เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ท่านนายกรัฐมนตรีครับผมต้องขอกราบขอบพระคุณท่านอย่างยิ่งที่ฝากคำถามพี่ๆสื่อมวลชนมาถึงผมซึ่งเป็นเพียงหิ่งห้อยตัวเล็กๆในสังคมไทย ท่านให้เกียรติผมมากครับที่เอ่ยชื่อผมและฝากคำถามมาถึงผม ท่านถามผมว่าผมทำงานอะไรวันๆหนึ่งมันมาฟ้องทุกวันนั้น คำตอบก็คือผมมีอาชีพเป็นนักกฏหมายของชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทั่วประเทศครับ
เมื่อมีชาวบ้านที่เดือดร้อนและเสียหายจากการใช้อำนาจรัฐและหรือเอกชนในพื้นที่แห่งใดๆทั่วประเทศชาวบ้านเหล่านั้นก็มักจะมาหาผม มาขอให้ผมฟ้องคดีให้ครับ ผมจึงมีความทุกข์ของชาวบ้านนำไปฟ้องร้องได้แทบทุกวันครับ ส่วนรายได้ของผมนั้นก็มาจากน้ำใจของชาวบ้านต่างๆที่ผมช่วยต่อสู้ทางคดีให้ครับ จะมากหรือน้อยอย่างไรนั้นผมไม่คำนึงครับ แต่ก็ทำให้ผมพอซื้อข้าวกิน พอเติมน้ำมันรถได้ครับ แม้พวกเขาจะยากจนหรือร่ำรวยแต่พวกเขาก็มีน้ำใจกับผมมาโดยตลอดครับ ผมฟ้องคดีให้กับชาวบ้านมาแล้วกว่า 3,000 คดีในเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ฟ้องเกือบทุกหน่วยงานรัฐ ฟ้องทุกรัฐบาลโดยไม่เลือกปฏิบัติครับ”
นายศรีสุวรรณ ระบุอีกว่า “ท่านนายกฯครับ ผมเป็นคนไม่มีสีครับ ผมมุ่งแต่ผดุงและแสวงหาความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนเป็นที่ตั้ง และพวกเขาเหล่านั้นไว้วางใจผมจึงมาหาผมให้ช่วยครับ ส่วนการทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ข้าราชการและนักการเมืองนั้น ในฐานะที่ผมเป็นคนไทย และกฎหมายบัญญัติหน้าที่เอาไว้ ให้ทำได้ เมื่อพบเห็นการทุจริตต่อหน้าที่และหรือการคอรัปชั่น ผมก็ต้องทำหน้าที่ในฐานะคนไทยตัวเล็กๆคนหนึ่ง คือ การยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระต่างๆที่มีหน้าที่ไต่สวนหรือตรวจสอบ การทำหน้าที่แบบนี้ท่านนายกฯก็เคยบอกให้คนไทยช่วยกันปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่และการคอรัปชั่นมิใช่หรือครับ ? หรือท่านจะกลืนน้ำลายตนเองครับ หากท่านไม่อยากให้ผมหรือประชาชนตรวจสอบอำนาจรัฐท่านก็เขียนกฎหมายห้ามไว้สิครับ ท่านมีอำนาจเต็มมืออยู่แล้วนี่ครับ แต่ถ้ากฎหมายยังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านและประชาชนตัวเล็กๆอย่างผมยังสามารถใช้สิทธิร้องเรียนได้ ผมก็จะยังคงทำหน้าที่นี้ต่อไป ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลครับ ท้ายนี้ ผมยังคงรักและเคารพท่านเสมอ เพราะท่านเป็นนายกรัฐมนตรีของผม เป็น Idol ของผมครับ”
นายศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในกรณีการตรวจสอบ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ตนยังไม่ได้มีเรื่องร้องเรียนอะไรเพิ่มเติม เวลานี้ปล่อยให้กระบวนการตรวจสอบของอิสระตรวจดำเนินไปก่อน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีคนใกล้ชิดซึ่งมีชื่ออาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านของตน มีอาชีพเป็นคนงานขับรถตู้รับส่งนักท่องเที่ยว โดยเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้ถูกทหารเชิญตัวไปในค่ายทหาร ไปนอนอยู่ 1-2 คืน ซึ่งทหารไม่ได้ถามอะไรเลย ถามแต่เรื่องของตนว่าเป็นคนอย่างไร มีอาชีพอะไร ซึ่งเขาก็ตอบทุกอย่างและยินดีพามาหาตนที่บ้าน เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่นายกฯ จะออกมาพูดถึงตนไม่กี่วัน เหมือนพยายามไปรีดข้อมูลว่าตนมีอะไรปกปิดไว้หรือไม่ ซึ่งตนไม่มีอะไรปกปิดตนเป็นคนตรงไปตรงมา หากอยากตรวจสอบก็ให้มาตรวจ ที่ผ่านมาตนดำเนินการตรวจสอบทุกรัฐบาลอยู่แล้วเป็นร้อยเป็นพันคดีไม่ได้เลือกปฏิบัติว่ารัฐบาลไหน แต่การไปกระทำต่อคนใกล้ชิดในลักษณะคุกคาม คิดว่าเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม
