คอลัมน์ อาทิตย์ใส

‘กระทิง’น้อมรับโอกาสตั้งเป้าอยากเป็นนักแสดงที่ดี – ได้รับโอกาสเป็นพระเอกเดี่ยวเต็มตัวเรื่องแรกในละคร “เทพธิดาปลาร้า” ทางช่อง 3 สำหรับพระเอกหนุ่ม ‘กระทิง’ ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์

โดยรับบท ‘มหัศจรรย์’ จับคู่นางเอกสาว ‘ชิปปี้’ ศิรินทร์ ปรีดียานนท์ ต้องบุกน้ำ ลุยโคลน ไถนา ขี่ควาย ขับอีแต๋น พายเรือ เรียกว่าได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ท้าทายฝีมือ

ในละคร “เทพธิดาปลาร้า” ถือว่าได้รับบทพระเอกเรื่องที่เท่าไหร่?

กระทิง – “เรื่องที่ 2 ครับ แต่เรื่องนี้เป็นพระเอกเต็มตัวเลย เรื่องแรก ลิขิตแห่งจันทร์ แต่มีพระเอก 2 คน กับพี่เพื่อน คณิน แต่ พาร์ตนั้นจะไม่เยอะมาก เรื่องนี้เรียกว่าเป็นพระเอกเต็มตัว ดีใจครับ เป็นเรื่องแรกที่ได้รับบทหนัก แล้วก็กดดันไปในตัวด้วย แต่ก็โอเคครับ เราก็แอ๊กทีฟตัวเองไปเรื่อยๆ ว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการงานของผม”

เรื่องนี้คาแร็กเตอร์เป็นอย่างไร?

กระทิง – “ในเรื่องผมรับบท มหัศจรรย์ ลูกส.ส. ที่ติดหรู โดยพ่อจะเป็นส.ส. ที่ดีมาก รักประชาชน เรื่องเกิดใน จ.นครพนม เป็นหมู่บ้านบ้านนอก พ่อจะชอบที่นั่นมาก ดูแลทุกคนเท่ากัน ส่วนเราจะเป็นคนที่ถูกแม่ สปอยล์ มองชาวบ้านคนละชั้น จนวันหนึ่งพ่อให้ไปเรียนวิชาพชม. พัฒนาชีวิตมนุษย์ เพราะอยากให้เราสานต่อ แต่เราไม่ชอบ ไม่อยากเป็น พ่อเลยมีข้อแลกเปลี่ยน ถ้าผมไปเรียนพ่อจะยกที่ดินซอยทองหล่อให้เป็นเรือนหอ นี่เป็นเป้าหมายตัวละครตัวนี้เลย เพื่อจะได้ที่ดิน ซอยทองหล่อมาครอง ขอผู้หญิงแต่งงานเลยตกลงไป แต่ตอนที่ไปเจอนางเอกก็ไม่ถูกกันแล้ว แล้วเราต้องไปอยู่บ้านเขา ด้วยเป็นลูกส.ส. เลยบอกเขามาเป็นคนรับใช้ ระหว่างฝึกวิชาอยู่ที่นี่ก็คิดจะแกล้งเขา แต่ไม่ทันเพราะมันถิ่นเขา เขาเลยแกล้งเราแทน จนได้มาสัมผัสว่าที่ตรงนี้มันก็มีความสุขเหมือนกัน จริงๆ ที่เราเคยอยู่มันคือปัจจัยภายนอก คือคนที่นี่เขามีแค่นี้ก็มีความสุขได้ มีความสุขมากกว่าเรา ซะอีก เราเลยเริ่มเข้าใจความเป็นชีวิตขึ้นมา เริ่มออกจากคอมฟอร์ตโซน เขตปลอดภัยที่แม่ทำไว้ให้ได้มา เรียนรู้โลก เข้าใจคนมากขึ้น เริ่มเห็นใจคนมากขึ้น เริ่มมองคนด้วย ตัวตนเขาจริงๆ ไม่ใช่ตัดสินว่านี่คนจน คนรวย มันก็เป็นการพัฒนาตัวละคร เป็นอีกตัวละครที่ผมชอบ”

ศึกษาคาแร็กเตอร์ยังไงบ้าง?

กระทิง – “ผมศึกษาเหตุผลมากกว่าครับ ว่าทำไมมันถึงคิดแบบนี้ทำแบบนี้ เหตุผลเพราะอะไร เช่น ทำไมต้องเกลียดคนอีกที่นึงที่ต่างจากเขา เหมือนเขามีวัตถุนิยม ชอบคนรวย ชอบคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน เหมือนโดนเลี้ยงมาให้อยู่กับคนสถานะเท่ากัน พอมันคิด แบบนี้ได้ก็ไปเล่นดูแล้ว อย่าง ใบหม่อน ที่พี่ชิปปี้แสดงก็จะคิดอีก แบบหนึ่ง จนผมต้องไปเรียนรู้แล้วเราก็เริ่มเข้าใจเขา มันก็สนุกดีครับ”

ได้ร่วมงานกับ ‘ชิปปี้’ เป็นอย่างไร?

กระทิง – “สนุกครับ พี่ชิปปี้เป็นคนเข้าหาง่าย คือปกติผมจะชอบอาย พี่ชิป จะออกแนวแมนๆ เหมือนเพื่อนผู้ชาย คุยกันง่ายทำให้สนิทกับเขาเร็ว พี่เขาน่ารัก เป็นสายลุย เราทำงานกับเขาเราแฮปปี้ คุยภาษาเดียวกันทำงานด้วยกันสนุกดีครับ พี่ชิปปี้เอ็นเนอร์จี้เยอะ”

อย่างนี้เลิฟซีนก็สบายสิ?

กระทิง – “เลิฟซีนก็ไม่ยากนะ เป็นแนวกุ๊กกิ๊กมากกว่า เป็นรักที่แบบว่า…ฟีลกู๊ด อยู่ด้วยกัน มองกันด้วยความจริงใจ ส่วนใหญ่ ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะเลยจะ ไม่ค่อยมีฟีลจิ้นๆ ครับ เป็บฟีลช่วยเหลือกัน ซึ่งเรื่องนี้หลักๆ ปักหลักถ่ายทำที่ จังหวัดนครพนม มีหลายที่ครับ มีที่ปทุมธานีบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นนาหมดเลยครับต้องลุยน้ำ ลงเรือ ลงนาจริงๆเหนื่อยแต่ก็สนุกดี เป็นอะไรที่ผมไม่ได้ถ่ายละครก็คงไม่ได้ทำ”

มีอะไรบ้างที่ไม่เคยทำแล้วได้มาทำใน เรื่องนี้?

กระทิง – “โห…ทุกอย่างครับ ทั้ง ขี่ควาย ขี่อีแต๋น ขี่รถสกายแล็บที่ เป็นสามล้อ เยอะครับว่ายน้ำในบึงบัว พายเรือ พายแบบจริงจังไปเก็บดอกบัว คือเป็นสิ่งที่ถ้าเราไม่ได้ถ่ายละครก็คง ไม่ทำ ดำนา ไถนาแบบใช้ควาย คือแบบ หายาก คงไม่ได้ทำแล้วอะ ซึ่งมันก็เกือบจะมีอุบัติเหตุแต่ทีมงานเซฟดีครับ คือมันมีเหตุการณ์ที่ควายร้อน เขาจะลงน้ำ แล้วช่วงเวลาควายเดินมันไม่ได้เหมือนม้า เขาจะเดินเอียงซึ่งในน้ำมันเป็นตอไม้ ถ้าเขาลงดิ่งคือเราพุ่งแน่นอน แต่ก็เป็นความสนุกไปครับ”

แอ๊กติ้งมีอุปสรรคบ้างไหม?

กระทิง – “ก็จะมีที่ความเป็นเด็กบ้างครับ ทิงจะติดมู้ดเด็ก เขาก็จะคอยบอกว่าต้องทำให้ดูโตขึ้นนะ มองคนแบบเหยียดหยามเขาหน่อย แต่บางทีแววตาทิงจะดูซื่อไปหน่อย เขาก็จะมีติเรื่องพวกนี้ครับ เราก็ต้องเข้าใจเหตุผลตัวละครมากขึ้นว่าทำไมเขาถึงมองคนแบบนี้”

ดีใจไหมที่ผู้ใหญ่เริ่มผลักดันให้มาเป็นพระเอกเต็มตัวแล้ว?

กระทิง – “ดีใจครับ เห็นว่าเป็นโอกาสของผมในการพัฒนางานด้านอาชีพ ผมก็พยายามพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด พัฒนาไปเรื่อยๆ ครับ กับกระแสเรื่องนี้ผมรู้สึกว่าคนอีสานดูเยอะ ผมก็จะได้แฟนคลับอีกแบบหนึ่งที่เขายังไม่เคยเห็นผม หรือว่าเขาอาจจะไม่ถูกใจผมใน คาแร็กเตอร์อีกอันหนึ่ง แต่ถ้าเขามาเจอตัวละครตัวนี้แล้วชอบตรงนี้ ก็เป็นกำลังใจของผมอีกทางหนึ่งส่วนความคาดหวัง ผมคาดหวังกับตัวเองว่าอยากทำให้เต็มที่ออกมาให้ดีที่สุดครับ จะได้ไม่เสียดายโอกาสที่เราตั้งใจว่าจะเล่นให้มันดีที่สุดในแบบของเรา ออกมาจะได้ไม่ต้องมาเสียดาย ซึ่งกับเรื่องนี้ก็ทำให้ผมพัฒนาตัวเองข้ามไปอีกขั้นครับ ยังไงก็ขอฝากละคร ‘เทพธิดาปลาร้า’ ด้วยนะครับ และก็อีกเรื่อง ‘พิภพหิมพานต์’ ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ แล้วก็มีเรื่อง ‘พราวมุก’ น่าจะได้ดูกลางปี ส่วนละครที่ถ่ายทำอยู่ก็มี ‘แค้นรักสลับชะตา’ ฝากละครด้วยครับ ผมจะพัฒนาไปเรื่อยๆ นะครับ”

ตอนนี้อายุ 24 ปี เรียนจบมา 2 ปี มีแพลนชีวิตยังไงบ้าง?

กระทิง – “ทำงาน พัฒนาอาชีพนักแสดงนี่แหละครับ (ยิ้ม) ตั้งใจไว้ว่านี่แหละอาชีพที่ผมทำแล้วมีความสุข ผมก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ จะพัฒนาเรื่อยๆ จนกว่าผมจะไม่ได้ทำแล้วครับ ผมตั้งเป้าไว้แค่นี้ว่าอยากเป็นนักแสดงที่ดี ซึ่งบทที่ได้รับผมไม่เกี่ยงว่าจะเป็นบทอะไร ถ้าเป็นบทที่ผมถูกใจนะ ได้หมด ถ้าผมอ่านแล้วผมชอบผมอยากเล่นก็ได้ครับ”

เรามีใครเป็นไอดอล บ้าง?

กระทิง – “มี พี่แบร์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ครับ สุดแล้วคนนี้”

การงานก็ไปได้ดี สำหรับตอนนี้มีแพลนเรียนต่อไหม?

กระทิง – “มีเรียนร้องเพลง การออกเสียง ไม่ได้เรียนเพื่อจะมาเป็นนักร้อง แต่เพื่อช่วยพัฒนาการแสดงของผม เพื่อเสียงครับ เรียนการแสดงก็อยากเรียนเพิ่มอยู่ แต่หาเวลาอยู่ครับ แล้วก็อยากเล่นกีตาร์ด้วย คืออยากทำอะไรแบบมีสกิลใหม่ๆให้ตัวเองทุกปี ตั้งเป้าไว้ครับ ส่วนเป้าหมายการเรียนอื่นๆ ปีนี้ยังไม่มี มีแค่นี้ครับ”

นอกเหนือจากนี้ มีแพลนอื่นๆ ในชีวิตไหม ที่อยากจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ?

กระทิง – “ที่ผมอยากทำตอนนี้อยากดูโอลิมปิกสักครั้งหนึ่งในชีวิตครับ แล้วก็ไปแอฟริกา อยากดูสัตว์ เป็นคนชอบดูสารคดี เลยอยากไปดูจริงๆ ว่ามันสนุกไหม คือผมชอบผมก็อยู่กับพวกนี้ได้นาน ดูเพลินเลยครับเลยอยากไปดูที่แอฟริกา ตั้งเป้าไว้คืออยากไปเที่ยวเปิดโลกให้ตัวเองครับ”

ขอถามเรื่องความรักกับแฟนสาว ‘กระปุก’ พัชรา ทับทอง ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

กระทิง – “ดีครับ แฮปปี้ดีทุกอย่าง 5-6 ปีแล้วครับ ซึ่งช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาก็มีไปกินข้าวด้วยกันมา จริงๆ ไปกินกันก่อนวันวาเลนไทน์ เพราะวันวาเลนไทน์มีงานถ่ายละครกันทั้งคู่ เลยแพลนว่างั้นเราไปกินกันก่อนวันวาเลนไทน์หนึ่งวันก็ได้ ในเมื่อว่าง ตรงกัน ไม่จำเป็นต้องวันวาเลนไทน์”

หวานกว่าปีที่ผ่านมาเป็นพิเศษไหม?

กระทิง – “พิเศษขึ้นนะครับ รู้สึกว่าให้คุณค่ากับเวลามากขึ้น ปกติเราก็คิดว่ามันเป็นวันธรรมดา แต่พอเราไม่ค่อยได้เจอกัน เหมือนเราทั้งคู่ทำงานกันเยอะๆ เขาก็รู้สึกว่าเราควรทำอะไรที่มันแบบว่าให้รางวัลตัวเอง ทำให้เราสองคนสร้างสรรค์พิเศษขึ้นมา ถ้าเราไม่ทำอะไรมันก็เป็นวันธรรมดา ถ้าเราอยากให้มันเป็นวันพิเศษก็ต้องทำให้มันพิเศษ ก็ดีครับ”

เตรียมของขวัญอะไรให้เขาเป็นพิเศษไหม หรือว่าเขามอบของขวัญอะไรให้เรา?

กระทิง – “มีครับ ก็ซื้อของขวัญให้กันครับเป็นดอกไม้ พาไปกินข้าว แต่ของขวัญที่ให้เขาขออุบไว้ ไม่บอก ส่วนเขาให้ของขวัญเป็นสร้อยครับ ไม่มีสลักชื่อ (หัวเราะ) เป็นสร้อยแฟชั่นธรรมดา เขาเห็นว่าผมชอบใส่สร้อยก็เลยซื้อสร้อยให้ครับ ก็ถูกใจครับ”

มีข้อความบอกรักหรือเปล่า?

กระทิง – “มีครับ ปกติ (ยิ้มเขิน)”

ช่วงนี้เจอกันบ่อยไหม?

กระทิง – “บ่อยครับ ว่างตรงกันเขาก็ไป ดูผมเล่นบาสฯ บ้าง ไปกินข้าวกัน กับคนนี้ คุยกันเข้าใจครับ เหมือนคุยกันรู้เรื่อง เราก็เลยรู้สึกโอเค แฮปปี้ดีทุกอย่าง คบมา 5 ปีแล้ว คนนี้นานที่สุดแล้วครับ (หัวเราะ)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน