ช่วยน้ำท่วม
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ช่วยน้ำท่วม – การทำงานเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุโพดุลของหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล รวมถึงพรรคการเมืองปรากฏเป็นข่าวมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีรายงานว่านายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ในที่นี้รวมถึงการฟื้นฟูพื้นที่ที่น้ำลดลงแล้ว
รัฐบาลรับปากว่าจะช่วยผู้ที่มีบ้านเรือนเสียหายจากน้ำท่วม รวมถึงความเสียหายทางการเกษตร ว่าจะเร่งดำเนินการสำรวจและช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง
ปฏิกิริยาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ควรมีในยามที่เกิดความเดือดร้อน และประชาชนร้อนใจรอรับความช่วยเหลือ
แต่ขณะเดียวกันหากรัฐจัดระบบความช่วยเหลืออย่างเป็นขั้นเป็นตอนแล้ว ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ด้วย
มีข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้ง ว่าช่วงแรกเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้าหรือดำเนินอย่างเร่งด่วน เช่น มีรัฐมนตรี มีหัวหน้าหน่วยราชการ มีตัวแทนพรรคการเมืองลงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว
รัฐมนตรีหรือส.ส.บางคนมีทรัพยากรและศักยภาพที่จะเดินทางลงพื้นที่ได้เร็ว หรือมีการเปิดรับบริจาคสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปยังพื้นที่ ก็ส่งผลดีต่อประชาชนในส่วนนั้นๆ
แต่หลังจากภัยธรรมชาติผ่านพ้นไปแล้ว จะเป็นการใช้กลไกของระบบราชการผ่านกระทรวงและการบริหารงานจากส่วนกลาง
ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นคือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือเหล่านี้
หลายๆ ครั้งกว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้ยินเสียงความเดือดร้อนและเข้ามาช่วยเหลือ อาจต้องอาศัยสื่อมวลชน หรือโซเชี่ยลมีเดีย และล่าสุดสมาชิกสภาผู้แทนฯ ของพื้นที่ตัวเอง เป็นช่องทางส่งสารเป็นกรณีๆ ไป
บางพื้นที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมนี้ขึ้นทุกปี ชาวบ้านเดือดร้อนและเผชิญกับความเสียหายทางเศรษฐกิจอยู่เป็นประจำ
เมื่อส่งเรื่องร้องเรียนรวมถึงหลักฐานภาพถ่ายต่างๆ แล้ว กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ หรือดูแลแก้ไขปัญหาให้อย่างจริงจัง
สำหรับผลกระทบจากพายุโพดุลล่าสุดนี้ มีรายงานเบื้องต้นว่าจังหวัดที่เผชิญอุทกภัยมีอยู่ราว 15-16 จังหวัด เป็นโจทย์ให้รัฐบาลต้องดูแลให้ทั่วถึงและทำให้ครบถ้วนกระบวนการ