คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

บิ๊กเมาน์เท่น – คอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 11 ที่ จ.นครราชสีมา ไม่ได้เป็นข่าวเพียงประเด็นโควิด-19 ประเด็นการแสดงดนตรี หรือประเด็นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ

หากกลายเป็นประเด็นการเมืองที่เข้มข้น

เพราะหลังจากคอนเสิร์ตถูกห้ามจัดงานวันสุดท้าย โดยผู้จัดคอนเสิร์ตก็ถูกดำเนินคดี ฐานฝ่าฝืนคำสั่งทางราชการให้ยุติการแสดง มีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่ข้อโต้แย้งของคนจำนวนมากก็คือ คอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่นถูกเพ่งเล็ง ถูกสั่งห้าม และถูกดำเนินคดี เพราะมีความบกพร่องในด้านมาตรการป้องกันโรค โควิด-19 มากกว่างานอื่นๆ หรือไม่
คําชี้แจงจากฝ่ายราชการระบุชัด ว่าบิ๊ก เมาน์เท่นมีความบกพร่องจนถึงขั้นจัดต่อไปไม่ได้

หากเป็นไปตามนี้จะน่าเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะขณะนี้การควบคุมโรคที่ยังระบาดอยู่ทั่วโลกยังคงมีความสำคัญมากและต้องอาศัยความร่วมมือในวงกว้าง

แต่ขณะเดียวกัน น่าพิจารณาเช่นกันว่าเหตุใดการใช้อำนาจสั่งยกเลิกคอนเสิร์ตกลับสร้างความแคลงใจให้ผู้คนทั่วไป

เหตุใดจึงเกิดคำถามว่ารัฐได้ใช้มาตรฐานเดียวกันในการประเมินความบกพร่องหรือไม่ และได้ปฏิบัติต่อหน่วยงานเอกชนทุกแห่งโดยเท่าเทียมหรือไม่ มีการเปิดโอกาสให้ผู้จัดโต้แย้งหรือชี้แจงเพียงพอแล้วหรือไม่

หรือเพราะมีอำนาจเด็ดขาดอยู่ในมือแล้วจึงไม่จำเป็นต้องรับฟังอะไรอีก
ความบกพร่องหนึ่งที่ทำให้คอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่นถูกสั่งระงับมาจากที่มีผู้ร่วมงานบางคนไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย และหลายคนไม่ได้เว้นระยะห่าง

แต่ภาพงานอื่นๆ หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐเองที่บกพร่องในเรื่องนี้ถูกหยิบยกมาเปรียบเทียบ

แม้รัฐบาลยืนยันว่าการแสดงคอนเสิร์ต และงานบันเทิงรื่นเริงอื่นๆ จากนี้ไปยังคงให้จัดได้ตามปกติ อีกทั้งยังเชิญชวนให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยว และจัดงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่ได้

แต่หากไม่เข้มงวดเหมือนกรณีบิ๊ก เมาน์เท่น เรื่องนี้จะไม่ใช่แค่ประเด็นโควิด-19 อย่างที่เกิดเสียงวิจารณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน