ส.ส.ภูมิใจไทย ตบเท้าปฐมนิเทศ เดินหน้าพิจารณากฎหมายกัญชา เผยมติหลังหารือ

วันที่ 20 พ.ค. เวลา 15.30 น. พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการปฐมนิเทศส.ส.พรรค ว่าที่ประชุมได้นำข้อคิดเห็นของประชาชนมาแลกเปลี่ยนกัน เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขกฎหมาย ให้ส.ส.ได้ปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งในวันนี้ยังได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติด (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติ่ม) ซึ่งมีสาระสำคัญโดยให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ และพืชทางการแพทย์ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า เราจะเดินตามนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชน

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ที่ประชุมได้เปิดให้ส.ส.แสดงความเห็นเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล บางส่วนต้องการให้รัฐบาลทำงานต่อเนื่อง บางส่วนเห็นว่าภท.น่าจะมีบทบาททำให้การเมืองไทยมีความชัดเจน หลังการแสดงความเห็นก็มีมติมอบให้ นายอนุทิน ไปดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลเพียงคนเดียว เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะขณะนี้มีความสับสนและคลุมเครือ ทั้งนี้ พรรคได้ย้ำถึงจุดยืน 4 ข้อมาตลอดคือ การเทิดทูนสถาบัน การจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นต้องไม่สร้างความขัดแย้งให้คนในชาติ การจัดตั้งรัฐบาลหากภท.ไปร่วม จะต้องรับนโยบายของพรรคไปเป็นนโยบายของรัฐบาล และรัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพ บริหารประเทศได้ คือต้องมีเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง

“วันนี้สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล คือภท.ยังไม่ได้รับการประสานงานอย่างเป็นทางการ จากพรรคใดๆ สมาชิกพรรคจึงมีมติมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ประสานงานกับพรรคที่ยังไม่มีมติชัดเจน ว่าจะเลือกไปร่วมรัฐบาลกับพรรคข้างใด โดยนายอนุทิน จะเชิญพรรคเหล่านั้นมาหารือภายใน 2-3 วันนี้ เพื่อให้เกิดมติที่ชัดเจนทางการเมือง และความชัดเจนต่อประชาชน” นายศักดิ์สยาม กล่าว

เมื่อถามว่าจะพุดคุยกับปชป. และพรรคชาติไทยพัฒนา ด้วยหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทุกพรรคที่ยังไม่มีมติ นายอนุทิน จะรับอาสาประสานงานเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าแต่ละพรรคมีแนวทางอย่างไร หากหลังการพูดคุยมีความชัดเจน ก็จะแถลงต่อไป

เมื่อถามว่าได้ชั่งน้ำหนักความคิดเห็นของส.ส.หรือไม่ว่าต้องการให้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ต่อหรือต้องการความเปลี่ยนแปลง นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ยังไม่ได้เปิดดูความคิดเห็น แต่หลังจากให้ส.ส.เขียนจดหมายมาโดยไม่ระบุชื่อ จะนำไปเป็นข้อมูลให้นายอนุทิน พิจารณา เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าภท.ยังกั๊กท่าทีร่วมรัฐบาล นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เราจะทำให้เกิดความชัดเจนใน 2–3 วันนี้ โดยหัวหน้าพรรคจะไปพูดคุยกับพรรคที่ยังไม่ชัดเจน หากได้แนวทางที่ตรงกัน เราจะดำเนินการทางการเมืองต่อไป เมื่อถามว่าหมายถึงพรรคขนาดใหญ่ด้วยหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทุกพรรคที่ยังไม่มีมติ เราต้องฟังทั้งหมดเพื่อหาความชัดเจนให้ได้ภายใน 2- 3 วันก่อนเลือกประธานสภา อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของภท.ไม่ได้ผูกมัดกับมติของพรรคที่ยังไม่มีมติ แค่ให้เกิดความชัดเจนว่าจะทำอย่างไร เพราะการจะจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ได้ ขึ้นอยู่กับพรรคที่ยังไม่มีมติเหล่านี้

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะถูกมองว่าต่อรองเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ เลขาธิการภท.กล่าวว่า คิดว่าคงไม่มีเรื่องนี้ เราทำอย่างเป็นทางการ โปร่งใส ถ้าเราจะเจรจาต่อรองคงไม่ต้องทำแบบนี้ และการมอบให้นายอนุทิน ประสานกับพรรคที่ยังไม่มีมติ ไม่ได้เป็นความพยายามเป็นขั้วที่ 3 จัดตั้งรัฐบาล เราแค่ต้องการทราบแนวทางที่ชัดเจนเท่านั้น ทั้งนี้ เราไม่รู้สึกกดดัน เพราะทุกอย่างที่เรารณรงค์หาเสียงต่อประชาชนเราได้ดำเนินการตามนั้น ส่วนจะชัดเจนเมื่อใด เราคงต้องรอ วันนี้หัวหน้าพรรคคงเริ่มติดต่อประสานงาน อาจโทรศัพท์สอบถาม ยืนยันว่าทุกเรื่องจะทำอย่างเปิดเผยและเป็นทางการ ภายใน 2 วันหลังจากนี้

เมื่อถามว่าภท.ตัดสินใจหรือยังว่าจะเลือกใครเป็นประธานสภา นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ยังไม่มีการประสานงาน แต่ที่มอบให้หัวหน้าพรรคก็มีเรื่องนี้ด้วย เมื่อถามว่าพรรคมีความสัมพันธ์พิเศษกับนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ มีโอกาสที่จะสนับสนุนเป็นประธานสภาหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ทั้งหมดรอการหารือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคได้ให้ส.ส.ของพรรคแสดงความเห็น ด้วยการเขียนจดหมายแสดงความเห็น ว่าอยากให้พรรคมีแนวทางอย่างไรในการร่วมรัฐบาล เขียนจดหมายใส่ซองไม่ต้องเปิดเผยชื่อ และหย่อนใส่กล่อง เพื่อรวบรวมให้หัวหน้าพรรค ซึ่งพบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่เห็นด้วยกับที่มาของส.ว. บางส่วนยืนยันว่าหากพรรคยกมือสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯก็จะไม่ยกมือให้ พร้อมแสดงความกังวลว่า หากไปร่วมกับพปชร. เกรงว่ารัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพ เพราะมีเสียงปริ่มน้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน