ยืนหยัด หลักการ มั่นคง แน่วแน่ (67) – หลังปล่อยให้เอียวสิ้วร่ายยาวเหยียด เทียหยกเงียบงันเนิ่นนานจึงค่อยกล่าว “ตัวเจ้าเล่า คิดว่าตนเองเป็นวีรบุรุษที่กล้าฝืนฟ้าดินหรืออย่างไร

ในสายตาข้า เจ้าก็แค่คนบ้าที่มีแต่คำโตเท่านั้นเอง”

“หากจอมปราชญ์ขงจื่อถูกเจ้าเรียกเป็นสุนัขไร้บ้าน ข้าก็ไม่เป็นไร ชาวโลกมิเข้าใจข้าดอก แลข้าก็มิต้องการให้พวกเขาเข้าใจด้วย” มันยังคงกรอกสุราเข้าไปอีกอึกใหญ่ ท่าทางเมามายแล้ว

“งั้น เจ้าทำเพื่ออะไร”

แม้ท่วงท่าและอาการบ่งชัดว่าเริ่มเข้าสู่วิถีแห่งความเมามายแล้วอย่างเด่นชัด กระนั้น คำพูดของเอียวสิ้วก็ยังยืนหยัดอยู่ในหลักการและแนวทางอย่างไม่แปรเปลี่ยน

“เพื่อวิถีอันถูกต้อง เพื่อใต้ฟ้า เพื่อสรรพสัตว์”

เด่นชัดว่าเอียวสิ้วยังสำแดงความโอ่อ่า สง่างามต่อหลักการและความเชื่อของมันอย่างมั่นแน่ว ไม่ว่าจะประสบกับการท้าทายเชิงหยามหมิ่นอันมาจากเทียหยกอย่างไรก็ตาม

นี่คือ 2 แนวทางความเชื่อที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

อย่าได้แปลกใจหากเทียหยกจะส่ายหน้าด้วยความอิดหนาระอาใจ “บัดนี้ สถานการณ์ยันกันระหว่าง 3 ก๊กเป็นที่แน่นอนแล้ว และใน 3 ฝ่ายนี้วุยอ๋องเปล่งอานุภาพมากที่สุด

ถ้าไม่เกิดเหตุสุดวิสัย อีกไม่กี่ปีใต้ฟ้าอาจเป็นของวุยอ๋อง

เจ้าคิดจะให้ฮั่นตี้ครองใต้ฟ้าอีกครั้ง แต่กำลังคนหรือจะเปลี่ยนผันลิขิตฟ้าได้ ก็แค่ตั๊กแตนหาญสู้รถศึกเท่านั้น ต่อให้สถานการณ์ใต้ฟ้าพลิกผัน เล่าปี่เข้าสู่จงหยวน

เขายังจะยอมให้ฮั่นตี้เป็นฮ่องเต้ต่อไปโดยดุษณีหรือ

พระญาติแล้วยังไง ครานั้น หูไฮ่กับฝูซุเป็นพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน มิใช่หรือ ยังฆ่าฟันกันเองเพื่อบัลลังก์ ฮ่องเต้ พระเจ้าอาอย่างเล่าปี่จะยอมยกใต้ฟ้าที่ตนตีมาได้ให้กับ ผู้มีศักดิ์เป็นหลานอาหรือ เฮอะ เฮอะ

ต่อให้ฮั่นตี้สามารถดุจเดียวกับอู่ตี้เกรงว่าสุดท้ายก็คงไม่แคล้วชะตากรรมเดียวกับจื่ออิง”

แน่นอน จะเป็นจื่ออิงใดไปมิได้นอกจากเป็นสถานการณ์หลังจิ๋นซีฮ่องเต้สวรรคต เจ้าเกา ขันทีใหญ่ปลงพระชนม์ฟูไฮ่ ยกเชื้อพระวงศ์นามจื่ออิงเป็นฉินอ๋องโดยไม่เฉลิมพระยศเป็นฮ่องเต้ จื่ออิงฆ่าเจ้าเกา

ต่อมาเซี่ยงอวี่ยกทัพเข้าฉางอันได้ก็ประหารจื่ออิง

ไม่ว่าเทียหยกจะยกกรณีของฟูไฮ่ กรณีของจื่ออิง เป็นเชิงอุปมาเปรียบเทียบให้เห็นชะตากรรมระหว่างเล่าปี่กับฮั่นตี้ว่าจะดำเนินไปอย่างไร

ท่าทีของเอียวสิ้วก็มิได้แปรเปลี่ยน

“ทำไมเจ้าจึงยังไม่เข้าใจ ข้าผู้แซ่เอียวไม่สนใจว่าพวกเขา 2 คน ใครจะเป็นฮ่องเต้ ฮั่นตี้ก็ดี เล่าปี่ก็ดี ไม่ว่าใครจะเป็นฮ่องเต้ล้วนเป็นการสืบทอดสายเลือดของราชวงศ์ฮั่น

ขอเพียงราชวงศ์ฮั่นยึดอำนาจใหญ่ไว้ได้

วิถีแห่งหยูจักรุ่งเรืองอย่างแน่นอน ส่วนพวกเรื่องใครเกิดแต่เมียเอกหรือสายตรงอะไรเทือกนี้ ข้าไม่สนใจ ต่อให้เล่าปี่พอเข้าฮูโต๋ก็สับฮั่นตี้ทิ้ง แล้วยังไงเล่า”

เทียหยกฝืนยิ้ม “หลานเรา เจ้านี่”

ส่งเสียงมาได้แค่นี้ก็มิอาจปล่อยอะไรออกมาอีก ได้แต่หลับตาส่ายหน้า ขณะเดียวกัน ม่านกระโจมก็ถูกเลิกขึ้น เห็นแฮหัวตุ้นเดินเข้ามา โยนศีรษะคนที่อยู่ในมือไว้เบื้องหน้าเอียวสิ้ว

เป็นศีรษะของกวนจุ้น

เห็นเช่นนั้นเอียวสิ้วขมวดคิ้ว ไม่กล่าวถ้อยคำใดออกมา เพียงแต่กรอกสุราราดรด ลำคอลงไปอีกอึกใหญ่ ขณะที่คำพูดแรกของแฮหัวตุ้นพุ่งตรงไปยังเทียหยก

“ได้คำตอบหรือยัง” น้ำเสียงเย็นยะเยียบอย่างยิ่ง

“เปล่า” เป็นคำเปล่าอันว่างเปล่า มาพร้อมกับอาการส่ายหน้าไปมาของเทียหยก แล้วจึงปล่อยอีกหนึ่งคำเชิงสันนิษฐานออกมา

“ต่อให้เขารู้ก็ไม่พูด”

“งั้นก็ฆ่าทิ้งเลย” คำอันมาจากปากแฮหัวตุ้นเช่นนี้บ่งบอกบทสรุปได้อย่างเด่นชัด เอียวสิ้วลุกขึ้น หยิบศีรษะบนพื้นของกวนจุ้นขึ้นมาหนีบพลางกล่าวอย่างสบายใจ ออกมา

“เชิญท่านแม่ทัพแฮหัวนำทาง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน