ศึกเลือกซ่อมนครปฐม
‘ไพรัฏฐโชติก์–สุรชัย–เผดิมชัย’
วัดคะแนนรัฐบาล–ฝ่ายค้าน
คอลัมน์ ทะลุคนทุลวงข่าว
ศึกเลือกซ่อมนครปฐม : เลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 5 นครปฐม ร้อนฉ่า ไม่ใช่แค่การเมืองในพื้นที่ แต่ยังระอุส่งสัญญาณถึงการเมืองระดับประเทศ
กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ในวันพุธที่ 23 ต.ค.นี้ แทน จุมพิตา จันทรขจร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ลาออกเนื่องด้วยปัญหาสุขภาพจากอุบัติเหตุ
พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ส่ง ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร สามีของจุมพิตา ลงชิงชัยเพื่อรักษาเก้าอี้นี้ไว้ให้ได้
โดยพรรคฝ่ายค้านอันดับ 1 อย่างเพื่อไทย ประกาศหลีกทางไม่ส่งคนลงสนาม ด้วยเหตุผลไม่ใช่พื้นที่ถนัด
ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเกิดอาการ ‘ฮั้วแตก’ เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ อ้างสิทธิ์ได้คะแนนอันดับ 2 ในการเลือกตั้งสนามนี้ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา เป่ากระหม่อม สุรชัย อนุตธโต ผู้สมัครคนเดิมลงล้างตา
ท่ามกลางเสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล
ทว่าฟากชาติไทยพัฒนา อีกพรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันส่งผู้สมัครเช่นกัน เพราะนครปฐมคือที่มั่นสำคัญของตระกูลสะสมทรัพย์ แกนนำพรรค จะปล่อยให้สูญเสียคะแนนความนิยมไม่ได้
พรรคชาติไทยพัฒนา ส่ง เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ลงกอบกู้ศักดิ์ศรี ‘บ้านใหญ่นครปฐม’ ในฐานะอดีตส.ส.หลายสมัย ลงแก้มือหลังจากพ่ายแพ้หมดฟอร์มในการเลือกตั้งใหญ่
แกนนำพรรคประกาศทุ่มทุกสรรพกำลัง ศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้แพ้ไม่ได้
เลือกตั้งซ่อมนครปฐมครั้งนี้ แม้มีเพียง 1 ส.ส.ให้ช่วงชิง แต่ในสถานการณ์รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ มีส.ส.มากกว่าฝ่ายค้านไม่กี่คน บวกกระแสความนิยมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี รอบ 2 หดหายลงทุกวัน จากผลงานการบริหารประเทศ การแก้วิกฤตเศรษฐกิจ แก้ภัยธรรมชาติ ฯลฯ ไม่เข้าตา ไม่โดนใจประชาชน
ผลเลือกตั้งซ่อม จึงเสมือนเสียงสะท้อนของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ว่าผ่านมา 3-4 เดือน สอบผ่านหรือสอบตก
อีกทั้งยังมีเลือกตั้งซ่อมรออยู่อย่างน้อยๆ 3 เขต ถ้าพรรครัฐบาลพ่ายแพ้ที่นครปฐม อาจเป็นโดมิโน่แพ้พ่ายต่อเนื่องได้ในเปอร์เซ็นต์สูง
ขณะเดียวกัน พรรคอนาคตใหม่ต้องรักษาฐานเสียงส.ส.ที่นี่ไว้ เพื่อเป็นพลังและกำลังใจขับเคลื่อนพรรคให้เติบใหญ่ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เลือกตั้งซ่อมนครปฐมครั้งนี้ พรรครัฐบาลและฝ่ายค้านจึงลงสนามชิงชัยกัน ภายใต้ความเชื่อมั่น ‘ต้องชนะ’ พร้อมกับความกดดัน ‘แพ้ไม่ได้’
ไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัครหมายเลข 6
ชื่อเล่น ‘ป๋วย’ อายุ 59 ปี
สามีของ จุมพิตา จันทรขจร อดีตส.ส.เจ้าของพื้นที่
ลูกชายคนเล็กของ พล.ต.ท.จำรัส จันทรขจร อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ และเป็นน้องชายของ ‘โป๊ะ’วัชรพันธุ์ จันทรขจร นักยุทธศาสตร์คนสำคัญของพรรคไทยรักไทย
อำนวยศิลป์ รุ่น 51 สวนกุหลาบ รุ่น 97
ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เรียนอยู่สวนกุหลาบฯ ทำหน้าที่รปภ.ของศูนย์ นักเรียนฯ ช่วยพี่ชาย ‘โป๊ะ’ หัวหน้าการ์ดศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
หลังเหตุการณ์อำนาจรัฐล้อมปราบฆ่าหมู่นิสิตนักศึกษาประชาชนที่ธรรมศาสตร์ ตามพี่ชาย เข้าป่าภูหินร่องกล้า ก่อนย้ายไปอยู่สำนัก 51 น่านเหนือ ร่วมกับผู้นำนักศึกษาอีกหลายคน
ผลจากคำสั่ง 66/2523 ใช้การเมืองนำ การทหาร ทำให้สงครามสู้รบตามป่าเขา สงบลง ออกจากป่ามาช่วยพี่ชายทำธุรกิจหลายอย่าง เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท DAD Security & Bodyguard, ทีมพิเศษแผนกติดตั้งเสารับส่งสัญญาณมือถือคลื่น GSM 2 WATT บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน), บริหารโรงแรม รีเจ้นท์ ชะอำ, ที่ปรึกษา บริษัท รีเจ้นท์ เฮ้าส์, ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตปลอดอากร สนามบินสุวรรณภูมิ
และตามพี่ชายเข้าพรรคไทยรักไทย ทำหน้าที่มันสมอง ในทีมยุทธศาสตร์ของพรรค ต่อเนื่องถึงพรรคพลังประชาชน
ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำหน้าที่ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย
เลือกตั้ง 24 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นทีมงานหาเสียงให้กับ จุมพิตา ภรรยา ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ สร้างเซอร์ไพรส์ได้เป็นส.ส.เขต 5 นครปฐม โค่นเจ้าของพื้นที่ตระกูลสะสมทรัพย์ ล้มตัวเก็งจากประชาธิปัตย์อย่างเหนือความคาดหมาย
เมื่อภรรยามีปัญหาสุขภาพจากอุบัติเหตุ อาสาพรรคขอลงสนามรักษาเก้าอี้ ชนะโหวตตามกระบวนการสรรหาของพรรค
สวมเสื้ออนาคตใหม่รักษาส.ส.ของพรรคในนครปฐม
มั่นใจได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านเหมือนกับที่ภรรยาได้รับ
สุรชัย อนุตธโต ผู้สมัครหมายเลข 3
เกิดวันที่ 10 ส.ค. 2505 พื้นเพเป็นชาวสามพราน
จบมัธยมต้น โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ มัธยมปลายโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
อนุปริญญา คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า
ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ และ ปริญญาโท คณะรัฐศาสนศาสตร์ มหา วิทยาลัยปทุมธานี
ทำธุรกิจส่งออกมะพร้าวอ่อน
ลงเลือกตั้งท้องถิ่นตั้งแต่ปี 2550 เป็นสมาชิกสภาอบจ.นครปฐม 2 สมัย
ประธานชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีน จ.นคร ปฐม 2 สมัย และอดีตประธานชมรมเรารักในหลวง อ.สามพราน
สมัครเข้าพรรคประชาธิปัตย เดือนต.ค. 2556
ประเดิมสนามระดับชาติครั้งแรก เมื่อเลือกตั้งใหญ่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา
เข้าอันดับ 2 ได้ 18,970 คะแนน พ่าย จุมพิตา จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ 34,164 คะแนน
ได้รับโอกาสจากพรรคประชาธิปัตย์ลงแก้มือ
โดยมีคู่แข่งสำคัญคือสามีส.ส.ที่เพิ่งแพ้มา และตระกูลสะสมทรัพย์ที่ขอทวงคืนพื้นที่
เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครหมายเลข 1
เกิด 2 ก.พ. 2492 พี่ชาย ไชยยศ–ไชยา–อนุชา สะสมทรัพย์ ตระกูลการเมืองเก่าแก่นครปฐม
ศิษย์เก่าอำนวยศิลป์ ปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา
ปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
นิติศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เป็นส.ส.นครปฐม ตั้งแต่ปี 2531 และเป็นต่อมาหลายสมัย เคยสังกัดพรรคก้าวหน้า พรรคเอกภาพ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย
อดีตรมช.คมนาคม รัฐบาลชวน หลีกภัย สมัย 2
ก.ค. 2553 ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายจากปัญหาหนี้สินธุรกิจ ปี 2554 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิก
2554 ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.นครปฐม พรรคเพื่อไทย นั่งเก้าอี้รมว.แรงงาน รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ต.ค. 2561 นำอนุชา น้องชาย และทีม อดีตส.ส. ย้ายซบพรรคชาติไทยพัฒนา
เลือกตั้ง 24 มี.ค. เข้าป้ายอันดับ 4 ได้คะแนนแค่ 12,279 แพ้ผู้สมัครหญิงหน้าใหม่พรรคอนาคตใหม่ไม่เห็นฝุ่น
เมื่อมีเลือกตั้งซ่อม พรรคชาติพัฒนาต้นสังกัด ไม่หลีกทางพรรคร่วมรัฐบาลอย่างประชาธิปัตย์ ส่งลงแก้มือให้หายสงสัย
หวังใช้บทเรียนความผิดพลาดจากเลือกตั้งใหญ่ ทวงคืนส.ส.และศักดิ์ศรีบ้านใหญ่นครปฐม
ศึก 3 เส้า เลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 5 นครปฐม ดุเดือดตั้งแต่เริ่ม
พุธที่ 23 ต.ค. นี้รู้กัน ใครคือผู้ชนะ