บิ๊กช้าง แจง ‘อับดุลเลาะ’ ดับ ยันยึดหลักสิทธิมนุษยชน พบจนท.ละเมิดจะฟันอาญา-วินัย
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่รัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งช่วงการหารือก่อนที่จะเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม น.ส.เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรรคภูมิใจไทย หารือกรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี โดยขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว และขอให้ทบทวนการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ใช้มาตลอด 15 ปี ซึ่งควรใช้กฎหมายปกติเหมือนในพื้นที่อื่นๆ ได้แล้ว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
จากนั้นเข้าสู่วาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ถามถึงกรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ที่ยังเป็นปริศนาถึงสาเหตุการเสียชีวิต ประชาชนในพื้นที่ยังเคลือบแคลงสงสัย จึงขอถามว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะมีการตั้งคณะกรรมการอื่นที่เป็นกลาง โดยไม่ใช่เจ้าหน้าที่ทหารเป็นประธานหรือไม่ รวมถึงการจ่ายเงิยเยียวยาจากการเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่ ซึ่งกรณีของนายอับดุลเลาะ รัฐจะเยียวยาอย่างไร ส่วนการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดเวลา 15 ปี ถึงเวลาทบทวนหรือยกเลิกกฎอัยการศึก และพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วหรือยัง
ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งรัฐบาลยึดถือน้อมนำยุทธศาสตร์เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนจากเศรษฐกิจในพื้นที่ ควบคู่กับความปลอดภัยของประชาชน ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง และต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม สำคัญที่สุดคือต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างมาก กำลังพลที่จะลงไปปฏิบัติหน้าที่จะต้องได้รับการอบรมความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน และสร้างจิตสำนึกให้เจ้าหน้าที่ตระหนักรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะดูแลให้ความยุติธรรมอย่างทั่วถึง หากเจ้าหน้าที่ละเมิดจะต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาดทั้งทางอาญาและวินัย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 คณะ คือ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีการติดตามซักถามเจ้าหน้าที่ทุกคน
พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงต่อว่า ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้นมาใหม่นั้น ญาติผู้เสียชีวิตสามารถดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายได้ ขณะที่เรื่องการเยียวยาศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีมติให้จ่ายเงินเยียวยาครอบครัวนายอับดุลเลาะ จำนวน 5 แสนบาท
ส่วนความเป็นไปได้ในการยกเลิกกฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงว่า ที่ผ่านมามีการลดระดับการใช้กฎหมายลงจากพ.ร.ก.เป็นพ.ร.บ.แล้ว 8 อำเภอ และจะเสนอเพิ่มอีก 1 อำเภอ คือ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ทั้งนี้ ยืนยันว่า การดำเนินการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาพื้นที่เพื่อยกระดับให้มีเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ควบคู่กับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของคนในพื้นที่ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน โดยไม่เลือกปฏิบัติ
