การยืน นิ่งเงียบ
บริเวณ หน้า ‘ศาลฎีกา’
สะท้อน ถึงพลัง

นับวันการดำรงอยู่ของกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” บริเวณหน้าศาลฎีกาจะยิ่งขยาย

ไม่เพียงแต่จะมี “ราษมัม” ไปยืนพร้อมกับ พี่ทราย เจริญปุระ หากแต่ในวันที่ 21 ของการยืนก็มีประกาศเชิญชวนจากกลุ่ม OctDem อย่างเด่นชัด

ก่อนหน้านั้น ก็ได้รับการไปเยือนของ “คนเสื้อแดง”

ยิ่งกว่านั้น ยังได้รับความสนใจจากปัญญาชน นักวิชาการเป็นอย่างสูง ไม่ว่านักวิชาการทางด้านกฎหมาย ไม่ว่านักวิชาการทางด้านรัฐศาสตร์ และสังคมวิทยา

20 กว่าวันของ “ยืน หยุด ขัง” จึงมีแต่ขยายตัว

การขยายตัวของ “มวลชน” ประสานเข้ากับความเข้มข้นภายใน “เรือนจำ”

เป็นความเข้มข้นที่ ไม่ว่า นายอานนท์ นำภา ไม่ว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ไม่ว่า น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ไม่ว่า นายภาณุพงศ์ จาดนอก ไม่ว่า ไผ่ ดาวดิน

ยังถูกคุมขัง แม้ว่าจะยังไม่มีการพิจารณาคดี

ยิ่งกว่านั้น การอดอาหารของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ มาแล้ว 20 กว่าวัน เมื่อผนวกรวมกับการอดอาหารของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ยังปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งทำให้ปฏิบัติการ “ยืน หยุด ขัง” ยิ่งได้รับความสนใจ

ปมเงื่อนของปฏิบัติการ “ยืน หยุด ขัง” สะท้อนเส้นทางสันติ อหิงสา อย่างแจ่มชัด

เพราะอาวุธของพวกเขา คือ การยืนเงียบๆ ไม่มีการปราศรัย เพียงแต่ในการยืนนั้นมีป้ายเหมือนกับจะเป็นเงาสะท้อนในทางความคิด ในทางความรู้สึกออกมา

เป้าหมายอยู่ที่การคุมขัง “เพื่อน” ของเขาไม่ถูกต้อง

เมื่อเป็นการเคลื่อนไหวโดยไม่มีเวที โดยไม่มีการปราศรัย โดยไม่มีแกนนำ หากแต่อาศัยความสมัครใจของผู้คนทยอยกันเข้าร่วม จากเพียงไม่กี่คนก็เริ่ม ทะลุหลักร้อย

กลายเป็นหยดน้ำแต่ละหยด “ประมวล” กันเข้ามา

ลองจินตนาการดูว่า หากการเคลื่อนไหว “หยุด ยืน ขัง” ไปถึงวันที่ 30 จะเป็นอย่างไร

เพราะว่าเพียงวันที่ 20 มวลชนที่เข้าร่วม “หยุด ยืน ขัง” ก็แน่นหนามากยิ่งขึ้น บริเวณหน้าศาลฎีกากลายเป็นพื้นที่ในทางการเมืองขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

สะท้อนให้เห็นว่า “ความเงียบ” ก็แผ่ “พลานุภาพ” ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน