กรณีของ “บ้านป่าแหว่ง”ดอยสุเทพกำลังจะกลายเป็น”กรณีศึกษา”ที่น่าหวาดเสียวอย่างยิ่งต่อ “คสช.”

หากติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นก็จะเข้าใจ

เข้าใจในความอึดอัดของ “คสช.” ผ่านการแสดงออกของกองทัพบก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองทัพภาคที่ 3

เข้าใจในความอึดอัดของ “รัฐบาล”

ผ่านการแสดงออกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านการ แสดงออกของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เป็นความอึดอัดจากความคิดที่ดำรงอยู่โดย”พื้นฐาน”

นั่นก็คือ ต้องการจะเดินหน้าก่อสร้างอาคารที่พักและให้เป็นที่พักอาศัยของข้าราชการเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะ”ชาวบ้าน”ไม่ยินยอม

 

เมื่อไม่ว่าจะมองผ่านกระบวนการ”คสช.” เมื่อไม่ว่าจะมองผ่านกระ บวนการ “รัฐบาล”

คือ ความไม่สุกงอมอย่างเพียงพอ

มติครม.ที่มอบหมายให้ นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ ประชุมกับภาคประชาชนจึงเสมอเป็นเพียงการซื้อ ยื้อเวลาให้ดำรงอยู่ยาวนานออกไป

มิได้สะท้อนความต้องการในการแก้ไขปัญหาอย่างแท้จริง

ที่ตกลงว่าจะมอบคืนพื้นที่ให้เป็นของ”สาธารณะ”ตามที่มีมติว่าเป็นวันที่ 18 มิถุนายน จึงกลายเป็นประเด็น กลายเป็นปัญหาในเมื่อไม่สามารถทำได้โดยราบรื่น

เพราะเพียงแค่การยินยอมให้ “ข้าราชการ”กว่า 30 ครอบครัวเข้าไปพักอาศัยก็กลายเป็นเรื่อง

เหมือนกับจะสร้างจุดปะทะ ขัดแย้งใหม่ขึ้น

ในที่สุด ปัญหาอันเกี่ยวกับ”บ้านป่าแหว่ง”ก็ย้อนกลับมานับ 1 ใหม่ในวันที่ 18 มิถุนายน โดยอัตโนมัติ

 

ในยุคที่ “คสช.” มีอำนาจโดยเฉพาะมี “มาตรา 44″อยู่ในมือก็คล้ายกับว่าปัญหาจะไม่บานปลาย

เหมือน “หญ้า”ถูกกดทับโดย”อำนาจ”พิเศษ

แต่หากเมื่อใดบ้านเมืองคืนสู่ความเป็นปกติ “มาตรา 44″ไม่มีหรือไม่สามารถงัดออกมาใช้ได้ง่ายๆเหมือนกับ 4 ปีหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

เมื่อนั้น “บ้านป่าแหว่ง”จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เบ้อเริ่มเทิ่ม

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน