การพนันที่น่ากังวล

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

การพนันที่น่ากังวล – ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เปิดเผยผลการศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทยปี 2562 โดยเก็บข้อมูลประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ทั้ง 77 จังหวัด รวม 44,050 ตัวอย่าง คนไทยเล่นการพนันถึง 57% หรือประมาณ 30.42 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ราว 1.49 ล้านคน

จำนวนนี้เป็นนักพนันหน้าใหม่มากถึง 7.1 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีอยู่ประมาณ 6.2 แสนคน หรือเพิ่มขึ้น 14.43% แสดงว่าแนวโน้มมีผู้เข้ามาในวงการมากขึ้น

ที่น่ากังวล คือมีเด็กอายุ 15-18 ปี เล่นการพนันจำนวน 7.33 แสนคน เยาวชนอายุ 19-25 ปี จำนวน 3.05 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3.35 ล้านคน

อายุที่เริ่มเล่นพนันครั้งแรก พบว่าต่ำสุดอยู่ที่ 7 ขวบ สูงสุดที่ 62 ปี

การพนันยอดนิยม 5 อันดับแรก คือ สลากกินแบ่งรัฐบาล 22 ล้านคน วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท หวยใต้ดิน 17 ล้านคน วงเงิน 1.53 แสนล้านบาท ไพ่ 4.4 ล้านคน ไฮโล โปปั่น น้ำเต้าปูปลา 1.9 ล้านคน

สำหรับการพนันทายผลฟุตบอลแม้จะมีเพียง 3.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 รวม 9.8 แสนคน แต่วงเงินจำนวนมากถึง 1.6 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง

ในส่วนพนันออนไลน์พบว่า มีคนเล่น 8.26 แสนคน เป็นนักพนันหน้าใหม่ 9.1 หมื่นคน วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย บาคาร่า ป๊อกเด้ง สลอตแมชชีน ตู้เกม และพนันทายผลกีฬา

เหตุที่นิยมเล่น คือ สะดวก ง่าย เล่นได้ทุกที่ทุกเวลาจากโทรศัพท์มือถือมากสุด คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และแท็บเล็ต

ปัจจุบันเป็นที่น่าสังเกตว่ามีความพยายามจะเพิ่มประเภทของการพนันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างกฎหมายใหม่เปิดช่องให้ดำเนินการ และเพื่อป้องกันการขายเกินราคา หรือสลากรวมชุด

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการออกหวยภาพ ประเภทน้ำเต้าปูปลา ล็อตโต หวยออนไลน์ รวมถึงหวยบนดินที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว

แม้ว่าปีที่แล้วหน่วยงานนี้จะสามารถส่งเงินเข้ารัฐได้ 4 หมื่นกว่าล้านบาท ในเชิงเศรษฐศาสตร์ถือเป็นการดึงเงินกลับคืนไปที่รัฐ แต่การเพิ่มปริมาณจำนวนสลากมากยิ่งขึ้น จะกลายเป็นดาบสองคมที่จะทำให้คนหวังพึ่งโชคลาภจากการพนันหรือไม่

ขณะเดียวกัน รัฐบาลสมควรมีมาตรการสำหรับการควบคุมและลดปัญหาจากการพนันรูปแบบต่างๆ ได้แล้วหรือยัง รวมทั้งจะป้องกันนักพนันหน้าใหม่ไม่ให้เข้าสู่วังวนนี้อย่างไร