อยู่4ปีฆ่าประชาธิปไตย :คอลัมน์ ใบตองแห้ง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกาศจะทำให้รัฐบาลอยู่ได้ถึง 4 ปี แม้มีเสียงปริ่มน้ำ อย่าดูหมิ่นเชียว เพราะมีความเป็นไปได้ ภายใต้กลไกรัฐธรรมนูญ 2560 ที่สภาเลือกตั้งไม่มี ความสำคัญนัก

ก็แค่อาศัยมือ ส.ส.ผ่านงบประมาณ กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเรียกระดมกันได้ โดยอาศัย “ขาใหญ่” แม้ดูเหมือน 19 พรรคไม่มีเสถียรภาพ แต่ก็มีเอกภาพระดับหนึ่ง คือทุกพรรคยังอยากเป็นรัฐบาล ไม่มีใครอยากเลือกตั้งใหม่ แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกลายเป็น “พรรคเฉพาะกิจ” คือกอดเก้าอี้รัฐมนตรีไว้ก่อน แม้ยังไม่รู้ว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะสูญพันธุ์ไหม 3.9 ล้านเสียง อาจเสียให้พลังประชารัฐ อาจเสียให้อนาคตใหม่ แต่ก็ตั้งความหวังว่า 2-3 ปีจากนี้ไป พปชร.จะเสื่อม อนาคตใหม่จะถูกทำลาย

เสถียรภาพที่แท้จริงของรัฐบาลสืบทอดอำนาจไม่ได้อยู่ที่สภาผู้แทนฯ แต่อยู่ที่กลไกรัฐธรรมนูญ องค์กรกฎหมาย องค์กรอิสระ อำนาจรัฐราชการ 250 ส.ว. ซึ่งมี 6 ผบ.เหล่าทัพเป็นโดยตำแหน่ง ควบกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ผนึกภาคธุรกิจ กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่

ถ้ากลไกเหล่านี้ไม่ขัดขากันเอง ฝ่ายค้านเข้มแข็งเพียงไร ประชาชนไม่พอใจขนาดไหน ก็ไม่มีความหมาย เสียงปริ่มน้ำ ก็เอาตัวรอดได้ จำเป็นก็ใช้งูเห่า

ระหว่างนี้ก็รักษาเสียงปริ่มน้ำไว้ อย่าให้เกิดแรงกระเพื่อมจากการเลือกตั้งซ่อม เลือกตั้งใหม่ ซึ่งก็บังเอิญเสียกระไร การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์โปร่งใสที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยมี กกต. 4 เดือนผ่านไป เพิ่งแจกใบส้มเพื่อไทยรายเดียว ถวายเงินพระ 2 พัน เลือกตั้งใหม่ อนาคตใหม่ชนะล้นหลาม พปชร.คะแนนหายไป หมื่นกว่า จากนั้นก็ไม่แจกอะไรใครเลย ผู้ตรวจการเลือกตั้ง 413 คนหายสาบสูญไปจากประเทศไทย

เพิ่งมาแจกใบเหลือง ย้ายรองเลขาฯ กกต. “กรรมลิขิต” รับผิดชอบแต่ผู้เดียว

เมื่อตั้งรัฐบาลสำเร็จ รัฐบาลสืบทอดอำนาจก็ใช้น้ำยาฟอกขาว แปลงร่างเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง อ้างว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย แล้วนะ ขอให้ประชาชนลืมอดีต ลืมการยึดอำนาจด้วยปืนรถถัง ลืมการได้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม เป็นผู้คุมกติกาแล้วลงเลือกตั้ง ตั้ง 250 ส.ว. มาโหวตให้ตัวเอง

วันนี้เราเป็นประชาธิปไตยแล้วนะ ต้องรู้จักอดทนอดกลั้น มีวินัย ขอประชาชนให้โอกาส ให้เวลาทำงาน แก้ปัญหาปากท้อง รัฐมนตรีนักการเมืองที่โหยกระหายมา 8 ปีก็ขมีขมัน เดินสายตรวจเยี่ยมรับฟังปัญหา ประกาศจะทำโน่นทำนี่ตั้งแต่ปลดล็อกกัญชา ลดค่าเดินทาง เพิ่มค่าอาหารผู้สูงอายุ ประกันราคาพืชผล ฯลฯ ให้ความหวังประชาชนว่าจะทำได้ดีกว่า “รัฐบาลที่แล้ว”

ซึ่งนั่นก็เข้าทางเครือข่ายอนุรักษนิยม ที่หวังจะให้ประชาชนหยวนยอม การสืบทอดอำนาจอย่างไม่ชอบธรรม รัฐบาลกำลังจะทำงาน ฝ่ายค้านยังมาเที่ยวโวยวายว่าชนะด้วย “กติโกง” เที่ยวไปเดินสายฟ้องโลกว่า กติกาไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นพวกชังชาติ เป็นพวกขัดขวางความเจริญ

หรือกระทั่งจะรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญ ก็บอกว่าทำได้แต่อย่าปลุกระดม รัฐบาลอุตส่าห์เขียนนโยบาย 2 บรรทัด ว่าสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญเหมือนกัน ฝ่ายค้านอย่ามาสร้างความวุ่นวาย

นี่คือยุทธศาสตร์ IO ที่มุ่งกลบเสียงคนเลือก 7 พรรค 16.5 ล้าน เกือบครึ่งของผู้ใช้สิทธิ ให้เลือนหายไป ผู้เรียกร้องประชา ธิปไตย ความชอบธรรม ความยุติธรรม กลายเป็นคนส่วนน้อย ที่ทำให้บ้านเมืองไม่สงบ(อีกแล้ว)

โดยระหว่างนี้ กระบวนการตามรัฐธรรมนูญ กระบวนการยุติธรรม ก็จะดำเนินไป ไม่ยักเกี่ยวอะไรกับรัฐบาล สมมติศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าธนาธรถือหุ้นสื่อ กกต.เอาผิดติดคุก หรือศาลชี้ว่าพรรคอนาคตใหม่ใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยอาจถูกยุบพรรคตัดสิทธิ ติ่งอนาคตใหม่ก็ต้องน้อมรับ อย่าโวยวาย อย่าก่อม็อบ ตำรวจทหารพร้อมจัดการ เพราะรัฐบาลกำลังจะทำให้ประเทศเดินหน้า

เฟสแรกของรัฐบาลนี้ ขอเวลาสักสองปี หวังว่าจะเห็นฝ่ายค้านเพลี่ยงพล้ำ หรืออ่อนแรงลง พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ธนาธร ปิยบุตร ช่อ ติดคุก พรรคเพื่อไทย ถ้าทำให้เห็นชัดว่าทักษิณหมดโอกาสกลับมาแสดงฝีมือแก้เศรษฐกิจ มวลชนก็สิ้นหวัง ส.ส. พื้นที่ไม่ได้รับงบไม่ได้รับโครงการรัฐบาล ขณะที่เขตข้างๆ ปรีดิ์เปรม ฯลฯ

รัฐบาลไม่ได้หวังชิงคะแนนนิยม แค่ทำให้ประชาชนหมดความหวังกับการเปลี่ยนแปลง คับแค้นเพียงไรก็ไม่สามารถต่อต้าน เพราะประชาธิปไตยไม่มีปืน ลงถนนก็ถูกปราบปราม คนรุ่นใหม่อยากย้ายประเทศไปทำมาหากินที่อื่นก็ช่างหัวมัน ช่วงที่เหลือ ก็ทางสะดวก ทุกอย่างเข้าที่

ระบอบการเมืองจะย้อนยุคกลับไปคล้ายสมัยเปรม แต่แย่กว่า คือรัฐราชการเป็นใหญ่ ผนึกกลุ่มทุน และอิทธิพลท้องถิ่น แถมพันธนาการด้วยเครือข่ายอำนาจอนุรักษ์แน่นหนา องค์กรกฎหมาย องค์กรอิสระ 250 ส.ว. ต่างกับยุคเปรมที่ประชาธิปไตยยังมีโอกาสเดินหน้า

ที่ว่ามาคือยุทธศาสตร์อำนาจอนุรักษนิยม ถ้าการสืบทอดอำนาจครบ 4 ปี ก็จะฆ่าประชาธิปไตยได้อย่างสวยงาม แต่นั่นแหละคือเดิมพัน ประชาชนจะยอมให้เป็นเช่นนั้นหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน