อย่าซ้ำเติมประชาชน – การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุด ที่ประชุมหารือถึงการจัดเก็บรายได้ของประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังรายงานภาพรวมเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมา พบว่าการจัดเก็บไม่เป็นไปตามเป้า

นอกจากนี้ ยังหารือถึงการขยายเพดานการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันอยู่ร้อยละ 7 ด้วย โดยอ้างว่าจะต้องนำงบประมาณเป็นจำนวนมากใช้แก้ปัญหาสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

รัฐมนตรีบางคนสนับสนุนเห็นสมควรดำเนินการ พร้อมกับอ้างว่าในสถานการณ์เช่นนี้ บางประเทศก็เพิ่มอัตราภาษี เพื่อนำรายได้ไปเพิ่มสวัสดิการให้แก่ประชาชน

แม้สุดท้ายจะไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็ถือว่ารัฐจะหาเงินด้วยวิธีเพิ่มภาระภาษี

ที่ผ่านมา มีข้อสังเกตถึงการบริหารรายได้ภาครัฐของรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงคณะรักษาความสงบแห่งชาติต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลนี้ว่าไม่สามารถหารายได้อย่างเหมาะสม

แม้ว่าจะปรับขึ้นภาษีมาแล้วหลายประเภท ทั้งภาษีสรรพสามิตบุหรี่ สุรา เบียร์ และเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ รวมถึงภาษีเครื่องดื่มผสมน้ำตาลชนิดต่างๆ แต่ก็ไม่ทำให้มีรายได้เพิ่ม

ในทางตรงกันข้ามก็ไม่สามารถจัดเก็บภาษีคนรวยได้อย่างจริงจัง ไม่ว่าภาษีที่ดินและ สิ่งปลูกสร้าง ซึ่งขยายระยะเวลาการลดอัตราการเก็บ 90% ต่อเนื่องจากปี 2563 ถึงรอบปี 2564 ไปอีก 1 ปี

ถูกโจมตีว่าถนัดแต่ขูดรีดกับคนจน อุ้มชูคนรวยและทุนใหญ่

จริงอยู่ ภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถขยายเพดานการจัดเก็บได้ถึงร้อยละ 10 และรัฐบาลก่อนหน้านี้ก็เคยพยายามจะจัดเก็บในอัตรา ร้อยละ 8 แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกไป ด้วยเหตุผลหลายประการ

ถ้าหากรัฐบาลชุดนี้ ยังจะดึงดันด้วยการเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม จะส่งผลให้สินค้าอุปโภคและบริโภคราคาสูงอย่างก้าวกระโดด สร้างภาระค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาล ซ้ำเติมประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิตกต่ำ และการระบาดของโรค

เป็นเรื่องน่ายินดี ที่รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ออกมาปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่ายังไม่มีแนวคิดหารายได้ด้วยการผลักภาระเพิ่มรายจ่ายให้ประชาชนอย่างน้อยเป็นเวลาอีก 2 ปี

จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมาก ถ้ารัฐคิดหารายได้ด้วยการขูดเลือดเอาจากปูในช่วงวิกฤต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน