ฮีโร่นักสู้ชาวไทยผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการมิกซ์ มาร์เชียล อาร์ตสในประเทศ ด้วยการเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวที่ขึ้นแท่น แชมป์โลก วัน แชมเปี้ยนชิพ รุ่นสตรอว์เวต “ครูรงค์” เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตนักมวยไทยชื่อดังระดับตำนานผู้คลุกคลีอยู่บนเส้นทางนักสู้มากว่า 30 ปี

จุดเริ่มต้นการเป็นนักสู้ของครูรงค์เกิดขึ้นที่จังหวัดตรัง ครอบครัวชอบดูมวยจึงซ้อมมวยให้ครูรงค์เพื่อความสนุกสนาน จนได้มีโอกาสขึ้นสังเวียนครั้งแรกได้ค่าตัว 70 บาท ก่อนจะขยับเข้าไปแข่งขันในเวทีใหญ่อย่างเวทีมวยสยามอ้อมน้อยในรุ่น 35 กก. ชกสามครั้งแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จเลยสักครั้งเดียว

ครูรงค์ย้ายไปซ้อมอยู่ที่ค่ายลูกบ้านใหญ่ ใช้ชื่อ “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” อย่างเต็มตัว เก็บเกี่ยวประสบการณ์กว่า 350 ไฟต์ สั่งสมชัยชนะและคว้าแชมป์โลกมวยไทยจากสนามมวยเวทีลุมพินีมาครอง ก่อนจะตัดสินใจอำลาวงการมวยไทย ทิ้งไว้เพียงชื่อเสียงในฐานะเจ้าตำนาน

หลังรีไทร์จากอาชีพนักมวย ครูรงค์หันไปเป็นครูมวยที่ Evolve MMA ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมนักกีฬาการต่อสู้ระดับแชมป์โลกหลายคนที่ปักหลักเป็นเทรนเนอร์อยู่ที่นั่น ไม่ใช่จุดจบของอาชีพแต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายใหม่ที่ท้าทายกับกีฬามิกซ์ มาร์เชียล อาร์ตส

“ผมไม่เคยคิดจะชก MMA มาก่อนเลย ตอนอยู่ญี่ปุ่นลูกศิษย์ชวนผมเล่น ผมบอกไม่เอา ทีแรกผมมีอคติว่าเป็นการต่อสู้ที่ล้มแล้วซ้ำได้ ซึ่งต่างจากมวยไทยที่ล้มแล้วไม่ซ้ำ แต่พอมาอยู่ที่ Evolve ผมได้คลุกคลีกับกีฬา MMA และเห็นว่ามันเป็นกฎกติกาสากล และมีมวยไทยเข้าไปผสมสานด้วย ผมอยากลองจึงเริ่มต้นด้วยการเรียน BJJ”

เดชดำรงค์ซุ่มซ้อมอยู่ราว 4-5 เดือนและเริ่มศึกษา MMA อย่างเต็มตัว ก่อนตัดสินใจขึ้นสังเวียนซึ่งแตกต่างจากทุกครั้งที่เคยผ่านมาในชีวิต จากเวทีผืนผ้าใบสู่สังเวียนกรงเหล็ก เดชดำรงค์สร้างผลงานสุดประทับใจกับการคว้าชัยชนะด้วยการน็อกเอาต์ตั้งแต่ครั้งแรก

เจ้าตำนานมวยไทย วัย 37 ปีในขณะนั้น เดินหน้าคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่องก่อนจะได้มีโอกาสชิงแชมป์โลก วัน แชมเปี้ยนชิพ รุ่นสตรอว์เวต ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กับคู่แข่งขันชาวฟิลิปปินส์ “รอย โดลิเกวซ” และเดชดำรงค์สามารถคว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครองได้อย่างสมศักดิ์ศรีด้วยการชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ ในศึก ONE: WARRIOR’S QUEST เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ที่ประเทศสิงคโปร์

การได้แชมป์ว่ายากแล้วแต่การป้องกันแชมป์นั้นยากกว่า หลังจากขึ้นแท่นแชมป์โลก เดชดำรงค์ได้ไฟเขียวให้ป้องกันแชมป์ในบ้านเกิดที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อแสดงฝีมือต่อหน้าพี่น้องชาวไทยที่สนามอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แต่เจ้าตัวก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อพลาดท่าถูกซับมิชชั่น เสียแชมป์ในบ้าน

“วันนั้นผมรู้สึกเสียใจมาก ผมร้องไห้บนเวทีเลย คือเรามีความตั้งใจ และคนไทยทุกคนฝากความหวังไว้กับเรา เราทำให้คนไทยผิดหวัง ผมเสียใจมาก”

แม้เสียใจกับความพ่ายแพ้แต่สิ่งที่เดชดำรงค์ทำ คือการกลับไปฟิตซ้อม แก้ไขจุดอ่อน และตั้งความหวังว่าจะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์โลกคืนให้ได้

จากวันแรกที่เริ่มต้นจนถึงวันนี้กับสังเวียนมิกซ์ มาร์เชียล อาร์ตส ความแน่วแน่และตั้งใจทำให้เดชดำรงค์เดินทางมาถึง 14 ไฟต์และยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าแม้ในวัย 40 ปี เขายังมีแรงผลักดันเพื่อตัวเองและครอบครัว ไม่มีคำว่ายอมแพ้ในพจนานุกรมครูรงค์ และไม่ได้หมดไฟอย่างที่หลายคนเข้าใจ

“ศิลปะการต่อสู้มันให้อะไรเราหลายอย่าง โดยเฉพาะความกล้าหาญ ถ้าเราคิดว่ายาก เราไม่กล้า เราก็ไม่มีทาง แต่ถ้าเราเดินเข้าหา เราก็จะประสบความสำเร็จสักวัน ความกล้ามันดีสำหรับตัวเรา ไม่ใช่แค่เรื่องกีฬา แต่กับการใช้ชีวิตทั่วไปด้วย”

“จุดมุ่งหมายของผมในตอนนี้ คือต้องการกลับมาเป็นแชมป์ให้ได้ ผมอยากให้คนไทยทุกคนได้ภาคภูมิใจ”

วันนี้ “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” พร้อมแล้วกับการขึ้นสังเวียนอีกครั้งที่ประเทศสิงคโปร์ ดวลกับนักสู้ชาวจีนวัย 26 ปี “เมียว หลี เตา” ในศึก ONE: ENTER THE DRAGON วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคมนี้ เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป แฟนกีฬาชาวไทยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ONE Super App หรือรับชมย้อนหลังทางไทยรัฐทีวีช่อง 32

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน