‘ชวน’ เปิดใจหลังนั่ง ปธ.สภาฯ เผยกลับมาเพราะจำเป็น ยันไม่มีเงื่อนไขร่วมรัฐบาล พปชร.
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 25 พ.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังที่ประชุมสภาลงมติเสียงข้างมาก 258 เสียง ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขอขอบคุณส.ส.ที่มาร่วมประชุมและสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว แต่เดิมไม่มีความคิดจะกลับมาดำรงตำแหน่งอีก แต่เมื่อมีความจำเป็นจึงกลับมา
และตั้งใจจะทำให้สถาบันนิติบัญญัติที่เป็น 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตยให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาภาพสภาไม่ค่อยสวย และ 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีตัวแทนจากประชาชนเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้น ภาพของสภาจึงไม่เป็นบวก จึงคิดว่าจะเรียกส.ส.ทั้งหมด หารือในการบริหารงานของสภาและทำให้สภาน่าเชื่อถือมากขึ้น
“สำคัญที่สุดคือการทำให้สภาเป็นศูนย์กลางรับฟังปัญหาของประชาชนให้มากที่สุด สภาแห่งนี้ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่ออกกฎหมาย แต่ทำหน้าที่เลือกฝ่ายบริหาร เพราะในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบรัฐสภาของเรากำหนดให้เสียงข้างมากเป็นผู้กำหนดฝ่ายบริหาร นี่คือสิ่งที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ”
“ผมคิดว่าพระบรมราโชวาท เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นประโยชน์ยิ่งกับทุกฝ่ายให้ตระหนักถึงภารกิจที่สำคัญ โดยการกระทำของสมาชิกจะมีผลโดยตรงต่อความมั่นคงและความทุกข์สุขของประชาชน หากใช้สภาเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดปัญหาได้ สมาชิกรัฐสภาเป็นฝ่ายออกกฎหมาย เราต้องเป็นแบบอย่างของผู้ที่เคารพกฎหมาย ไม่ละเมิดกฎหมาย ไม่เป็นอภิสิทธิ์ชนที่ใช้กฎหมายเกินขอบเขต ซึ่งเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจในสภา”
“ทั้งหมดผมจะขอพูดอีกครั้ง หลังจากม่ีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และจากนั้นผมจะนัดหารือกับประธานวุฒิสภาและพรรคการเมืองต่างๆ ว่าจะร่วมมือทำงานอย่างไร เรื่องที่ต้องทำเร็วที่สุด คือ ประเทศเป็นประธานอาเซียนในเดือนหน้า”
นายชวน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสภาฯ โดนวิพากษ์วิจารณ์ส่วนหนึ่งมาจากสมาชิก นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ยังพูดถึงนักการเมืองอีก ผมจึงเรียนกับพล.อ.ประยุทธ์ว่าส.ส.มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่ใช่ทั้งหมด อย่าเหมารวม ทุกหน่วยงานล้วนมีคนดีและคนไม่ดีด้วยกันทั้งสิ้น ตนขอยกพระบรมราโชวาท ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสว่า ไม่มีใครสามารถทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ แต่ต้องส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง
ทั้งนี้ นายชวน ปฏิเสธที่พรรคประชาธิปัตย์จะมีข้อผูกมัดต่อการร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากไม่เกี่ยวกัน ความชัดเจนเรื่องร่วมรัฐบาลขอให้สอบถามกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยยืนยันว่าการรับตำแหน่งประธานสภาไม่มีเงื่อนไขใดๆ ต่อประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพราะหากมีเรื่องการต่อรอง ตนจะไม่ขอรับการเสนอชื่อเป็นประธานสภา
“สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เจาะจงมา หากเป็นผมพร้อมจะยอมรับ เพราะเป็นพฤติกรรมและเป็นภารกิจที่ต้องทำต่อไป ฐานะที่เป็นประธานฝ่ายนิติบัญญัติ โดยจะทำงานสภาให้ดีที่สุด แต่จะไม่โดดเดี่ยว ต้องทำงานร่วมกันกับทุกคน โดยเฉพาะฝ่ายบริหารที่ต้องเข้าร่วมประชุมสภา เพื่อแก้ปัญหาผ่านการตอบกระทู้สด และกระทู้แห้ง หรือญัตติ รวมถึงการตราพระราชบัญญัติ ที่เรื่องส่วนใหญ่มาจากฝ่ายบริหาร ต้องทำอย่างไรให้สามารถเดินไปได้”
“เพราะการมีสภาที่มาจากการเลือกตั้งทุกครั้ง มักถูกบ่นว่าไม่เหมือนสภาที่มาจากการแต่งตั้ง เพราะฝ่ายบริหารสามารถสั่งได้ว่าเรื่องใดต้องออกตอนไหน แต่ในสภา ส.ส.สั่งไม่ได้ เราต้องทำอย่างไรไม่ให้งานล่าช้า ขณะเดียวกันส.ส.ต้องมีสิทธิแสดงความคิดเห็น และต้องมองเรื่องของชาวบ้านเป็นเรื่องสำคัญ ในฐานะที่ ส.ส.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน” นายชวน กล่าว
นอกจากนี้ ว่าที่ประธานสภาฯ กล่าวตอบคำถามกรณีที่บรรยากาศการประชุมสภาฯ วันแรกเป็นไปด้วยความปั่นป่วน มีคนประท้วงด้วยข้อบังคับเป็นเวลานาน ว่า ไม่หนักใจหรือคิดว่าเป็นปัญหา
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
