FootNote:การปรับครม.จะเป็นระเบิดใหญ่ นำไปสู่การแยกแตก ‘การเมือง’

ขณะที่ภายในพรรคพลังประชารัฐถกเถียงกันในเรื่องที่จะมอบหมาย ให้ใครเป็นผู้ประสานงานในการลงพื้นที่ ไม่ว่าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ก็ไปภาคเหนือ ขณะที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไปอีสาน

การเดินสายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไปทางภาคเหนือมิได้ไปคนเดียว หากแต่ยังมี นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคเดินเรียงอยู่เคียงข้าง

ขณะเดียวกัน การเดินสายของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เลือกจังหวัดกาฬสินธ์เป็นเป้าหมายแรก แม้จะไม่มี ส.ส.ในจังหวัดนี้แม้แต่คนเดียวก็ตาม

เท่ากับเป็นการยืนยันที่จะถือเอาภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นเป้าหมายสำคัญ แม้ว่าจะอยู่ในความยึดครองของพรรคเพื่อไทย

นี่คือปณิธานหาญมุ่งของพรรคก้าวไกลไม่ว่าออกหัว ออกก้อย

การเดินสายอย่างต่อเนื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ประสานเข้ากับพรรคเพื่อไทย เท่ากับเน้นย้ำสัญญาณของการเลือกตั้งอีกไม่นาน

ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับบางขั้วบางฝ่ายในพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันให้มีการปรับครม.

การเดินสายทั้งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปรากฏขึ้นอย่างถี่ยิบ

เท่ากับเป็นการเตือนให้เกิดการตื่นตัวในทางการเมืองไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยก็ตาม

มีความเชื่อมั่นสูงเป็นอย่างสูงยิ่งว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวโน้มการเลือกตั้งใหม่

ความคาดหมายของ โทนี่ วู้ดซั่ม คือต้นปี 2565

มีความเป็นไปได้ว่าความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นตัวจุดชนวน โดยเริ่มจากความไม่เป็นเอกภาพในเรื่องการ ปรับครม.จะนำไปสู่การแตกแยก

เป็นการแตกแยกและแสดงปฏิกิริยาในเดือนพฤศจิกายน

เมื่อเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญและมีการนำร่างกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาลเข้าไป และมีการลงมติไม่ผ่านความเห็นชอบ

นั่นเท่ากับเป็นไฟท์บังคับให้ต้องยุบสภาและเลือกตั้งใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน