วันอาทิตย์ 22 พฤษภาคม เป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกทม.พร้อมทั้งส.ก. และเลือกนายกเมืองพัทยา พร้อมทั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยา เชื่อว่าประชาชนผู้มีสิทธิ์ทั้ง 2 พื้นที่ คงจะออกกันไปเต็มล้นคูหา หลังจากที่ต้องเสียสิทธิเสรีภาพทางการเมืองกันมานาน นับจากเกิดรัฐประหารในปี 2557
การรัฐประหารที่เป็นต้นเหตุลิดรอนอำนาจ ของประชาชนนั้น ก็เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมเช่นเดียวกัน เมื่อ 8 ปีก่อน
ดังนั้น 22 พฤษภาคมนี้ จึงเป็นทั้งวันสำคัญของประชาธิปไตยท้องถิ่น
รวมทั้งเป็นวันครบรอบ 8 ปี ของเหตุการณ์รัฐประหาร ที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย
ถ้าถามว่า วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เป็นวันสำคัญเช่นไร
ก็ต้องตอบว่าเป็นทั้งวันประชาธิปไตยในปีนี้ และวันล้มประชาธิปไตยเมื่อ 8 ปีที่แล้ว!!
ถ้าพูดถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และส.ก. ต้องถือเป็นการเลือกตั้งสำคัญ
เป็นระดับท้องถิ่นที่มีผลสะเทือนถึงการเมืองระดับประเทศไปพร้อมกันด้วย
ใครจะได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ เมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ อาจจะทำให้เห็นแนวโน้มการเลือกตั้งส.ส. ที่กำลังจะมาถึงด้วย
คนชนะเป็นผู้สมัครจากฟากประชาธิปไตย หรือฟากอนุรักษนิยมการเมือง
จะเป็นคำตอบว่าความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคฝ่ายค้านกับพรรคฝ่ายรัฐบาล เป็นเช่นไร!?!
ยิ่งโค้งสุดท้าย มีการปลุกกระแสทางการเมืองเข้ามามีส่วนในการเลือกผู้ว่าฯ กทม.
อาจจะได้เห็นกันว่า กระแสของฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้า กับกระแสฝ่ายขวาขุนศึกขุนนาง ใครเหนือกว่ากัน
ดีไม่ดี ประเด็นการเลือกตั้ง 22 พฤษภาคม อาจกระตุ้นให้คนนึกถึงการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งกระทบต่อปากท้องของทุกคนในวันนี้หนักหนาขนาดไหน!
ใครมีส่วนสนับสนุนประชาธิปไตย ใครต่อสู้เพื่อปูทางให้เกิดรัฐประหาร
อาจเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจในวันพรุ่งนี้
นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ยังคงแจ่มชัดในความรู้สึก
ไม่ยอมเลือกหนทางประชาธิปไตยในการแก้ปัญหา เขายอมยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ
กลับไปขัดขวางเลือกตั้ง ล้มเลือกตั้ง ทำทุกทางเพื่อให้เป็นทางตันเพื่อเข้าเงื่อนไขรัฐประหาร
หวังว่าวันพรุ่งนี้ พอเห็นหีบบัตรลงคะแนน เห็นประชาชน เข้าแถวใช้สิทธิ์
จะไม่มีใครเผลอเป่านกหวีดสั่งล้อมคูหาล้มเลือกตั้งกันอีก!?!
วงค์ ตาวัน