพ ตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) ทั้งที่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอยู่จนกว่าการชำระบัญชีจะแล้วเสร็จ และมิได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นต่อกกต.

นายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยว่า ข้ออ้างของผู้ร้องที่ว่าการเลิกพรรคประชาชนปฏิรูป เป็นการกระทำของนายไพบูลย์ ที่มีเจตนาซ่อนเร้น ไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใดแสดงให้เห็นว่าเป็นไปตามที่กล่าวอ้าง และเมื่อสมาชิกพรรคที่สิ้นสภาพตามมาตรา 91 เพื่อคงการเป็นส.ส.จึงต้องสมัครเข้าพรรคอื่นนับแต่วันที่พรรคนั้นสิ้นสภาพ ซึ่งผู้ถูกร้องสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐวันที่ 9 ก.ย.62 ภายใน 60 วัน ตามกฎหมาย

ข้ออ้างที่ว่าผู้ถูกร้องเป็นหัวหน้าพรรคต้องอยู่ชำระบัญชีจนเสร็จสิ้นตามพ.ร.ป.พรรค การเมือง มาตรา 95 นั้น บทบัญญัติมาตรา ดังกล่าวไม่ห้ามดำเนินกิจกรรมในนามพรรคอื่น

เจ้าตัวจ่อฟ้องกลับ‘เสรีพิศุทธ์’

ส่วนข้ออ้างที่ว่าผู้ถูกร้องไม่ใช่บุคคลที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐ รัฐธรรมนูญมาตรา 90 เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับจัดทำบัญชีรายชื่อในการส่งผู้สมัคร และมาตรา 91 (5) กำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ที่ได้มาซึ่งส.ส.บัญชีรายชื่อ มีวัตถุประสงค์ใช้บังคับระหว่างจัดการเลือกตั้งและประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการเป็นสมาชิกพรรคอื่น รัฐธรรมนูญมาตรา 101(10) ประกอบพ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) และมาตรา 91 วรรคสี่ ที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง

ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากจึงวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพความเป็นส.ส.ของนายไพบูลย์ ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 101 (10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5)

นายไพบูลย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยในข้อกฎหมายที่ชัดเจน ทำให้ตนสบายใจขึ้นจากข้อครหาที่หลายฝ่ายกล่าวหา และขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ความยุติธรรมและความชัดเจนกับสังคม ซึ่งในสัปดาห์หน้า ตนจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญา ข้อหาหมิ่นประมาท กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จากการให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ซึ่งฟังรายละเอียดแล้วพบว่ามีถ้อยคำที่หมิ่นประมาทตน เพราะตนไม่ต้องการให้เกิดการให้ข่าวที่บิดเบือน ใส่ความหรือหมิ่นประมาท ทำให้สังคมเข้าใจผิด ส่วนประเด็นที่จะฟ้องอย่างเป็นทางการนั้นจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และตนจะดำเนินการฟ้องคดีกับบุคคลที่กล่าวหา ใส่ร้าย หมิ่นประมาทในลักษณะเดียวกันด้วย ซึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

‘พิเชษฐ’ขอซบพลังประชารัฐ

ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธรรมไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของพรรคประชาธรรมไทย ได้มีมติของกกต. เมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 ว่า มีมติยุบพรรคแล้วเรียบร้อย ซึ่งเรื่องได้ถูกส่งมายังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทำให้ตนต้องไปหาพรรคสังกัดภายใน 60 วัน ซึ่งขณะนี้เกินระยะเวลาที่กำหนดแล้ว แต่จากการตรวจสอบไปยังกกต. ทราบว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 18 พ.ย.นี้ หากตนจะย้ายพรรคสามารถทำได้หลังวันที่ 18 พ.ย.ไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีนายไพบูลย์ ถือเป็นประโยชน์ต่อพรรคเล็กหรือไม่ นายพิเชษฐกล่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกสบายใจหลังจากได้ฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นประโยชน์ เพราะหากรัฐธรรมนูญที่แก้ไขไปแล้วมีผลบังคับใช้ รวมถึงกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง ที่จะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้า จะมีส.ส.เขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน และดูแนวโน้มว่าขั้นต่ำของบัญชีรายชื่อหากคิด 1% จะต้องได้ 3.5-3.8 แสนคะแนน ถามว่าพรรคเล็กจะอยู่อย่างไร จึงเป็นแนวทางที่พรรคเล็กคงนำมาใช้ตัดสินใจ

“ผมได้พูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่เขาดูแลพรรคเล็กมาตลอด ได้ส่งสัญญาณว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าเราไม่ทิ้งกัน เพราะดูแลร่วมรัฐบาลกันมา ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็บอกมา ถ้าคิดว่าจะมาอยู่ด้วยก็ยินดีต้อนรับ ผมก็ตอบไปว่าสนใจ ซึ่งหลังวันที่ 18 พ.ย.นี้ ผมจะไปทำเรื่องสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ” นายพิเชษฐกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลเสียงเดียวมี 9 พรรค ได้แก่ พรรคพลังชาติไทย พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคประชานิยม พรรคประชาธรรมไทย พรรคพลเมืองไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคพลังธรรมใหม่

‘สมชัย’ชี้เป็นบรรทัดฐานใหม่

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. โพสต์ เฟซบุ๊กเกี่ยวกับมติศาลรัฐธรรมนูญว่า ถูกหลักนิติ แต่พังพินาศทางรัฐศาสตร์ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นคำวินิจฉัยที่ตรงไปตรงมาทางข้อกฎหมาย เพราะ 1.หากกรรมการบริหารพรรคอยากจะมีมติยุบพรรค เพราะเขาไม่อยากบริหารต่อก็ย่อมทำได้ 2.เมื่อสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่เป็น ส.ส. เมื่อพรรคถูกยุบ เขาก็มีสิทธิหาพรรคใหม่อยู่เพื่อคงสภาพเป็น ส.ส. เขาหาได้ใน 3 วันก็ไม่แปลก เพราะกฎหมายให้เวลาถึง 60 วัน

ตีความทุกอย่างตรงตามข้อกฎหมาย ไม่มีสิ่งใดผิดเพี้ยน แต่ในทางรัฐศาสตร์ ประตูแห่งเล่ห์กลของการหลีกเลี่ยงกฎหมาย ที่ห้ามควบรวมพรรคในระหว่างอายุของสภาผู้แทนราษฎรได้ถูกเปิดโดยศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จากนี้ พรรคใหญ่สามารถควบรวมพรรคเล็ก โดยใช้มติกรรมการบริหารพรรคเล็ก ส่วนพรรคเล็กจะมาด้วยเสน่หา หรือ อามิสสินจ้างนั้นไม่ทราบ แต่นี่คือทางออกใหม่ที่สวยงาม ไม่ต้องลงมติไล่ แถมยังไปได้เป็นกลุ่มก้อน เป็นบรรทัดฐานใหม่อีกเรื่องสำหรับการเมืองไทย

‘สุเนตตา แซ่โก๊ะ’ขยับนั่งส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎร ได้ประกาศให้ว่า เนื่องจากน.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ น.ส.เพชรชมพู สิ้นสุดลง ตามมาตรา 101(8) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105(2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมพลังประชาชาติไทยเลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อแทน คือนางสุเนตตา แซ่โก๊ะ

นัดชี้ชะตาสมาชิกภาพ 5 ส.ส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณากรณีกกต.ให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าสมาชิกสภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ โดยกกต.ให้วินิจฉัย นายชุมพล จุลใส นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ นายอิสสระ สมชัย นายถาวร เสนเนียม และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้ถูกร้อง เนื่องจากความปรากฏต่อกกต.ว่าวันที่ 24 ก.พ.64 ศาลอาญามีคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.317/2564 ลงโทษจำคุกผู้ถูกร้องทั้ง 5 และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายชุมพล นายอิสสระ และนาย ณัฏฐพล กำหนด 5 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษา ซึ่งผู้ถูกร้องทั้ง 5 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องเฉพาะที่ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพส.ส.ของทั้ง 5 และมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย โดยนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 8 ธ.ค.64 เวลา 15.00 น.

‘ส.ส.เต้’ถูกตร.บุรีรัมย์ออกหมายจับ

วันเดียวกัน พ.ต.ท.ไชยา สระโสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ขออนุมัติศาลแขวงบุรีรัมย์ เลขที่ จ.321/2564 ลงวันที่ 20 ต.ค.64 เพื่อออกหมายจับ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์

โดยกระทำความผิดฐาน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความ เสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หมิ่นประมาทโดย การโฆษณา

นายมงคลกิตติ์ เผยว่า การออกหมายจับ ดังกล่าว เนื่องมาจากวิจารณ์นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กรณีโควิด-19

ศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก‘สนธิญาณ’

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีกบฏ กปปส.สำนวนแรก หมายเลขดำ อ.1191/2557, อ.1298/2557, อ.1328/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 59 ปี แกนนำ กปปส., นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 44 ปี อดีต ส.ส.กทม.ร่วมชุมนุม, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 70 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ (นิด้า) อดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.) และนายเสรี วงษ์มณฑา อายุ 72 ปี นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐาน 8 ข้อหา อาทิ ร่วมกันเป็นกบฏ, อั้งยี่ ,ซ่องโจร ,ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 209, 210, 215, 362, 364, 365 และร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง, ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติงานของ กกต. ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มา ซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76 ,152

โดยคดีสำนวนแรกนี้ อัยการยื่นฟ้อง ตั้งแต่ปี 57 กรณีสืบเนื่องจากการร่วมชุมนุมกันของ กปปส.ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระหว่างวันที่ 23 พ.ย.56-1 พ.ค.57 ระหว่างพิจารณาคดีจำเลยทั้งสี่ได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่งคดีเริ่มสืบพยานตั้งแต่ปี 58-62 และศาล ชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 พิพากษายกฟ้อง

วันนี้ จำเลยทั้งสี่เดินทางมาศาลพร้อมด้วยเเกนนำ กปปส.หลายคน เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. นายถาวร เสนเนียม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

โดยศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องจำเลยที่ 2-4 และพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76, 152 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำคุก 1 ปี ทางนำสืบของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสามคงจำคุก 8 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งศาลให้ประกันตัวนายสนธิญาณ ตีราคา 6 เเสนบาท วงเงินไม่กำหนดเงื่อนไข

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน