‘บิ๊กตู่’ ของขึ้น ชี้ประเทศล้มเหลว ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
ฉะคนอยู่ต่างแดนสร้างความเสียหาย
เมื่อเวลา 22.25 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่ศูนย์ประชุมทีโอที แจ้งวัฒนะ ในการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงภายหลังนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายโจมตี โดยกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวและน้ำเสียงดุดันว่า เสียดายวันเวลา 2 วันที่ผ่านมา รัฐบาลเก่าและรัฐบาลใหม่ที่มานั่งในสภาฯ ก็เพื่อรับฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ เสียดายในช่วงท้ายที่เราจะจากกันด้วยดี
“อยากจะบอกว่าแม่ผมก็เป็นครู เมียของผมก็เป็นครู ไม่เคยมีใครแสดงกิริยาอย่างนี้ใส่ผม ตอนนี้พยายามทำให้ผมโกรธ แต่ผมไม่โกรธ ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นต์ทุ่มเททำงานมาตลอดอย่างน้อย 5 ปี ถ้าไม่มีปัญหา ไม่มีเรื่อง ก็ไม่มีใครอยากทำ แล้วผมจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร เอาปืนมาบังคับ เอาปืนมาจ่อ และวันนี้บรรดาเพื่อนในรัฐบาลใหม่ของผมก็ตั้งใจทำงาน ไม่ว่าจะ 10 พรรคหรือ 100 พรรค ผมก็จะทำงาน”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราติดหล่มประเทศมาเป็นเวลา 10 ปี เป็นบ้านที่ล้มเหลวเหมือนบ้านที่กำลังจะพังลงไป วันนี้เรามาช่วยกันต่อเติม ถ้ามางัดแฉลงกันอยู่อย่างนี้ก็ไปไม่ได้ วันนี้มาแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง เพราะเราเคารพในกระบวนการของรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะทำงานได้ก็ต้องหลังแถลงนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ สำหรับปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ทุกคนก็รู้ดี แต่ทำไมไม่ช่วยกันแก้ มาว่าคนนั้นคนนี้แล้วจะแก้ได้อย่างไร
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงตรงนี้ มีส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนหัวเราะขึ้นมา ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถามว่า “อะไรอีกครับ เกิดอะไรขึ้น มีใครไม่สบายหรือเปล่า” จากนั้นกล่าวต่อว่า ตนรู้ว่าท่านต้องการให้ตนเป็นอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วตนเป็นยิ่งกว่านี้ นี่ระมัดระวังที่สุดแล้ว เพราะตนทำงานท่ามกลางความกดดัน แบกภาระของคนทั้งประเทศ 70 กว่าล้านคน ที่ผ่านมาดูแลคนกี่ล้านคนที่ว่าดี ทุกภาคไหม ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัดไหม แล้วเปรียบกันสิว่า ที่ผ่านมา 5 ปี มีงบประมาณลงไปทั้งตำบล ทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัดเท่าไหร่ ส่วนเรื่องการทุจริตก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าตนทำผิดฐานละเมิด หรือละเว้นก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ตนยังไม่ได้ละเมิดอะไรเลย ขอให้แยกแยะให้ออกว่าอะไรคือการกระทำผิดเชิงนโยบาย
“มันมีหน่วยงานตั้งกี่ระดับ ท่านก็เป็นรัฐบาลกันมาหลายรอบแล้ว รมต. ครม. กระทรวง กรมอีก 200 กว่ากรม ข้าราชการอีกล้านกว่าคน ท่านพูดเหมือนกับคนล้านกว่าคนไม่ทำอะไรเลย เขาไม่เสียใจหรือ มันเกิดความล้มเหลวมากี่ปีแล้ว มันเกิดจากอะไรทุกคนต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งหมด เพราะมันเกิดในประเทศไทย ไม่ได้เกิดที่อื่น แล้วใครอยู่ในประเทศไทยก็คนไทย เว้นแต่คนที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ที่ไปสร้างความเสียหาย ใครก็ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็มาโทษกันอยู่นั่นแหละ การเมืองถึงปฏิรูปไม่ได้”
“ที่ผ่านมามันดีนักหรือไง เงินมันหายไปเท่าไหร่ ท่านรู้ไหมปล่อยลปละละเลยกันเท่าไหร่ พอรัฐบาลเข้มงวด กลายเป็นรังแกคน ใครอยากจะกลับไปแบบเดิม ก็ไปเลือกตั้งมาใหม่ นาปรังไม่ได้ห้าม เขาเพียงแต่เตือนว่าอย่าทำนาปรังในช่วงที่น้ำน้อย แล้วท่านจะบอกว่าผมไปห้าม คุณห้ามชาวนาของคุณได้ไหม เขาเปลี่ยนไหม เพราะคุณสอนแบบนี้ เขาถึงไม่เปลี่ยนอะไรสักอย่าง”
“ส่วนการขึ้นภาษี ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปขึ้น มันต้องมีเหตุผลให้เกิดความสมดุล ท่านยอกบอกเอื้อคนรวย ตนไม่ได้แก้ตัวให้คนรวย อย่างบางคนมีบริษัทหลายกิจการที่เป็นนวัตกรรมที่มีราคา มีมูลค่า แล้วท่านทำไมไม่สร้างให้ประชาชนเข้มแข็งด้วยตัวเอง รอแต่รัฐบาลช่วย แนะนำอะไรก็บอกไม่ใช่”
“บางคนทำให้เกิดความแตกแยก อยู่แบบนี้ มันไปไม่ได้ เรื่องอาชญากรรม โจร แล้วใครล่ะก็ ลูกหลานเราทั้งนั้น ครอบครัวเขาเป็นไง รายได้เขาเป็นไง ต้องช่วยเขา ไม่ใช่ว่าผมสบาย ผมรวย ผมมีรายได้ 2 ทาง ผมมีเงินเยอะ ผมแทบไม่ได้ใช้เงินเลยวันหนึ่ง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกรัฐสภาได้หัวเราะอีกครั้ง ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ถามอีกว่า “หัวเราะอะไร มันตลกนักหรือไง เวลาคุณพูดผมยังไม่ตลกเลย อย่าพูดเอาสนุก ใครจะว่าผม ผมเป็นนายกฯ แบบนี้ จะเป็นแบบนี้ เวลาดี ผมก็ดี การเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ดีตลอดเวลา ไม่งั้นบังคับบัญชาใครไม่ได้ แต่ผมไม่เคยไปสั่งรัฐมนตรีคนไหน หัวเราะเข้าไป พอใจชอบ เห็นโมโห ชอบ ผมก็ไม่ใช่คนบ้าแบบนั้นหรอกนะ”
“ผมอดทนมากนะ 2 วัน แต่ผมไม่ไปเรียกร้องจากใคร ผมไม่โทษท่านหรอก เพราะผมทำตัวเอง ท่านคนดีคนเก่งทั้งนั้นแหละ เรื่องคดีอะไรต่างๆ ให้ศาลตัดสินมา คนที่ถูกศาลตัดสิน ถ้าดีนัก เก่งนัก กลับเข้ามา ไปบอกด้วย เรากำลังให้ยา ไอ้นี่เติมเชื้อโรคเข้าไปอีก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 22.30 น. ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์กำลังอภิปรายอยู่นั้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางมาที่หอประชุมใหญ่ฯ เพื่อให้กำลังใจกับ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่
