ตัดสินใจเอง – นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ แกนนำนักศึกษา อดอาหารมานานเกินกว่า 30 วันแล้ว เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวต่อสู้คดี ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำทั้งที่ยังไม่ได้ต้องคำพิพากษาแต่อย่างใด จากข้อกล่าวหามากมายอันเนื่องจากการชุมนุมปราศรัย
นอกจากนี้ยังขอถอนทนายความ และปฏิเสธกระบวนการต่างๆ ระหว่างการพิจารณาคดี ชั้นศาล
คดีความทั้งหลายเกิดจากการแสดงความคิดเห็นแตกต่างจากผู้มีอำนาจ จนกลายเป็นข้อสังเกตว่า ถูกตั้งข้อกล่าวหารุนแรงไม่ต่างจากอาชญากรฆาตกรรม
เป็นเรื่องสลดหดหู่ต่อสังคมไทย ที่อำนาจรัฐกระทำต่ออนาคตของชาติ
ต่อกรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงคดีความและการ อดข้าวของนายพริษฐ์ว่าตนเองไปก้าวล่วงไม่ได้ เป็นเรื่องของอำนาจศาล มีเหตุและผลเป็นไปตามกฎหมาย
อีกทั้งคงไม่ต้องห่วงเรื่องการอดข้าวประท้วง เพราะเป็นเรื่องที่ตัดสินใจเอง แต่ก็เป็นห่วงเรื่องของสุขภาพ เพราะเป็นคนไทยที่นายกรัฐมนตรีต้องดูแลเช่นกัน
แต่ก็ขอให้แยกแยะออกจากกันว่า อะไรผิด อะไรถูก เพราะฉะนั้นการอดข้าวจะมีผลต่อกระบวนการยุติธรรมก็คงไม่ใช่ เพราะเป็นกระบวนการของศาล
การตัดสินใจเองของนายพริษฐ์ และพรรคพวกร่วมชะตากรรมเดียวกันในเรือนจำ หากพิจารณาตามข้อเรียกร้องที่เสนอต่อสาธารณะ ผ่านไปยังรัฐบาล ยังคงอยู่ในแนวทางสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นต่าง และยืน บนหลักการประชาธิปไตย
ข้อเรียกร้องต่างๆ ดังที่ปรากฏรับรู้กันทั่ว ทั้งสังคมในขณะนี้ มีเจตนามุ่งหมายให้ประเทศชาติเดินหน้าไปตามครรลองที่ถูกต้อง กลับมา เป็นปกติธรรมดาสามัญ หลังถูกฉุดรั้งผิดเพี้ยน จากหลักการดังกล่าวมายาวนานเกือบ 10 ปี
ขณะที่การตัดสินใจ หรือเลือกเองของรัฐบาล กลับไม่สนใจต่อข้อเรียกร้อง ทั้งที่เป็นหน้าที่โดยตรง แม้แต่การรับฟัง การเจรจา หรือถกเถียงกับพวกเขาอย่างเท่าเทียมและปลอดภัย ก็ยัง ไม่เคยเกิดขึ้นเลย แต่กลับใช้กฎหมายล้าหลังจัดการคนคิดต่างอย่างแข็งกร้าว
เป็นการตัดสินใจเพิกเฉยต่อปัญหา และความรับผิดชอบหรือไม่