ฟ้ารั่ว10ชม.-รถติดวินาศ โรงเรียนประกาศปิดวุ่น นนท์ก็หนัก-จมทั่วเมือง 14จว.อ่วมน้ำป่า-ดินถล่ม พิษมรสุมยาวถึง23พค.

‘พระพิรุณ’จัดหนักรับเปิดเทอม ถล่ม 10 ชั่วโมงรวด กรุงเทพฯ-ปริมณฑลจมบาดาล รถลุยน้ำจอดพังเกลื่อน จราจร อัมพาต โรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศหยุดเรียนด่วน อุตุฯ เตือนวันนี้โดนอีก 70% ของพื้นที่ ฝนหนักยัน 23 พ.ค. ปภ.รายงานอ่วมพายุแล้ว 14 จว. ‘บิ๊กเด่น’ สั่งตร.ทั่วปท. ดูแลช่วยเหลือประชาชน

อุตุฯ เตือนฝนหนักยัน 23 พค.
วันที่ 18 พ.ค. น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ‘ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ ฉบับที่ 1 ระบุว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงปกคลุมประเทศไทย ทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวมะตะบันเคลื่อนผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 20-23 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

คนกรุงทำใจฝนฉ่ำแน่
ต่อมาเวลา 18.00 น. กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ (18 พ.ค.) ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักกับลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักกับลมกระโชกแรงบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และกระบี่ ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง

ปภ.รายงาน 14 จว.อ่วมฝน
วันเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ส่งผลให้ระหว่างวันที่ 14-18 พ.ค.เกิดวาตภัยในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร สุโขทัย นครนายก ขอนแก่น ชัยภูมิ อำนาจเจริญ อุดรธานี สุรินทร์ และตราด รวม 24 อำเภอ 47 ตำบล 78 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 252 หลัง ผู้บาดเจ็บ 1 ราย (ชัยภูมิ) ไม่มีผู้เสียชีวิต

นนท์จมหลายจุด
สถานการณ์น้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ จ.นนทบุรี หลังฝนตกหนักมาตลอดคืนที่ผ่านมา ถนนเส้นทางลัดหลายสายน้ำท่วมขังระบายออกไม่ทันส่งผลให้โรงเรียนบางแห่งต้องประกาศหยุดเรียน โดยบริเวณถนนสามัคคี ต.ท่าทราย อเมืองนนทบุรี หน้าทางเข้าหมู่บ้านประชานิเวศน์ 2 ระยะ 3 และหมู่บ้านประชาชื่น รวมไปถึงถนนหน้าร.ร.เบญจมราชานุสรณ์ น้ำท่วมสูง รถเล็กสัญจรลำบาก ร.ร.เบญจมราชานุสรณ์ โรงเรียนในชั้นระดับมัธยมศึกษา และร.ร.เล็กโกเมศอนุสรณ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนชั้นประถมศึกษา ต้องประกาศแจ้งหยุดการเรียนชั่วคราวผ่านทางไลน์กลุ่มผู้ปกครอง เนื่องจากถนนหน้าโรงเรียนและพื้นที่ในโรงเรียนบางส่วนถูกน้ำท่วมขัง การจราจรติดขัดทำให้ทั้งทางโรงเรียนและ ผู้ปกครองประสบปัญหาในการเดินทาง

ท่วมกรุง – สภาพถนนและชุมชนภายในซอยรามอินทรา 5 เขตบางเขน กทม. ถูกน้ำท่วมขังระดับสูง หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ตอนกลางคืน ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก เมื่อวันที่ 18 พ.ค.

16ถนนกรุงจมบาดาล
ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (07.00 น.) มีฝนตกหนักมาก โดยปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัดซ.สะพานขวา เขตบางซื่อ 136 มิลลิเมตร (ม.ม.) รองลงมาที่จุดวัดสถานีสูบน้ำคลองตาอูฐ เขตหลักสี่ 125 ม.ม. จุดวัดบ่อสูบศาลอาญารัชดา เขตจตุจักร 122.5 จุดวัดสถานีสูบน้ำคลองสามเสน เขตดุสิต 118.5 จุดวัดสำนักงานเขตบางนา 117.5 ม.ม. ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง บนถนนสายหลัก ที่สำนักการระบายน้ำ รับผิดชอบ จำนวน 16 จุด

ได้แก่ 1. แยกเทียมร่วมมิตร ถ.รัชดาภิเษก เขตดินแดง 2.ซ.อินทรามระ 53 ถ.ประชาสุข เขตดินแดง 3.หน้าโลตัส ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ 4.หน้า มทบ. ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ 5.หน้าตชด.-แยกสะพานควาย ถ.พหลโยธิน เขตพญาไท 6.ช่วงลงทางด่วน ถ.พระราม 6 เขตพญาไท 7.ซ.อิสรภาพ 44-ตลาดพรานนก ถ.อิสรภาพ เขตบางกอกน้อย 8.ปากซ.สุขุมวิท 39 ถ.สุขุมวิท เขตวัฒนา 9.หน้าวังสวนผักกาด ถ.ศรีอยุธยา เขตราชเทวี 10.แยกประชาชื่น-แยกบางโพ ถ.ประชาราษฎร์สาย 2 เขตบางซื่อ

11.ซ.ประดิพัทธ์ 21-แยกสะพานควาย ถ.ประดิพัทธ์ เขตพญาไท 12.หน้ารัฐสภาใหม่ ถ.สามเสน เขตดุสิต 13.แยกบางกระบือ-ไฟฟ้าสามเสน ถ.สามเสน เขตดุสิต 14.หน้ากรมปศุสัตว์ ถ.พญาไท เขตราชเทวี 15.สะพานกรุงธน ถ.ราชวิถี เขตดุสิต และ 16. แยกรัชโยธิน-แยกลาดพร้าว ถ.รัชดาภิเษก เขตจตุจักร โดยน้ำท่วมขังมีความสูงตั้งแต่ 5-30 เซนติเมตร ยาวตั้งแต่ 100-1,500 เมตร กินพื้นผิวจราจร ตั้งแต่ 1 เลนถึงเต็มผิวจราจร ปัจจุบันน้ำแห้งเป็นปกติ

ฝนถล่ม10ชม.
นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 17 พ.ค. จนถึงเวลา 02.00 น.ของวันนี้ (18 พ.ค.) รวมเวลาฝนตกหนักประมาณ 10 ชั่วโมง ทำให้บริเวณกรุงเทพฯ โซนเหนือ ในเขตจตุจักร หลักสี่ ดอนเมือง ลาดพร้าว และบางซื่อ ได้รับผลกระทบมากที่สุดทำให้มีน้ำท่วมขังหลายจุด ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้ามืดของวันนี้

ล่าสุดน้ำบนถนนสายหลักเริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว แต่อาจจะมีบางช่วงบนถนนที่ยังมีน้ำขังอยู่บ้าง แต่เป็นเพียงระยะทางสั้นๆ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการจราจรในบางจุด เช่น บริเวณแยกรัชโยธิน แยกรัชดาภิเษก-ลาดพร้าว เป็นต้น ขณะที่บนถนนสายรอง และตรอก ซอย ต่างๆ ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขต จัดเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ฝนที่ตกหนักปกคลุมทั่วทุกพื้นที่และตกเป็นเวลานานเกือบ 10 ชั่วโมง ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำในบางจุดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้หลายๆ โครงการจะแล้วเสร็จจะช่วยบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมขังได้

สั่งตร.ทั่วปท.ดูแลชาวบ้าน
วันเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เผยว่า มีหนังสือสั่งการไปยังตำรวจทั่วประเทศ กำชับการปฏิบัติด้านการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และความปลอดภัยของประชาชน หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเส้นทางสัญจรในพื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบกับขณะนี้มีการเปิดภาคเรียนแล้ว ปริมาณรถและการจราจรจึงเพิ่มมากขึ้นกว่าในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้มีนักเรียนและประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ ตำรวจต้องปรับแผนรองรับหลายเส้นทาง โดยอยู่ระหว่างสรุปผลว่า มีเส้นทางใดได้รับผลกระทบบ้าง ทั้งเส้นทางที่มีปัญหาจากการก่อสร้าง เส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง และเส้นทางที่มีโรงเรียนจำนวนมาก พร้อมปรับแผนรองรับ หากมีฝนตกลงมาอีก

โคลนถล่ม – เจ้าหน้าที่หลายหน่วยเข้าช่วยเหลือชาวบ้านแม่อ้อใน หมู่ที่ 8 ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เกือบ 200 หลังคาเรือน ถูกน้ำป่าและโคลนจากภูเขาไหลถล่มหลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.

เชียงใหม่ดินสไลด์บ้านพังยับ
นายยุทธพงศ์ ไชยศร นายอำเภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งจากนายวรวิทย์ จิตอารีย์ กำนันตำบลสบเตี๊ยะ อ.จอมทอง ว่า เกิดเหตุบ้านในหมู่บ้านเชิงดอย ม.3 ต.สบเตี๊ยะ ถล่มได้รับความเสียหายไปหลายหลังคาเรือน สืบเนื่องจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 2-3 วัน ทำให้ดินชุ่มน้ำส่งผลให้กำแพงกั้นพนังดินทรุดตัวเกิดพังทลายดินสไลด์ ล่าสุดนายอำเภอและนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสบเตี๊ยะเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

ขณะที่ อ.เชียงดาว เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ในพื้นที่บ้านแม่อ้อใน ม.8 ต.แม่นะ ประมาณ 185 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีบ้านเรือนหรือทรัพย์สินสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหาย แต่เดือดร้อนจากดินโคลนเข้าบ้านเรือนและเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย ล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงและเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เจ้าหน้าที่อปท.และฝ่ายปกครองเร่งสำรวจความเสียหายแล้ว

ด้านสำนักงานชลประทานที่ 1 เผยว่า ปริมาณน้ำในลำน้ำทั้ง 9 สาขาของ จ.เชียงใหม่ และปริมาณฝนตกสะสมตั้งแต่ช่วงต้นปี มีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้มีการวางแผนรับมือกรณีฉุกเฉินหากเกิดฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงเป็นจำนวนมากจนอาจล้นทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เสริมพนังกั้นน้ำบริเวณสองฝั่งแม่น้ำปิง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เร่งระบายน้ำได้ทันทีหากเกิดเหตุวิกฤต นอกจากนี้แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ตรวจสอบระบบระบายน้ำตามทางลอดต่างๆ ไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังในช่วงที่เกิดฝนตกหนักอีกด้วย

ด่านเกวียนยังจม
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ที่เกิดฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ม.3 และม.10 ในเขตเทศบาลตำบลด่านเกวียนตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา บ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 100 หลังคาเรือน และน้ำยังท่วมตลาดเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ทำให้สินค้าเครื่องปั้นดินเผาจมน้ำและแตกหัก ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดในพื้นที่ ม.10 บ้านเรือนได้รับความเดือดร้อนกว่า 50 หลังคาเรือน โดยเฉพาะบ้านที่ประกอบอาชีพทำเครื่องปั้นดินเผากว่า 20 หลังคาเรือนเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมเตาเผาที่กำลังเผาเครื่องปั้นดินเผาเพื่อส่งขายออกต่างประเทศ ทำให้เตาเผาพังและเครื่องปั้นดินเผาที่ยังเผาไม่เสร็จถูกน้ำซึมเข้าแตกเสียหายเป็นจำนวนมาก สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว โดยเทศบาลตำบลด่านเกวียนอยู่ระหว่างสำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาความเดือดร้อนต่อไป

ขณะเดียวกัน ชาวนาในพื้นที่ ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ นำรถไถนามาติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งสูบน้ำออกจากแปลงนาตลอดทั้งวันทั้งคืน หลังจากฝนตกต่อเนื่องนานหลายวันติดต่อกันแปลงนาในพื้นที่ลุ่มถูกน้ำท่วมขัง เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่หว่านไว้เมื่อหลายวันก่อนจมแช่อยู่แปลงนา ชาวนาจำเป็นต้องเร่งสูบน้ำออกอย่างเร่งด่วนที่สุด เผื่อเหลือเมล็ดพันธุ์ที่ยังพองอกออกมาบ้าง และหากเมล็ดพันธุ์เน่าแล้วต้องหามาหว่านใหม่เพื่อหวังจะได้ทุนที่ลงไปแล้วกลับคืนมาบ้าง ขณะที่บางรายเริ่มท้อใจกับการทำนาปีนี้ ทั้งต้นทุนที่สูงและสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ บางรายเริ่มถอดใจไม่รู้ว่าจะสู้ต่อหรือไม่สู้ต่อ เพราะหากลงทุนอีกรอบที่สองแล้วยังเป็นแบบนี้อยู่คงต้องยอมถอยดีกว่าจะเอาเงินมาจมไว้ตรงนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน