คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
เส้นทาง การเมือง ของ ก้าวไกล กะ เพื่อไทย พันธมิตร แนวร่วม
ไม่ว่าการเดินสายประชุมใหญ่พรรคก้าวไกล ไม่ว่าการเดินสายประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเลือกจังหวัดขอนแก่นเป็นจุดเริ่มต้นในการประกาศยุทธศาสตร์ทางการเมืองเพื่อรับมือ “การเลือกตั้ง”
คล้ายกับพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยประชันขันแข่งกัน
ในทางการเมือง เมื่อเข้าสู่สนาม “การเลือกตั้ง” มีความจำเป็นที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยจักต้องต่อสู้และขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น
แม้จะมีหลักการต้านเผด็จการ ต้านรัฐประหารเหมือนกัน
ปรากฎการณ์ที่พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยต้องต่อกรกันสร้างความวิตกเป็นอย่างสูง
มีคนจำนวนไม่น้อยเสนอยุทธศาสตร์ “ร่วมกัน” บนพื้นฐานแห่งความสามัคคีระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยเพื่อสัประยุทธ์กับกลุ่มกุมอำนาจในปัจจุบัน
แต่เมื่อถามว่าจะให้จับมืออย่างไร ทางออกก็เริ่มระส่ำระสาย
แนวโน้มก็คือ อยากให้พรรคก้าวไกลหลีกทางให้กับพรรคเพื่อไทยในบางเขต ขณะเดียวกัน ก็อยากให้พรรคเพื่อไทยหลีกทางให้กับพรรคก้าวไกลในบางเขต
ซึ่งในทางเป็นจริงเป็นไปได้ยากเป็นอย่างยิ่ง
หากจับแต่ละคำประกาศก็จะสัมผัสได้ในความเข้าใจระหว่างพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย
มองจากระดับพรรค 2 พรรคนี้ยังเป็นพันธมิตรในแนวร่วมเพื่อต่อกรกับกระบวนการรัฐประหารอย่างดุเดือด เข้มข้น ไม่มีอะไรแปรเปลี่ยน สั่นคลอน
แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการของ “การเลือกตั้ง” ก็จำเป็นต้องต่อสู้กัน
จะเห็นได้ว่าในความมั่นใจจากพื้นฐานที่สะสมชัยชนะทั้งระบบเขต ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ในด้านของพรรคก้าวไกลก็ยอมรับในความเป็นจริงนี้
พรรคก้าวไกลจึงต่อสู้ภายใต้ข้อจำกัดของตนเอง แต่ก็จำเป็นต้องสู้
การดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ในสนามเลือกตั้งจึงดำเนินไปอย่างเข้าใจ
เข้าใจในความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้ในสถานะของพรรคการเมืองอิสระ เป็นตัวของตัวเอง เข้าใจในความจำเป็นที่จะต้องสามัคคีบนพื้นฐานความคิดที่ใกล้เคียงกัน
นั่นก็คือ พันธมิตรในแนวร่วมต้านเผด็จการ ต้านรัฐประหาร
