บทบรรณาธิการ - นับหนึ่งแก้รธน.

นับหนึ่งแก้รธน. – ความเคลื่อนไหวของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เริ่มเด่นชัดด้วยเสียงเห็นด้วยของสมาชิกพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลกับการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเริ่มต้นนับหนึ่ง

คล้ายขานรับข้อเรียกร้องหนึ่งของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเยาวชนที่ผุดขึ้นหลายจังหวัดและแสดงออกอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะยินดีด้วยหรือไม่ อย่างน้อยความเคลื่อนไหวนี้บ่งบอกว่าการมีกลไกรัฐสภาเป็นเรื่องสำคัญ การมีผู้แทนราษฎรหรือตัวแทนประชาชนเป็นเรื่องมีความหมาย

ส่วนจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้นหรือไม่ ต้องพิสูจน์ด้วยผลงานความมุ่งมั่นและความจริงใจต่อไป

แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญย่อมใช้เวลา แต่ย่อมต้องมีกำหนดเวลาเพื่อบรรลุ เป้าหมายที่ชัดเจน

ตามข้อเสนอของสมาชิกพรรคการเมืองขณะนี้ คือให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560

เพื่อนำไปสู่การแก้ไขมาตรา 256 สำหรับการปลดล็อกให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ โดยใช้เสียงข้างมากของรัฐสภา และมีการลงประชามติจากประชาชน

หลักเกณฑ์การเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ตามมาตรา 256 ต้องใช้เสียงของส.ส.จำนวน 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าที่มีอยู่ หรือประมาณ 100 คนสำหรับยื่นญัตติ

จำนวนดังกล่าวมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สมาชิกทั้งพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเห็นตรงกัน

ขั้นตอนสำคัญต่อไปที่พรรคการเมืองหลายพรรคเห็นตรงกันก็คือการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ที่มาจากตัวแทนประชาชนทุกสาขาอาชีพ และมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนทุกจังหวัด

ขณะที่ระยะเวลาในการร่าง เริ่มมีข้อเสนอแล้วเช่นกันว่า กระบวนการทั้งหมดไม่ควรเกิน 1 ปี เนื่องจากมีรัฐธรรมนูญต้นแบบเดิมอยู่แล้ว เพียงปรับเนื้อหาที่เป็นปัญหาและขัดแย้งกับแนวทางประชาธิปไตย

ส่วนบททดสอบว่ารัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนใช้ได้หรือไม่คือการเลือกตั้งใหม่

ดังนั้นถ้าไม่เริ่มนับหนึ่งที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกทางเลือกคือต้องยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่อยู่ดี