หมัดฮุก ‘ปิยบุตร’ – ปิยบุตร แสงกนกกุล เสนอผ่าทางตัน ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ โดย 2 ฉบับแรกไม่ต้องทำประชามติ

ฉบับที่ 1 ยกเลิกมาตรา 279 ที่คุ้มครองประกาศคำสั่ง คสช. เพื่อให้ร้องศาลโต้แย้งได้ว่าประกาศคำสั่ง คสช.อาจขัดรัฐธรรมนูญ ฉบับที่ 2 ยกเลิกมาตรา 269-272 โละ 250 ส.ว.ในบทเฉพาะกาล ข้ามไปใช้ฉบับค้างคืน ส.ว.เลือกกันเอง 200 คน ตามมาตรา 107 แต่ไม่มีอำนาจเลือกนายกฯ

ฉบับที่ 3 จึงค่อยแก้มาตรา 256 หลักเกณฑ์วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้แก้ได้ง่ายขึ้น โดยใช้เสียงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา พร้อมกับให้เลือก ส.ส.ร.เข้ามา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

ฉบับหลังสุดต้องทำประชามติ แต่ฉบับ 1 ฉบับ 2 ไม่ต้อง แก้ไขได้ทันที เสร็จแล้วก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คราวนี้ไม่ต้องมี 250 ส.ว.มาโหวตตู่อีก

เดี๋ยวนะ จริงหรือ ปิยบุตรศรีธนญชัยหรือเปล่า ไหนว่ารัฐธรรมนูญ 2560 แก้ยากหรือแก้แทบไม่ได้เลย จะโละทิ้ง 250 ส.ว.กันง่ายๆ อย่างนี้หรือ

พอกลับไปอ่านมาตรา 256 แล้วก็หัวร่อกลิ้ง ใช่จริงๆ แก้ได้ เป็นช่องโหว่ที่มีชัยไม่ได้บัญญัติไว้

มาตรา 256 (8) บังคับเฉพาะหมวด 1 หมวด 2 หมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดํารงตําแหน่งต่างๆ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออํานาจของศาลหรือองค์กรอิสระ ต้องทำประชามติ

แต่มาตรา 269-272 มาตรา 279 อยู่ในบทเฉพาะกาล ไม่ได้บังคับว่าต้องทำประชามติ

แหงละ มาตรา 256(6) กรธ.มีชัยผูกเงื่อนตาย รัฐธรรมนูญข้าใครอย่าแตะ จะแก้ได้ต้องให้ ส.ส.ฝ่ายค้านเห็นชอบร้อยละ 20 ส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ซึ่งก็คือ 84 คน จะหา ส.ว.ที่ไหนมายกมือโหวตตัวเองให้ตกเก้าอี้ ทั้งที่ใจหนาๆ โหวตตู่เป็นนายกฯ มาแล้ว

แต่อย่าลืมสิ นี่คือข้อเสนอขณะม็อบเยาวชนกำลังกดดัน ถ้ากระแสสังคมเอาด้วย ความขัดแย้งเข้าขั้นวิกฤต รัฐบาลทำท่าจะแย่ ก็เป็นโอกาสผ่าทางตัน

รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนมาไม่ให้แก้ได้ ต้องบ้านเมืองจะฉิบหายเท่านั้น ต้องถูกสถานการณ์บีบคั้น ถึงจะยอมคลายอำนาจ

ในด้านกลับ ข้อเสนอปิยบุตร ก็คือการทำข้อเสนอของม็อบ “แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา” ให้เป็นรูปธรรม ให้เห็นว่าทำได้จริง จากที่ก่อนหน้านี้ยังงงๆ กันอยู่ว่าจะแก้อย่างไร

นับจากนี้ ม็อบก็จะมีเป้า มีพลัง มีข้อเรียกร้องที่ชัดเจนทางกฎหมาย เลิกมาตรา 269-272 เลิกมาตรา 279 เลิก 250 ส.ว. ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แก้มาตรา 256 เลือก ส.ส.ร.ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ เหมือนรัฐธรรมนูญประชาชน 2540

พรรค พปชร. ทนายวันชัย ทนายเสรี ฯลฯ คงแค้นเคืองว่า ไหมล่ะ ม็อบมีคณะก้าวหน้าพรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลัง แต่ข้อสำคัญคือสังคมจะเอาด้วยไหมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างนี้ ที่ตัดประเด็น “เอาเปรียบ” แล้วยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่

ซึ่งไม่ได้ตัดโอกาสของประยุทธ์ ของพรรคพลังประชารัฐ ยังได้เปรียบด้วยกลไกอำนาจรัฐ องค์กรอิสระ การสร้างผลงานในฐานะรัฐบาล เอาชนะให้ได้แล้วรวมเสียง ส.ส.ให้เกินครึ่ง ก็เป็นนายกฯได้อย่างสง่างาม โดยไม่ต้องถูกประณามว่าตั้ง 250 ส.ว.มาโหวตให้ตัวเอง

ข้อเสนอปิยบุตร ยังประนีประนอมอยู่เยอะด้วยซ้ำ เช่นยอมใช้ ส.ว.ฉบับค้างคืน ระบบเลือกกันเอง “เงียบที่สุดในโลก” แม้แน่ละ จะตามมาด้วยการเลือก ส.ส.ร.ยกร่างใหม่ แต่เวที ส.ส.ร.ก็ไม่มีใครผูกขาด ไม่ใช่ฝ่ายค้านสามารถควบคุมได้ ภายใต้ฐานเสียงก้ำกึ่ง ขึ้นอยู่ที่กระแสสังคมจะเอาอย่างไร จะเป็นเวทีถกกันใหม่อย่างกว้างขวาง เพื่อหาฉันทามติ นำประเทศไปข้างหน้าอย่างปรองดอง

มีคำถามว่าทำไม ปิยบุตรไม่เสนอแก้ระบบเลือกตั้ง ก็ไม่จำเป็นต้องเสนอเอง เดี๋ยวถ้ามีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฝ่ายรัฐบาลเองก็อาจเสนอ เพราะระบบบัตรใบเดียว ต่างเขตต่างเบอร์ สูตรคำนวณเศษมนุษย์ เป็นปัญหากับพรรคใหญ่ทุกพรรค แม้กระทั่ง กกต.ก็คงเข็ด ไม่อยากคำนวณปัดเศษให้ชาวบ้านรุมด่าอีก

โดยภาพรวมนี่คือทางออกที่ทุกฝ่ายควรจะยอมรับได้ที่สุดแล้ว ยกเว้น ส.ว.ตู่ตั้ง 250 คน แต่เพราะระบอบอำนาจนี้ ยอมถอยไม่ได้แม้แต่นิดเดียว จึงมีแนวโน้มที่จะปฏิเสธการแก้ไข ไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของนักเรียนนักศึกษา ที่จะตามมาด้วยประชาชน ในสถานการณ์ที่เสื่อมถอยไปหมดทั้งเศรษฐกิจ สังคม ความยุติธรรม

โธ่เอ๋ย อดีตกรรมาธิการที่แก้ตัวเป็นคุ้งเป็นแคว คดีเฟอร์รารี่พุ่งชน ยังได้เป็น 250 ส.ว. คนเหล่านี้จะเอาอะไรมาปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง

“ถ้า 2 ฉบับแรกผ่าน หมายความว่า ส.ว. ได้หายไปแล้ว บทบัญญัติคุ้มครองรัฐประหารก็ได้หายไปแล้ว การเมืองกลับสู่ระบอบปกติ ซึ่งผมคิดว่าวิธีการแบบนี้จะเป็นการแสดงออกให้เห็นว่า สถาบันทางการเมืองในระบบทั้งหลายนั้นได้แสดงความรับผิดชอบต่อข้อเรียกร้องนิสิตนักศึกษาที่ชุมนุมกันอยู่ทั่วประเทศ”

นี่คือข้อเสนอที่นุ่มนวล แต่อำนาจที่แข็งขืน จะทำให้กลายเป็นหมัดฮุกทรงพลัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน