อนุทิน ซัดอย่ามโน ปูดข่าวภท.เรียกขรก.คมนาคมให้นโยบาย ชี้‘ชาดา’เหมาะรมช.เกษตร

อนุทิน / เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงกรณีที่มีข่าวพรรคภูมิใจไทยเรียกข้าราชการกระทรวงคมนาคม มาให้นโยบายก่อนเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการ โดยเฉพาะเรื่องสัมปทานและโครงการสำคัญต่างๆว่า อย่ามโน ใครจะไปทำแบบนั้น เนื่องจากการแต่งตั้งใดๆ ยังไม่เกิดขึ้น แม้จะมีการพูดคุยเจรจาหารือระหว่างพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาล ทุกอย่างเป็นไปตามนั้น แต่พวกตนก็รู้มารยาทว่าเมื่อยืนยันตำแหน่งกันแล้ว วันที่เราจะเข้าไปทำงานได้คือวันที่เราได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีต้องสั่งการ และถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน การเขียนข่าวแบบนี้เป็นการทำลายกันไม่จบไม่สิ้น รวมทั้งไม่ต้องไปถามใครในพรรค เพราะในพรรคภูมิใจไทยไม่มีใครใหญ่ไปกว่าตนแล้ว ในฐานะหัวหน้าพรรคหากมีใครในพรรคไปทำแบบนั้นจริง ก็เหมือนกับเขาเขียนใบลาออก เพราะตนไม่มีทางส่งคนประเภทนี้หรือคนพันธุ์นี้เข้าไปทำงานบริหารบ้านเมืองแน่นอน ซึ่งตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่รู้ว่ามีข่าวออกมาได้อย่างไร

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อถามว่ามีการพูดกันปากต่อปากระหว่างพ่อค้าหุ้นว่า นายอนุทินไปพูดกับบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งว่าเมื่อไหร่ที่พรรคภูมิใจไทยเข้ามาทำงาน รมว.คมนาคม จะสั่งรื้อข้อตกลงระหว่างการทางพิเศษ และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) นายอนุทิน กล่าวว่า ตนจะไปทำเพื่ออะไร ไม่มีเหตุผลต้องทำแบบนั้น โดยเฉพาะอะไรที่เป็นสัญญา เช่น กรณีบีอีเอ็มของบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) จากที่ติดตามข่าวทราบว่ามีคำพิพากษาของศาล หากเป็นคำพิพากษาของศาลทุกคนก็สบายใจ เราก็ต้องทำตาม ถ้าไม่ทำตามใครจะมาลงทุนและเป็นคู่สัญญาของรัฐ

“พาดหัวข่าวนี้ผมอ่านมาหมดแล้วว่าผมมีคำสั่งเบรก และคำสั่งห้ามหากได้เป็นรมว.คมนาคม คุณก็รู้ว่าหากผมจะได้ดิบได้ดีในรัฐบาลชุดนี้ ผมก็อยู่กระทรวงสาธารณสุข จะไปสั่งเบรกเพื่ออะไร ผมก็ไม่ทราบ เรื่องนี้มีกระบวนการเพื่อทำให้เกิดแรงกระเพื่อม และเพื่อให้เกิดความแตกสามัคคีภายในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เราก็ไม่ทราบ แต่รับรองในฐานะหัวหน้าพรรค หากมีเรื่องแบบนี้ผมต้องทราบ และมั่นใจลูกพรรคผมไม่มีใครปัญญาอ่อนไปทำแบบนี้”นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจหรือไม่ว่าไม่มีใครในพรรคภูมิใจไทยไปทำแบบนี้โดยไม่บอกให้หัวหน้าพรรคทราบ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ปลัดกระทรวงคมนาคมชื่ออะไร อธิบดีกรมทางหลวงเป็นใคร ตนยังไม่ทราบ เพราะไม่ได้ติดตามกระทรวงนี้มานานแล้ว ถ้าคนที่มีวุฒิภาวะแบบพวกตนไปทำแบบนั้นจริง โดยที่ยังไม่ถูกแต่งตั้งแล้วไปเรียกคนนั้นคนนี้มา หรือหากมีข้าราชการในกระทรวงติดต่อมาคุยเรื่องแผนการทำงานก่อนนั้น ตนก็ปฏิเสธ เพราะยังเป็นไปไม่ได้ ตนถือคติว่าเช็คต้องผ่านธนาคารก่อน

เมื่อถามว่าหมายความว่ามีข้าราชการเสนอตัวจะสรุปแผนการทำงานในกระทรวงคมนาคมให้ฟังล่วงหน้าก่อนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ความผิดเขา เพราะคนเรามีพรรคพวก วันนี้ตนเดินไปไหนก็อายเขาจะตาย เพราะมีคนเรียกท่านรองนายกฯ และเรียกท่านรัฐมนตรี ทั้งที่เรายังไม่ได้เป็น ตนก็พยายามเดินหลบไปหลบมา จะให้ไปตีปากก็ไม่กล้าตี เขาก็พูดแบบหวังดีว่าจะให้ไปสรุปแผนการทำงานก่อนหรือไม่ เช่น เรื่องนโยบายกัญชาเสรี ตนจึงบอกว่าขอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน ตอนนี้อย่าเพิ่งเข้ามาเลย เพราะมันไม่ดี ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปเรียกปลัดกระทรวงหรืออธิบดีมารายงานการทำงาน เพราะตอนนี้ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ

เมื่อถามว่าแต่เรื่องนี้มีการมองไปถึงนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าความเก๋าทางการเมืองของนายเนวิน มีมากกว่าตน อีกทั้งตนก็เรียกลูกพี่ เพราะนายเนวินมีวุฒิภาวะมาก เรื่องนี้จึงเป็นไปไม่ได้ หากใครไปทำแบบนั้นก็หนักไปใหญ่ รวมถึงนายเนวินก็ไม่มีชื่อเป็นรัฐมนตรี ส่วนที่มีชื่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย น้องชายของนายเนวิน จะเป็นรมว.คมนาคมนั้น ถ้าตามโผนายศักดิ์สยาม มีอายุ 57 ปีแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ ถ้าเขาจะทำอะไรก็ต้องปรึกษาพรรค เพราะเขาเป็นเลขาธิการพรรค ตนปฏิเสธได้เรื่องนี้ เพราะเขาไม่เคยทำ

นายอนุทินกล่าวว่า ส่วนที่มองว่าบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นคู่แข่งของบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) และบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในเรื่องการก่อสร้างนั้น ตนยืนยันว่าตอนนี้บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) เป็นคู่แข่งของบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เราทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะการสร้างสร้างโครงการรถไฟสายสีส้ม ถามว่าเราจะมาฆ่ากันเองทำไม รวมถึงเรื่องบีอีเอ็มก็ไม่ใช่ธุรกิจบริษัทของครอบครัวตน เพราะเป็นเรื่องของสัมปทาน

นายอนุทินกล่าวว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล พ่อของตนก็กำชับเรื่องการทำสัมปทานกับรัฐเสมอ เพราะวุ่นวายเรื่องสัญญา ส่วนที่ไปจับมือทำรถไฟฟ้าไปสนามบินอู่ตะเภานั้น เท่าที่ทราบเป็นเรื่องการก่อสร้างเพียงอย่างเดียว ส่วนจะต้องไปทำงานร่วมกับใครนั้น ตนไม่ทราบ เพราะตนออกจากบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) มาหลายปีแล้ว และไม่เคยกลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัทอีก ส่วนที่มองว่ามีการใช้ตึกบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นวอร์รูมของตนนั้น ก็เพียงเช่าตึกเพื่อให้มีห้องทำงานเท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของตึก เมื่อมาเป็นส.ส.แล้วก็ต้องทำทุกอย่างให้โปร่งใส เรื่องการใช้จ่ายทุกอย่างต้องชี้แจงได้

เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวว่าจะมีการสลับตำแหน่งให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค และส.ส.อุทัยธานี จากเดิมรมช.มหาดไทย ไปเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้นายชาดา ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เรานำมาพิจารณา ตำแหน่งรมช.ของพรรคมี 4 ตำแหน่ง แต่เรามีแคนดิเดต 12 คน ซึ่งกำลังคุยกันอยู่ ดังนั้นยังไม่มีอะไรลงตัว และเป็นข้อสรุปแน่นอนตอนนี้

เพราะเท่าที่ทราบ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากเรามีประชุมอาเซียนซัมมิต ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันต้องเป็นตัวแทนประเทศไทยในการประชุมหารือกับผู้นำอาเซียนก่อน ตนยังมีเวลาอีก 2-3 สัปดาห์ในการตัดสินใจ ดังนั้น อย่าเพิ่งมาเร่ง แต่ถ้านายกรัฐมนตรีจะต้องนำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามทุกคนอยู่ในตะกร้า ข่าวที่ออกมาก็มั่วบ้างจริงบ้าง

เมื่อถามว่าสเป๊กแบบนายชาดา ควรอยู่รมช.มหาดไทย หรือรมช.เกษตรฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าถามตนอยากให้อยู่กระทรวงเกษตรฯ เพราะจากที่ไปปราศรัยหาเสียงร่วมกับตน นายชาดาปราศรัยเรื่องข้าว เรื่องอ้อย และเรื่องการดูแลเกษตรกร ตนก็ไม่รู้ว่าชื่อนายชาดา ไปอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยได้อย่างไร แต่ทั้งหมดนี้ต้องผ่านการพิจารณาของผู้ใหญ่ในพรรค ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคต่อไป

อ่านข่าว โผล่าสุด ครม.บิ๊กตู่ ‘ผู้กองมนัสฯ’ เอาน้องเป็น รมต. เซอร์ไพรส์ ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ !

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน