เศรษฐกิจ - แก๊งลวงใช้บัตรปชช.ซื้อมือถือระบาด เอไอเอสเตือนขายต่อ-ไม่ใช้หนี้ถึงคุก-แบล็กลิสต์

แก๊งลวงใช้บัตรปชช.ซื้อมือถือระบาด – เอไอเอสเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพหลอกใช้บัตรประชาชนซื้อมือถือแล้วนำไปขายต่อ เสี่ยงโดนข้อหาฉ้อโกง รับโทษขั้นสูงสุดถึงคุก ขณะที่ผู้ซื้อเครื่องต่อเข้าข่ายรับซื้อของโจร ติดแบล็กลิสต์

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ประกาศเตือนภัยขบวนการหลอกลวงด้วยการว่าจ้างให้เหยื่อใช้บัตรประชาชนซื้อเครื่องโทรศัพท์พร้อมแพ็กเกจในราคาพิเศษจากค่ายมือถือ ซึ่งในเงื่อนไขจะต้องเปิดเบอร์และใช้งานกับเครื่องที่ซื้อมา พร้อมชำระเงินต่อเนื่องตามระยะเวลาที่กำหนด แต่เหยื่อกลับเอาเครื่องไปให้คนร้ายขายต่อแลกกับค่าตอบแทนโดยไม่ชำระค่าบริการ ท้ายที่สุดคนร้ายปล่อยให้เหยื่อถูกฟ้องร้องจากบริษัทเพราะผิดสัญญา ส่วนผู้ที่ซื้อเครื่องต่อจากคนร้ายก็สุ่มเสี่ยงเข้าข่ายรับซื้อของโจรด้วย

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์เอไอเอส กล่าวว่า ปัจจุบันเกิดอาชญากรรมดังกรณีข้างต้นเป็นจำนวนมาก โดยพบว่ามีทั้งกลุ่มที่โดนหลอกลวง และกลุ่มที่จงใจใช้บัตรประชาชนซื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือพร้อมแพ็กเกจ จากนั้นนำเครื่องโทรศัพท์ไปแยกขายต่อโดยไม่ชำระค่าบริการตามเงื่อนไขในสัญญา ซึ่งบริษัทกังวลถึงผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในภาพรวม เพราะปริมาณของประชาชนที่ถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความเสี่ยงของผู้ที่ซื้อเครื่องต่อโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เข้าข่ายรับซื้อของโจรด้วย

นางสายชลระบุว่า ขอเตือนผู้ที่อาจหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของการกระทำ หรือจงใจกระทำการดังกล่าวข้างต้นว่า การก่อเหตุในลักษณะนี้เจ้าของบัตรประชาชนที่ทำสัญญาซื้อเครื่องโทรศัพท์พร้อมแพ็กเกจจะมีความผิด โดยมีบทลงโทษฐานฉ้อโกง มาตรา 341 โทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ รวมไปถึงการมีชื่อติดแบล็กลิสต์ในระบบ ส่งผลให้ในอนาคตจะมีปัญหาในการทำธุรกรรมกับค่ายมือถือ ปัจจุบันมีระบบตรวจสอบอย่างเข้มข้น อีกทั้งในส่วนของผู้ที่รับซื้อเครื่องต่อไปจะเข้าข่ายความผิดฐานรับของโจรมาตรา 357 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“บริษัทจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นสูงสุดกับผู้กระทำผิดทุกรายไม่มีข้อยกเว้น เน้นย้ำอย่าหลงเชื่อ และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลไปดำเนินการอย่างไม่ถูกต้อง อีกทั้งท่านที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือก็ขอให้ตรวจสอบ แหล่งที่มาให้ดี เพราะอาจมีความเสี่ยงทั้งคุณภาพของสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับประกันและผิดกฎหมาย อีกด้วย”