คอลัมน์ ทะลุคน ทะลวงข่าว : รมต.พิพัฒน์-ผู้ว่ายุทธศักดิ์ ดันท่องเที่ยวฟื้นประเทศ พช.ชูผ้าไทยสร้างอาชีพ

ดันการท่องเที่ยวฟื้นประเทศ – จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กว่า 3 เดือนในประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก

การฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศหลังวิกฤตโควิดคลี่คลายการท่องเที่ยวถือเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่มี ยุทธศักดิ์ สุภสร เป็นผู้ว่าการ

เสนอครม.เห็นชอบแล้ว สำหรับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว 3 แพ็กเกจ ประกอบด้วย เที่ยวปันสุข-เราไปเที่ยวกัน-กำลังใจ วงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท

ให้กำลังใจอสม.กับบุคลากรทางการแพทย์ 1.2 ล้านคน ด้วยการเที่ยว

ประชาชนทั่วไป แพ็กเกจ เราไปเที่ยวกัน อุดหนุนจ่ายค่าที่พักรวม 5 ล้านคืน ในอัตราร้อยละ 40

เร่งฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้กลับมาสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงสร้างงานสร้างเงินให้กับผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ที่เดือดร้อนอย่างหนักจากวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้

ขณะที่กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ร่วมขับเคลื่อนฟื้นฟูประเทศ ดูแลชาวบ้านชุมชนที่ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิดทั่วทั้งประเทศ

สุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีผู้มีวิสัยทัศน์ เดินหน้าหาอาชีพสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน โดยใช้ผ้าไทยเป็นตัวชูโรง

ภายใต้โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน รณรงค์การสวมใส่ผ้าไทยในชีวิตประจำวัน

ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 76 จังหวัด สร้างรายได้แก่ประชาชนผู้ประกอบอาชีพทอผ้ากว่าปีละ 105,000 ล้านบาท

ช่วยกระจายรายได้ ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากให้ยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ

 

พิพัฒน์ รัชกิจประการ หรือ ‘โกเกี๊ยะ’ ชาวสงขลา

ลูกของ สุทัศน์ และ กุยเฮียง รัชกิจประการ และเป็นพี่ชายของ พิบูลย์ รัชกิจประการ ส.ส.สตูล พรรคภูมิใจไทย

สมรสกับ นาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย

ปริญญาตรี และปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

สืบทอดธุรกิจกลุ่มเรือประมงเขตน่านน้ำอันดามันของครอบครัว จนได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้ชื่อพีทีจี เอ็นเนอยี

และยังเป็นเจ้าของอาณาจักรปั๊มน้ำมันพีที

เริ่มต้นงานการเมืองโดยการชักชวนของ วัฒนา อัศวเหม ครั้งก่อตั้งพรรคมหาชน ปี 2541 เพื่อสร้างฐานการเมืองในพื้นที่ภาคใต้

เลือกตั้งมี.ค. 2562 รับบทแม่ทัพใหญ่ภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย สร้างผลงานสุดยอดโค่นแชมป์เก่าตลอดกาลของพรรคประชาธิปัตย์ได้หลายพื้นที่ ปักธงส.ส.ภูมิใจไทยในภาคใต้ได้ถึง 8 คน

ได้รับตำแหน่งรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นบำเหน็จรางวัล ขับเคลื่อนงานการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลักในการ สร้างรายได้ให้กับประเทศ ควบคู่งานด้านกีฬา

เมื่อเกิดวิกฤตไวรัสสายพันธุ์ใหม่ระบาดทั่วโลก ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

ยุทธศักดิ์ สุภสร อายุ 54 ปี เกิด 8 ม.ค.2509

บุตรของ สุพร สุภสร อดีตผู้ว่าราชการหลายจังหวัด และ ฉวีวรรณ สุภสร

ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เกียรตินิยมอันดับสอง) ปี 2530

เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต และเศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคโอ ประเทศญี่ปุ่น

ปี 2539-2545 ทำงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ย้ายไปสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 2545-2547

ช่วยราชการร่วมทีมงาน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ขณะนั้น สร้างผลงานด้านส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน โครงการโอท็อป

เป็น ผอ.สถาบันอาหาร 6 ปี

ผอ.สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เมื่อต.ค.2552

จากนั้นเป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท อสมท จำกัด

ก.ย. 2558 นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถือเป็นคนนอกในรอบ 55 ปี

เม.ย. 2562 บอร์ดททท. ต่อสัญญาให้เป็นผู้ว่าการ อีก 4 ปี

เดินหน้ามาตรการฟื้นฟูการท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืน หลังวิกฤตโควิด

ชูเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส เน้นท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ วัฒนธรรมและอาหาร

สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ชื่อเล่น ‘เก่ง’

ชาวจ.ตราด อายุ 56 ปี เกิด 3 ก.พ.2507

สมรสกับ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซี จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ 42 บริษัท

มีลูกสาว 2 คน

สิงห์ดำ รัฐศาสตรบัณฑิต (การปกครอง) และรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการปกครอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เส้นทางนักปกครองเริ่มจากปลัดอำเภอวังเหนือ ลำปาง

ปลัดอำเภอฟากท่า อุตรดิตถ์, ปลัดอำเภอบางเลน นครปฐม, ปลัดอำเภอโพธาราม ราชบุรี และปลัดอำเภอบ้านแพ้ว สมุทรสาคร

เคยช่วยราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นเลขานุการรองปลัดกระทรวงและผอ.ศอ.บต. พลากร สุวรรณรัฐ

เป็นหัวหน้าสำนักงานรมว.มหาดไทย ยืนยงผ่านมท.1 ถึง 4 คน ตั้งแต่ยุคพล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา, อารีย์ วงศ์อารยะ, พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

เป็นรองผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม และรองผู้ว่าฯ นครนายก

ปี 2553 สร้างความฮือฮา เมื่อได้เป็น ผู้ว่าฯ นครนายก ด้วยอายุเพียง 46 ปี ก่อนออกไปนั่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

ปี 2556 เป็นผู้ว่าฯ สระบุรี ปีถัดมาเป็นผู้ว่าฯ ชัยนาท

ปี 2558 รองปลัดมหาดไทย

ต.ค. 2560 ขึ้นชั้นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

ต.ค. 2562 อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

นอกจากชูผ้าไทย สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้ชาวบ้านชุมชนแล้ว ยังร่วมกับสภาสตรีฯ จัดทำโครงการ “เติมความสุข บรรเทาความทุกข์ ด้วยการแบ่งปัน”

ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน