FootNote:บนเส้นทางตัดสินใจ เปิดประเทศ ความรับผิดชอบ รัฐบาล ประยุทธ์
ไมเพียงแต่พรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ที่ผูกอนาคตทางการเมืองไว้กับความสำเร็จ หรือความล้มเหลวของรัฐบาลอันมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
พรรคร่วมรัฐบาลเกือบ 20 พรรค ก็มีชะตากรรมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
ทันทีที่พรรคพลังประชารัฐ ตัดสินใจขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทันทีที่พรรคพลังประชารัฐ ตัดสินใจแบ่งเค้กในด้านผลประโยชน์ร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ
นับแต่มีการขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกันในเดือนมิถุนายน และมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นเพื่อแถลงนโยบายในเดือนกรกฎาคม 2562
ความหมายก็คือ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และอื่นๆล้วนหายใจร่วมรูจมุกเดียวกัน
นั่นก็คือ รูจมูกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลว ล้วนต้องรับผิดและรับชอบร่วมกัน มิอาจปัดปฏิเสธได้
ยิ่งเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โคโรน่า กระทั่งพัฒนามาเป็นโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นมาตรการใดๆมิได้เป็นความรับผิดชอบ เฉพาะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น
ทั้งในเรื่องของ ‘สาธารณสุข’ ทั้งในเรื่องของ ‘เศรษฐกิจ’ คือการตัดสินใจร่วมกระทำในนามของรัฐบาล
ท่ามกลางการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ โดยมีจุดหนักอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรวมถึงรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีคนใดแสดงบทบาทอย่างไรล้วนเห็นกัน
ล้วนเห็นกันว่าเป็นเอกภาพกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การตัดสินใจในทางการเมืองของทุกพรรคร่วมรัฐบาล จึงเป็นการตัดสินใจอันถือได้ว่าเป็นเอกภาพต่อการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเป็นหนึ่งเดียว
ยิ่งในการตัดสินใจล่าสุดในการ ‘เปิดประเทศ’
ยิ่งทำให้ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ล้วนตัดสินใจไปในทิศทางเดียวกัน
และร่วมชะตากรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งสิ้น