คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

วัคซีนเข็มที่ 3

ระหว่างวันที่ 27 กันยายนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 นี้ รัฐบาลไดัจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวนทั้งสิ้น 24 ล้านโดส กระจายฉีดให้ประชาชนและกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ทั่วประเทศ

แบ่งเป็นประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 16.8 ล้านโดส นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี จำนวน 4.8 ล้านโดส แรงงานในระบบประกันสังคม 8 แสนโดส

หน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐและราชทัณฑ์ จำนวน 1.1 ล้านโดส รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม และต้องการเข็มกระตุ้นหรือเข็มที่ 3 จำนวน 5 แสนโดส

นักเรียนอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปและ ยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์นั้นจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์

สําหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มและต้องฉีดกระตุ้นหรือบูสเตอร์โดสเข็มที่ 3 จะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน สำหรับผู้ที่ได้รับที่เข็ม 2 ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ประมาณ 3 ล้านราย

ส่วนผู้ที่ฉีดเข็มที่ 2 ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมนั้น จะต้องรอการนัดหมายอีกครั้ง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะแจ้งให้ทราบต่อไป โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่อีก

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะมีวัคซีนโมเดอร์นาที่ภาคเอกชนสั่งซื้อผ่านหน่วยงานของรัฐเข้ามาจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัคซีน ที่ประชาชนจำนวนมากสั่งจองซื้อฉีดเอง

เนื่องจากรัฐบาลบริหารผิดพลาดจัดซื้อไว้เพียงสองชนิดเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตายเช่นเดียวกับซิโนแวค และฉีดครบ 2 เข็ม มีแนวโน้มว่าจะต้องฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 เช่นกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดว่ารัฐบาลจะเป็นผู้จัดหาให้ประชาชนฉีดฟรีหรือไม่ และเป็นวัคซีนยี่ห้อใด

ความจริงประเด็นการบริหารจัดการและจัดหาวัคซีนของรัฐบาลนั้น มีผู้ออกมาเตือนและท้วงติงตั้งแต่แรกเริ่มแล้วว่าอย่าแทงม้าเพียงตัวเดียว และวัคซีนเชื้อตายนั้นไม่สามารถป้องกันการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ได้

การฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มและอนุญาตวัคซีนเชื้อตายชนิดเดียวกัน 2 เข็ม จึงเป็นความผิดพลาดอย่างชัดเจน เพราะต้องฉีดกระตุ้นซ้ำอีก เป็นเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนคุณภาพสูง ที่ต้องซื้อเพิ่ม เข้ามาเสริม

ในอนาคตจะต้องมีการฉีดให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งเป็นช่องว่างอยู่ในขณะนี้ รัฐจะต้องตระหนัก และอย่าให้เกิดความผิดพลาดและเสียหายอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน