การเปิดจองฉีดวัคซีนโควิดป้องกันโรคโควิด-19 วันแรกกลุ่มสูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มได้รับความสนใจพอสมควร
มีผู้ลงทะเบียนจองทางออนไลน์ วันแรกเกือบ 2 แสนคน จากจำนวนของคนกลุ่มนี้ 16 ล้านคน และจะมีระบบการตรวจสอบคัดกรองต่อจากนี้ ว่าจองคิวสำเร็จหรือไม่
ส่วนวัคซีนอยู่ระหว่างการจัดหาของรัฐ หลังจากมีเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง และหลายประเด็น โดยเฉพาะการบริหารจัดการและการประเมินสถานการณ์ผิดพลาดของรัฐบาล
การตั้งแอพพลิเคชั่นและไลน์ “หมอพร้อม” รวมถึงการจองคิวที่โรงพยาบาลเพื่อจะบ่งบอกว่ารัฐบาลเริ่มเตรียมงานเรื่องนี้อย่างเป็นทางการแล้ว
ส่วนความพร้อมจริงๆ นั้นจะต้องรอถึงเดือนมิถุนายน
ช่วงเวลาหนึ่งเดือนสำหรับเตรียมความพร้อม จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องให้ข้อมูลประชาชนเรื่องวัคซีนอย่างรอบด้านและตรงไปตรงมา
คำถามที่ประชาชนถามกันมาก คือจะเลือกยี่ห้อวัคซีนได้หรือไม่ มีวัคซีนอะไรที่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาแล้ว ตัวใดที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและหากผ่านจะผ่านเมื่อใด ตัวใดมีประสิทธิภาพดีที่สุด กับคนกลุ่มใด อายุเท่าใด ฯลฯ
การให้ข้อมูลนี้ต้องชัดเจน และมีเป้าหมายสร้างความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่อ่านไปตามสคริปต์ หรือหงุดหงิดเมื่อมีผู้สอบถามความคืบหน้า
ในเมื่อรัฐยึดบทบาทการจัดหาและกระจายวัคซีนไว้ทั้งหมด จึงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาล
ตัวอย่างของต่างประเทศแสดงให้เห็นแล้วว่า วัคซีนเป็นตัวสร้างความเชื่อมั่นทางหนึ่งที่จะชะลอการระบาดและแก้ไขพลิกฟื้นสถานการณ์ รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องนี้
รัฐบาลควรอธิบายว่าผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำยี่ห้อวัคซีนที่เหมาะกับกลุ่มบุคคล ตามช่วงอายุ หรือตามปัจจัยต่างๆ เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจ และเชื่อมั่น
แต่ที่ผ่านมากลับสรุปว่า ประชาชนคงเลือกยี่ห้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ตนเองไม่ได้ เรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างกว้างขวาง ถึงสิทธิของประชาชนกับการจัดการของรัฐ
นอกจากไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นแล้วยังย้อนกลับไปสู่เสียงวิจารณ์ว่า รัฐบาลผูกขาดยี่ห้อวัคซีนโดยไม่คิดถามประชาชนเลยใช่หรือไม่
รัฐบาลมีแผนพร้อมรับมือกับสถานการณ์ระบาดเช่นนี้แต่แรกหรือไม่